ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - นายกสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย หลังถูกหมายเรียกฐานชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าตัวพ้อไปรอประชุมกับรัฐมนตรีเพื่อแก้ปัญหาให้แก่ชาวประมง กลับถูกมองว่าผิดกฎหมาย ยืนยันพร้อมเดินหน้าสู้เพื่อพี่น้องชาวประมงพื้นบ้านทั่วประเทศ
วันนี้ (19 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการเปิดเผยจาก นายบรรจง นะแส นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย ว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ตัวแทนชาวประมงพื้นบ้าน 18 จังหวัด เดินทางไปที่ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรณีขอให้มีการแก้ไข ม.34 พ.ร.ก.การประมง ที่ห้ามประมงชายฝั่งออกหาปลาเกิน 3 ไมล์ ซึ่งชาวประมงพื้นบ้านได้ยื่นหนังสือมามาตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค.แล้ว
“เห็นไม่มีคำตอบใดๆ จึงส่งตัวแทนมาพบรัฐมนตรีในวันที่ 4 กุมภา รออยู่ครึ่งวันก็ได้เข้าพบ รมต.ในกระทรวงคุยกันจนบรรลุเป้าหมายที่จะแก้ปัญหา และท่านนายกรัฐมนตรีก็แยกประชุมนั่งหัวโต๊ะที่ทำเนียบ อยู่ๆ ในวันนี้มีหมายเรียกผู้นำตัวแทนไปรับทราบข้อกล่าวหาว่าจัดชุมนุมโดยไม่แจ้ง มีความผิดตามกฎหมา ยปรับไม่เกิน 10,000 บาท ใครช่วยอธิบายหน่อยว่า การชุมนุมกับการไปนั่งรอพบ รมต.มันต่างกันยังไง โอเคว่าตอนรอก็มีการนำกุ้งหอยปูปลาไปตั้งให้สื่อมวลชนได้ดูบ้าง ก็เพียงเพื่อจะบอกว่า พี่น้องจับสิ่งเหล่านี้นอกเขต 3 ไมล์ หากห้ามก็จะไม่มีอะไรกินก็แค่นั้น และเมื่อถึงเวลา รมต.พร้อมท่านเลขา รมต.ก็ออกมาบอกให้ไปประชุม ก็แค่นั้น เป็นการชุมนุมได้อย่างไร”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ที่ถูกเรียกตัวให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.นางเลิ้ง คือ นายสะมะแอ เจ๊ะมูดอ นายกสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย ซึ่งเจ้าตัวระบุว่า แม้จะรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมแต่ก็ยินดีที่จะพิสูจน์ตัวเอง และต่อสู้กับเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด
“ผมเคยพูดในวันนั้นว่า ผมอยู่ที่บ้านก็ผิดกฎหมายประมง กรณีออกหาปลาเกิน 3 ไมล์ ผมมาที่นี่ก็ผิดกฎหมาย จากข้อกล่าวหาว่า ชุมนุมเรียกร้อง ผมยอมทำผิดกฎหมายวันนี้ เพื่อให้ชาวประมงทั้งประเทศจะได้ทำงานอย่างถูกกฎหมายในวันหน้าก็เท่านั้นล่ะครับ ผมไม่ได้เรียกร้องผลประโยชน์ให้เป็นของปัจเจก ผมเรียกร้องขอคืนพื้นที่ทำมาหากินแก่ชาวประมงพื้นบ้านที่เคยมีสิทธิมาตั้งร้อยๆ ปีมาแล้ว กลับคืนมาให้คนในชุมชน” นายสะมะแอ กล่าว