ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กลุ่มชาวประมงพื้นบ้านสงขลา กว่า 200 คน ประชุมยื่นหนังสือถึงนายกฯ ยกเลิกมาตรา 34 ที่ห้ามชาวประมงพื้นบ้านออกไปทำการประมงในเขตทะเลนอกชายฝั่ง
วันนี้ (18 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. บรรยากาศหน้าศาลากลางเป็นไปอย่างเคร่งเครียด เมื่อมีกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านประมาณ 200 คน ซึ่งมาจาก 5 สมาคมในพื้นที่จังหวัดสงขลา รวมตัวยื่นเรียกร้องข้อเสนอในการยกเลิกมาตรา 34 ที่ห้ามชาวประมงพื้นบ้านออกไปทำการประมงในเขตทะเลนอกชายฝั่ง ซึ่งเป็นการสร้างผลกระทบความเดือดร้อน และเป็นการจำกัดสิทธิของชาวประมงขนาดเล็ก โดยมีตัวแทนผู้ว่าฯ สงขลา เข้ารับเรื่อง
โดยมีเนื้อความในหนังสือเรียกร้องดังนี้ เรื่อง ขอให้ยกเลิกมาตรา ๓๔ ของพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.๒๕๕๘
เรียน นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา
ด้วยพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.๒๕๕๘ รัฐบาลประกาศใช้แทนพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.๒๕๕๘ เดิม มีบทกำหนดตามมาตรา ๓๔ “ห้ามชาวประมงพื้นบ้านออกไปทำการประมงในเขตทะเลนอกชายฝั่ง” สร้างผลกระทบความเดือดร้อน และเป็นการจำกัดสิทธิของชาวประมงขนาดเล็กของประเทศไทย (เรือประมงขนาดระวางต่ำกว่า ๑๐ ตันกรอส) ซึ่งมีจำนวนมากกว่า ๘๐% ของชาวประมงทั้งหมด ไม่สามารถออกทำการประมงได้ตามปกติ ทั้งที่การทำการประมงขนาดเล็กในเขตนอกทะเลชายฝั่งเป็นการประมงที่ไม่ได้ทำละเมิดต่อบุคคลอื่นๆ ไม่ได้มีผลกระทบต่อทรัพยากรส่วนรวมของประเทศ มิหนำซ้ำยังเป็นผู้ผลิตสินค้าประมงชั้นดีแก่ประเทศอีกด้วย
อีกทั้งหากชาวประมงพื้นบ้านที่มีจำนวนกว่าร้อยละ ๘๐ ของชาวประมงทะเลทั้งหมดถูกบังคับให้ทำการประมงได้เฉพาะที่แคบๆ ในชายฝั่งทะเล จะเกิดการแย่งชิงทรัพยากรสัตว์น้ำ สร้างความขัดแย้งระหว่างชาวประมงกันเอง ไม่เป็นผลดีต่อการประมงที่ยั่งยืน และที่สำคัญเป็นมาตรการที่ไม่เป็นธรรมอย่างยิ่งต่อชาวประมงพื้นบ้านรายย่อยที่ถูกจำกัดพื้นที่ทำประมงเหลือน้อยมาก ในขณะที่ให้สิทธิชาวประมงพาณิชย์ (ซึ่งมีประชากรที่ได้ประโยชน์น้อย) เป็นผู้ประกอบการที่ไม่ได้ทำการประมงด้วยตนเอง แต่ได้สิทธิทำการประมงในพื้นที่ตั้งแต่ ๓ ไมล์ทะเล ไปจนสุดเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (ประมาณ ๒๐๐ ไมล์ทะเล) หรือสิทธิทำการประมงของประเทศ แล้วแต่เขตใดจะไกลกว่า
พวกข้าพเจ้าเป็นตัวแทนของชาวประมงขนาดเล็กในจังหวัดสงขลา จะได้รับความเดือดร้อนจากมาตราดังกล่าว เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน จึงขอเสนอให้รัฐบาลได้พิจารณายกเลิกมาตรา ๓๔ ของพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.๒๕๕๘ เพื่ออนุญาตให้ชาวประมงพื้นบ้านเรือประมงขนาดเล็กของประเทศไทย สามารถออกทำการประมงได้ในเขตทะลนอกชายฝั่งได้เช่นเดิม
อนึ่ง การกำหนดเขตทะเลชายฝั่งมีวัตถุประสงค์หลักที่จะคุ้มครองพื้นที่ชายฝั่ง ซึ่งเป็นแหล่ง อนุบาล และขยายพันธุ์สัตว์น้ำ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลสำคัญ เช่น เต่า พะยูน โลมา จึงควรทำการประมงด้วยเครื่องมือที่ไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำสำคัญ และไม่กวาดจับสัตว์น้ำวัยอ่อน “ไม่ใช่เขตเพื่อกักกันไม่ให้ชาวประมงพื้นบ้านออกไปข้างนอก”
จึงเรียนมาเพื่อพิจารณา
ขอแสดงความนับถือ
นายเจริญ ทองมา นายกสมาคมประมงพื้นบ้านชายฝั่งอ่าวไทยอำเภอสทิงพระ, นายนิทัศน์ แก้วศรี นายกสมาคมประมงทะเลสาบอำเภอสทิงพระ, นายดลหะหรีม บิลหมาน นายกสมาคมประมงพื้นบ้านอำเภอสิงหนคร, นายสมิด หมัดประสิทธิ์ นายกสมาคมประมงพื้นบ้านหัวเขาแดง อ.สิงหนคร และนายหมัดด๊ะ อำพันนิยม นายกสมาคมประมงชายฝั่งคลองนาทับ