ระนอง - เกิดความวุ่นวายในเทศบาลเมืองระนอง เมื่อมีนายกเทศมนตรีถึง 2 คน หลังศาลปกครองสั่งให้นายกฯ คนเดิมพ้นผิดกลับมาปฏิบัติหน้าที่เหมือนเดิม ในขณะที่มีการเลือกตั้งนายกฯ คนใหม่มาทำหน้าที่ระหว่างเรื่องอยู่ในชั้นศาล ผู้ว่าฯ ระนอง ระบุแจ้งคำสั่งศาลให้สองฝ่ายรู้แล้ว ถือว่าจบหน้าที่ผู้ว่าฯ แต่สุดท้ายเจรจายังไม่ได้ข้อยุติ โดยฝ่ายนายกเล็กที่เพิ่งเลือกตั้งชี้ยังไม่มีคำสั่งให้หยุดทำหน้าที่ แนะผู้ว่าฯ-มหาดไทย ชี้ขาด ส่วนฝ่ายนายกเล็กคนเดิมโร่แจ้งความ เหตุเข้าทำหน้าที่ไม่ได้
จากกรณี นายสมชาย ข้ามสมุทร นายกเทศมนตรีเมืองระนอง ถูกคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งเมื่อปี 2557 เหตุถูกร้องว่าขาดคุณสมบัติ ก่อนนายสมชาย จะยื่นเรื่องร้องศาลปกครอง และรอการพิจารณา แต่ขณะเดียวกัน ได้มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองระนองแทนตำแหน่งที่ว่างลง ซึ่งผลออกมา นายพินิจ ตันกุล ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองระนอง ในวันที่ 3 มิ.ย.2557 ต่อมา ศาลปกครองได้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งให้นายสมชาย พ้นจากตำแหน่ง และให้กลับมารับตำแหน่งเดิม แต่ผู้ว่าฯ ระนอง ได้อุทธรณ์คดีต่อศาลปกครองสูงสุด กระทั่งวันที่ 21 ก.ย.2558 ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งยืนตามศาลปกครองชั้นต้น โดยให้นายสมชาย กลับมารับตำแหน่ง
เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.58 นายสมชาย ข้ามสมุทร นายกเทศมนตรีเมืองระนอง ที่เคยถูกคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง พร้อมด้วยกลุ่มมวลชน 30 คน เดินทางมายังสำนักงานเทศบาลเมืองระนอง เพื่อเข้าร่วมหารือ และหาข้อสรุปถึงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองระนอง ก่อนเข้าพบนายพิชาญ ไชยฤกษ์ ปลัดเทศบาลเมืองระนอง เพื่อขอลงลายมือชื่อมาทำงาน โดยมีตำรวจกว่า 50 นาย คอยดูแลความเรียบร้อย
ต่อมา นายพินิจ ตันกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองระนอง ที่ได้รับการเลือกตั้งได้เข้าหารือกับนายสมชาย โดยมี นายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ ผู้ว่าฯ ระนอง และนายฐานิต พรหมทอง ปลัดจังหวัดระนอง เป็นคนกลางพูดคุย และหาทางแก้ไขปัญหา โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ ยังได้ทำหนังสือด่วน 2 ฉบับ ถึง นายพินิจ เพื่อแจ้งให้ทราบถึงคำสั่งของศาลปกครองสูงสุด ที่ให้นายสมชาย กลับมารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองระนอง พร้อมให้นายพินิจ มอบหมายงานในหน้าที่ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 18 ธ.ค.58 ที่ผ่านมา
นายสุริยันต์ ชี้แจงว่า ได้แจ้งคำสั่งศาลปกครองให้ทั้ง 2 ฝ่ายทราบแล้ว ถือว่าจบหน้าที่ของผู้ว่าฯ ก่อนมาทราบว่ามีปัญหาอีก จึงเดินทางมาร่วมพูดคุยไกล่เกลี่ย เมื่อตกลงกันไม่ได้ โดยฝ่ายหนึ่งต้องการให้ผู้ว่าฯ ทำหนังสือหารือไปที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อหาข้อเท็จจริง และความชัดเจน ซึ่งก็รับปากจะรีบดำเนินการโดยด่วน ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอม และจะฟ้อง โดยสามารถดำเนินการตามสิทธิได้ ส่วนท่านใดที่จะกล้าเซ็น หรือบริหารเทศบาลเมืองระนอง หากมีผลย้อนหลังตามกฎหมายก็ต้องรับผิดชอบตัวเอง เราอย่าไปเถียงกัน ไม่งั้นไม่จบ และไม่มีประโยชน์
ขณะที่ฝ่ายของนายพินิจ โต้แย้งว่า หากผู้ว่าฯ ทำแบบนี้เรื่องก็ไม่จบ และไม่เด็ดขาด เพราะคำสั่งให้นายกเทศมนตรีเมืองระนองคนปัจจุบันหยุดการปฏิบัติราชการก็ไม่มี และยังไม่มีคำสั่งจากกระทรวงมหาดไทยด้วย จึงอาจทำให้ชาวบ้านสงสัยว่า เหตุใดผู้ว่าฯ ระนอง ถึงปล่อยให้มีนายกเทศมนตรีเมืองระนองอยู่ถึง 2 คน ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องชี้ชัด และกระทรวงมหาดไทยต้องเร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วน หากมีคำสั่งจากกระทรวงมหาดไทยมาว่าให้นายกเทศมนตรีเมืองระนองคนปัจจุบันหยุดปฏิบัติหน้าที่ ฝ่ายนายพินิจ และผู้บริหารทั้งหมดจะยอมสละการบริหารราชการท้องถิ่นทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้ง 2 ฝ่ายต่างพูดคุยเจรจากันอยู่นานกว่า 2 ชม. ก่อนเลิกการประชุมไกล่เกลี่ย โดยไม่ได้ข้อยุติ หรือทางออกให้แก่ทั้ง 2 ฝ่ายว่าใครจะเป็นนายกเทศมนตรีเมืองระนอง
นายพินิจ กล่าวว่า ได้ทำหนังสือส่งกลับไปถึงผู้ว่าฯ ระนอง ระบุว่าตนได้รับการเลือกตั้งเข้ามาเป็นนายกเทศมนตรีเมืองระนอง โดยทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน และถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ จึงไม่มีเหตุผล หรือคำสั่งใดที่เข้าข่ายให้พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรี ส่วนผลการหารือกับนายสมชาย นั้น ยังไม่ได้ข้อยุติ หรือข้อเจรจาที่คืบหน้า อีกทั้งยังไม่แน่ชัดว่าระหว่างนายสมชาย กับตนใครจะเป็นนายกเทศมนตรีเมืองระนองตัวจริง และมีอำนาจบริหารราชการได้ในขณะนี้ จึงคาดว่าน่าจะมีการฟ้องร้องจากทั้ง 2 ฝ่าย ถึงผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าฯระนอง หรือ รมว.มหาดไทย เพื่อหาข้อยุติของฝ่ายที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม
ขณะที่ นายสมชาย กล่าวว่า ตนเตรียมเดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระนอง ในฐานะเป็นเจ้าพนักงาน และมีบุคคลมาขัดขวางไม่ยอมให้ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเมืองระนอง