ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าของที่ดินยินยอมให้ชาวไทยใหม่ราไวย์ใช้เป็นเส้นทางเข้า-ออกไปประกอบพิธีกรรม และลงทะเลหาปลาเป็นระยะทาง 2 เมตร เป็นการชั่วคราวแล้ว พร้อมหารืออีกรอบวันที่ 2 ก.พ.นี้
จากกรณีที่เกิดการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มชาวไทยใหม่ราไวย์ หมู่ที่ 2 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต กับกลุ่มชายฉกรรจ์ ซึ่งระบุว่าเป็นคนของบริษัทเอกชนเจ้าของที่ดิน คือ บริษัท บารอน เวิลด์ เทรด จำกัด ที่บริเวณริมชายหาดราไวย์ รอยต่อระหว่างที่ดินเอกชนกับชุมชนชาวไทยใหม่ราไวย์ จนบานปลายถึงขั้นทำร้ายร่างกายกัน ส่งผลให้ชาวไทยใหม่ราไวย์ และกลุ่มชายฉกรรจ์ส่วนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากทางบริษัทเจ้าของที่ดิน คือ บริษัท บารอนฯ ได้มอบหมายให้นายชาตรี หมาดสตูล เข้าทำการปรับปรุงแปลงที่ดินแปลงดังกล่าวที่ส่วนหนึ่งติดกับเส้นทางที่ชาวเลใช้สำหรับเดินไปประกอบพิธีกรรม และลงทะเลประกอบอาชีพประมง เป็นระยะทางประมาณ 300-400 เมตร แต่กลุ่มผู้รับมอบอำนาจได้ทำกำแพงกั้นทางสัญจรดังกล่าว เพื่อปรับปรุงพื้นที่ก่อสร้างเป็นรีสอร์ต 17-18 หลัง สร้างความไม่พอใจให้แก่กลุ่มชาวไทยใหม่ที่ต้องใช้เส้นทางดังกล่าวไปประกอบพิธีกรรมมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ เนื่องจากหากลงไปเดินบริเวณชายหาดก็จะไม่สะดวก เพราะบางครั้งมีน้ำทะเลขึ้นสูง และจะส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพ โดยปัญหาข้อพิพาทดังกล่าวมีมาเป็นเวลายาวนานแล้ว
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 22.30 น. วานนี้ (28 ม.ค.) ทางเจ้าของที่ดินยินยอมให้เปิดทางสัญจรดังกล่าวเป็นระยะทาง 2 เมตร ตามข้อเรียกร้องของชาวไทยใหม่ หลังจากที่มีการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ และขณะที่ประชุมกันนั้นทางเจ้าของที่ดินยืนยันที่จะไม่เปิดเส้นทางดังกล่าว ทำให้เมื่อคืนที่ผ่านมา กลุ่มชาวไทยใหม่ได้มารวมตัวกันที่บริเวณหน้าที่ดินดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง ทางเจ้าของที่ดินจึงได้ตัดสินใจยินยอมเปิดทางดังกล่าวเป็นการชั่วคราวตามข้อเรียกร้องของชาวไทยใหม่ โดยได้นำรถแบ็กโฮ และเครื่องจักรกลมาเกลี่ยก้อนหินที่ทางผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของที่ดินนำมาทำเป็นกำแพงไม่ให้กลุ่มชาวไทยใหม่ผ่านเข้า-ออกในที่ดินดังกล่าว ออกตั้งแต่เมือคืน และช่วงเช้าของวันนี้ (29 ม.ค.) เป็นระยะทางประมาณ 2 เมตร
ภายหลังที่ทางเจ้าของที่ดินยินยอมเปิดเส้นทางเข้า-ออก เป็นระยะทาง 2 เมตรแล้ว ได้มีการถอนกำลังชายฉกรรจ์ที่ระดมเข้ามาดูแลพื้นที่ตั้งแต่เมื่อวานนี้ออกจากพื้นที่ดังกล่าวเช่นกัน เหลือเพียง 2-3 คนที่ดูแลพื้นที่เท่านั้น และในส่วนของกำลังทหารจากทัพเรือภาคที่ 3 ก็ได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่แล้วบางส่วน และเหลือไปดูแลความสงบเรียบร้อยเพียงบางส่วนเท่านั้น ในขณะที่ช่วงเช้าวันนี้ กลุ่มชาวไทยใหม่ได้ประกอบพิธีไหว้กระดูกบรรพบุรุษเพื่อความเป็นสิริมงคลของลูกหลานชาวไทยใหม่ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมาเป็นเวลายาวนาน และในวันเดียวกันนี้ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจะไปแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมที่ สภ.ฉลอง อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การเปิดเส้นทางดังกล่าวจะเปิดถาวรตามข้อเรียกร้องของกลุ่มชาวไทยใหม่หรือไม่นั้นจะมีการหารือระหว่างหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เจ้าของที่ดิน และตัวแทนกลุ่มชาวไทยใหม่อีกครั้งหนึ่งในวันที่ 2 ก.พ.2559 ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต