ชุมพร - หดหู่! 3 พี่น้องที่ จ.ชุมพร ฐานะยากจนต้องขาดเรียนบ่อย ครูตามไปเยี่ยมที่บ้านพบอยู่กันอย่างอนาถา อาศัยอยู่ในบ้านหลังสี่เหลี่ยมขนาด 6x8 เมตร สภาพเก่าทรุดโทรมใกล้พัง มีแม่รับจ้างหาเลี้ยงคนเดียว
เรื่องราวชีวิตของ 3 พี่น้องนักเรียนที่มีฐานะยากจนขาดเรียนบ่อย จนคุณครูต้องตามไปเยี่ยมที่บ้าน พบอยู่กินกันอย่างอนาถา ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อ น.ส.ฤทัยรัตน์ สีแสนห้าว ครูฝ่ายปกครอง น.ส.กาญจนา มิ่งแม้น ครูประจำชั้น ป.3 โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 76 (บ้านพละ) หมู่ 2 ตำบลเขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร พร้อมผู้สื่อข่าวเดินทางไปเยี่ยมเยียนบ้านของนักเรียนที่มีประวัติขาดเรียนบ่อย ที่บ้านเลขที่ 172/8 หมู่ 5 ตำบลเขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร อยู่ในถนนซอยบางช่วงเป็นถนนลูกรัง บางช่วงเป็นถนนคอยกรีต อยู่ห่างจากโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 76 กว่า 10 กิโลเมตร พบกับ นางบัวลอย เข็มทอง อายุ 48 ปี มารดาของ ด.ญ.ปิยฉัตร เข็มทอง อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 ด.ญ.จินดารัตน์ สุทธิพันธ์ อายุ 13 ปี นักเรียนชัน ม.1 และ ด.ช.พงศกร สุทธิพันธ์ อายุ 9 ปี นักเรียนชั้น ป.3 ซึ่งทั้งหมดเรียนอยู่โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 76
โดยพบว่า บ้านหลังที่อยู่อาศัยดังกล่าวเป็นบ้านทรงสี่เหลี่ยมเล็กๆ ขนาดกว้างยาว 6X8 เมตร พื้นปูนซีเมนต์ปูทับด้วยกระเบื้องหลากสี หลังคามุงกับผ้าใบเก่าๆ มีรูรั่วหลายจุด ฝาบ้านทำด้วยไม่ไผ่ขัดแตะ และไม้กระดานอัดมาแปะไว้มีสภาพเก่าแตกร้าว บางจุดใช้ป้ายไวนิลโฆษณาเก่าๆ ที่ตามริมถนนมาปิดช่องที่แตกรั่วเป็นรูไว้ ส่วนด้านหลังมีห้องน้ำ 1 ห้อง สภาพใหม่ที่ชาวบ้านผู้ใจบุญร่วมกันสร้างไว้ให้เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ภายในบ้านเป็นทั้งที่หลับนอน ทำครัว แขวนเสื้อผ้า มีตู้เย็นสภาพเก่าขึ้นสนิม 1 ตู้ และเตาแก๊สหุงต้มทำกับข้าว รวมทั้งเครื่องใช้อุปโภคบริโภคทั้งหมดรวมอยู่ภายในห้องเดียวกันสภาพแออัดมีกลิ่นอับ ส่วนข้างบ้านทำเป็นคอกเลี้ยงไก่และเป็ดตัวเมียกว่า 10 ตัว ไว้สำหรับเอาไข่มาต้ม และทอดกินเป็นอาหาร
นางบัวลอย เข็มทอง อายุ 48 ปี มารดาของเด็กนักเรียนทั้ง 3 คน ได้เล่าถึงชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวตนเองว่า ลูกๆ ทั้ง 3 คนนั้น มีพี่สาวคนโตใช้นามสกุลตน ส่วนคนกลาง และคนสุดท้องใช้นามสกุลสามี ก่อนหน้านี้ เมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา ตนและลูกๆ ทั้ง 3 คน อยู่ที่กรุงเทพมหานคร มีอาชีพเป็นกรรมกรก่อสร้าง ต่อมา เศรษฐกิจไม่ดีรายได้น้อยไม่พอใช้จ่ายจึงย้ายกลับมาอยู่ภูมิลำเนาเดินที่ จ.ชุมพร โดยมีน้องชายของพ่อตนให้ที่ดินข้างสวนยางพาราใช้เป็นที่สร้างบ้านหลังดังกล่าวเพื่ออยู่อาศัย
ส่วนสามีซึ่งเป็นพ่อของลูกทั้ง 3 คน มีอาชีพขับรถสิบล้อซึ่งได้หายหน้าหายตาไปนานแล้ว ปัจจุบัน ตนมีอาชีพรับจ้างรายวันตัดหญ้าตามริมถนนสายต่างๆ ให้แก่หมวดการทางอำเภอปะทิว มีรายได้พอประทังชีวิต ส่วนลูกทั้ง 3 คนตนจะให้เงินไปกินขนมที่โรงเรียนคนละ 20 บาท บางวันก็ไม่มีให้ ซึ่งลูกผู้หญิงคนโต และคนกลางจะโดยสารรถรับส่งนักเรียนในหมู่บ้านไปโรงเรียนเสียค่ารถ 2 คน รวมเดือนละ 900 บาท บางเดือนก็ไม่มีต้องผ่อนจ่ายให้แก่เจ้าของรถ ส่วนน้องชายคนสุดท้องตนขับรถจักรยานยนต์ไปส่งเองเนื่องจากรถมีสภาพเก่าไม่สามารถพาลูกๆ นั่งซ้อนท้ายไปได้ทั้งหมด จากปัญหาครอบครัวดังกล่าวจึงทำให้ลูกๆ ขาดเรียนบ่อย
น.ส.ฤทัยรัตน์ สีแสนห้าว ครูฝ่ายปกครอง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ก็เคยมาเยี่ยมดูแลครอบครัวนี้แล้ว ได้นำปัญหาไปปรึกษาหลายฝ่าย ซึ่งเบื้องต้น ได้รับความช่วยเหลือเรื่องข้าวของเครื่องที่ใช้จำเป็นในชีวิตประจำวันจากหน่วยราชการบ้างแล้ว แต่ปัญหาคือ บ้านหลังที่อยู่อาศัยมีสภาพเก่าทรุดโทรม มีรูรั่วแตกร้าวทั้งหลัง ประกอบกับลูกๆ ของนางบัวลอย เป็นผู้หญิง 2 คน การใช้ชีวิตอยู่ในบ้านที่มีสภาพดังกล่าวอาจจะเกิดปัญหาตามมาในอนาคต เพราะเด็กต้องเติบโตขึ้นทุกวัน จึงอยู่ระหว่างการปรึกษากับหลายฝ่ายในการหาทางช่วยเหลือ
ด้าน น.ส.ธิดา ร่มวิเชียร อายุ 30 ปี ชาวอำเภอปะทิว กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา หลังตนทราบข่าวจาก น.ส.ฤทัยรัตน์ สีแสนห้าว ครูโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 76 ถึงความเป็นอยู่ของครอบครัวดังกล่าว จึงได้นำเรื่องราวไปลงในสื่อออนไลน์ทางเฟซบุ๊กส่วนตัว และในเฟซบุ๊กกลุ่ม “แจ้งเหตุชุมพร” มีเพื่อนๆ และผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยเหลือมาจำนวนหนึ่งในการนำไปช่วยสร้างห้องส้วมห้องน้ำให้ เนื่องจากก่อนหน้านั้นไม่มี และเงินส่วนหนึ่งมอบให้แก่เด็กๆ ทั้ง 3 คน เป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือนแต่ก็ไม่เพียงพอ ซึ่งขณะนี้ตน และครูได้ปรึกษากับ นายประชุม ชาญพลรพ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ตำบลเขาไชยราช เพื่อหาทางช่วยเหลืออยู่ จึงฝากผ่านผู้สื่อผ่านผู้ใจบุญที่มีจิตศรัทธาในการร่วมกันสร้างบ้านให้แก่ครอบครัวดังกล่าวได้อยู่อาศัยแทนหลังเก่าที่มีสภาพเหมือนไม่ใช้บ้าน โดยเฉพาะลูกๆ ที่เป็นผู้หญิงการใช้ชีวิตจะยากลำบาก และน่าสงสารอย่างมาก ซึ่งสามารถบริจาคเงินผ่านธนาคารออมสิน ชื่อ ด.ญ.จินดารัตน์ สุทธิพันธ์ บัญชีเลขที่ 020147102162 สาขามอบอำมฤต อำเภอปะทิว จ.ชุมพร
เรื่องราวชีวิตของ 3 พี่น้องนักเรียนที่มีฐานะยากจนขาดเรียนบ่อย จนคุณครูต้องตามไปเยี่ยมที่บ้าน พบอยู่กินกันอย่างอนาถา ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อ น.ส.ฤทัยรัตน์ สีแสนห้าว ครูฝ่ายปกครอง น.ส.กาญจนา มิ่งแม้น ครูประจำชั้น ป.3 โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 76 (บ้านพละ) หมู่ 2 ตำบลเขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร พร้อมผู้สื่อข่าวเดินทางไปเยี่ยมเยียนบ้านของนักเรียนที่มีประวัติขาดเรียนบ่อย ที่บ้านเลขที่ 172/8 หมู่ 5 ตำบลเขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร อยู่ในถนนซอยบางช่วงเป็นถนนลูกรัง บางช่วงเป็นถนนคอยกรีต อยู่ห่างจากโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 76 กว่า 10 กิโลเมตร พบกับ นางบัวลอย เข็มทอง อายุ 48 ปี มารดาของ ด.ญ.ปิยฉัตร เข็มทอง อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 ด.ญ.จินดารัตน์ สุทธิพันธ์ อายุ 13 ปี นักเรียนชัน ม.1 และ ด.ช.พงศกร สุทธิพันธ์ อายุ 9 ปี นักเรียนชั้น ป.3 ซึ่งทั้งหมดเรียนอยู่โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 76
โดยพบว่า บ้านหลังที่อยู่อาศัยดังกล่าวเป็นบ้านทรงสี่เหลี่ยมเล็กๆ ขนาดกว้างยาว 6X8 เมตร พื้นปูนซีเมนต์ปูทับด้วยกระเบื้องหลากสี หลังคามุงกับผ้าใบเก่าๆ มีรูรั่วหลายจุด ฝาบ้านทำด้วยไม่ไผ่ขัดแตะ และไม้กระดานอัดมาแปะไว้มีสภาพเก่าแตกร้าว บางจุดใช้ป้ายไวนิลโฆษณาเก่าๆ ที่ตามริมถนนมาปิดช่องที่แตกรั่วเป็นรูไว้ ส่วนด้านหลังมีห้องน้ำ 1 ห้อง สภาพใหม่ที่ชาวบ้านผู้ใจบุญร่วมกันสร้างไว้ให้เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ภายในบ้านเป็นทั้งที่หลับนอน ทำครัว แขวนเสื้อผ้า มีตู้เย็นสภาพเก่าขึ้นสนิม 1 ตู้ และเตาแก๊สหุงต้มทำกับข้าว รวมทั้งเครื่องใช้อุปโภคบริโภคทั้งหมดรวมอยู่ภายในห้องเดียวกันสภาพแออัดมีกลิ่นอับ ส่วนข้างบ้านทำเป็นคอกเลี้ยงไก่และเป็ดตัวเมียกว่า 10 ตัว ไว้สำหรับเอาไข่มาต้ม และทอดกินเป็นอาหาร
นางบัวลอย เข็มทอง อายุ 48 ปี มารดาของเด็กนักเรียนทั้ง 3 คน ได้เล่าถึงชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวตนเองว่า ลูกๆ ทั้ง 3 คนนั้น มีพี่สาวคนโตใช้นามสกุลตน ส่วนคนกลาง และคนสุดท้องใช้นามสกุลสามี ก่อนหน้านี้ เมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา ตนและลูกๆ ทั้ง 3 คน อยู่ที่กรุงเทพมหานคร มีอาชีพเป็นกรรมกรก่อสร้าง ต่อมา เศรษฐกิจไม่ดีรายได้น้อยไม่พอใช้จ่ายจึงย้ายกลับมาอยู่ภูมิลำเนาเดินที่ จ.ชุมพร โดยมีน้องชายของพ่อตนให้ที่ดินข้างสวนยางพาราใช้เป็นที่สร้างบ้านหลังดังกล่าวเพื่ออยู่อาศัย
ส่วนสามีซึ่งเป็นพ่อของลูกทั้ง 3 คน มีอาชีพขับรถสิบล้อซึ่งได้หายหน้าหายตาไปนานแล้ว ปัจจุบัน ตนมีอาชีพรับจ้างรายวันตัดหญ้าตามริมถนนสายต่างๆ ให้แก่หมวดการทางอำเภอปะทิว มีรายได้พอประทังชีวิต ส่วนลูกทั้ง 3 คนตนจะให้เงินไปกินขนมที่โรงเรียนคนละ 20 บาท บางวันก็ไม่มีให้ ซึ่งลูกผู้หญิงคนโต และคนกลางจะโดยสารรถรับส่งนักเรียนในหมู่บ้านไปโรงเรียนเสียค่ารถ 2 คน รวมเดือนละ 900 บาท บางเดือนก็ไม่มีต้องผ่อนจ่ายให้แก่เจ้าของรถ ส่วนน้องชายคนสุดท้องตนขับรถจักรยานยนต์ไปส่งเองเนื่องจากรถมีสภาพเก่าไม่สามารถพาลูกๆ นั่งซ้อนท้ายไปได้ทั้งหมด จากปัญหาครอบครัวดังกล่าวจึงทำให้ลูกๆ ขาดเรียนบ่อย
น.ส.ฤทัยรัตน์ สีแสนห้าว ครูฝ่ายปกครอง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ก็เคยมาเยี่ยมดูแลครอบครัวนี้แล้ว ได้นำปัญหาไปปรึกษาหลายฝ่าย ซึ่งเบื้องต้น ได้รับความช่วยเหลือเรื่องข้าวของเครื่องที่ใช้จำเป็นในชีวิตประจำวันจากหน่วยราชการบ้างแล้ว แต่ปัญหาคือ บ้านหลังที่อยู่อาศัยมีสภาพเก่าทรุดโทรม มีรูรั่วแตกร้าวทั้งหลัง ประกอบกับลูกๆ ของนางบัวลอย เป็นผู้หญิง 2 คน การใช้ชีวิตอยู่ในบ้านที่มีสภาพดังกล่าวอาจจะเกิดปัญหาตามมาในอนาคต เพราะเด็กต้องเติบโตขึ้นทุกวัน จึงอยู่ระหว่างการปรึกษากับหลายฝ่ายในการหาทางช่วยเหลือ
ด้าน น.ส.ธิดา ร่มวิเชียร อายุ 30 ปี ชาวอำเภอปะทิว กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา หลังตนทราบข่าวจาก น.ส.ฤทัยรัตน์ สีแสนห้าว ครูโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 76 ถึงความเป็นอยู่ของครอบครัวดังกล่าว จึงได้นำเรื่องราวไปลงในสื่อออนไลน์ทางเฟซบุ๊กส่วนตัว และในเฟซบุ๊กกลุ่ม “แจ้งเหตุชุมพร” มีเพื่อนๆ และผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยเหลือมาจำนวนหนึ่งในการนำไปช่วยสร้างห้องส้วมห้องน้ำให้ เนื่องจากก่อนหน้านั้นไม่มี และเงินส่วนหนึ่งมอบให้แก่เด็กๆ ทั้ง 3 คน เป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือนแต่ก็ไม่เพียงพอ ซึ่งขณะนี้ตน และครูได้ปรึกษากับ นายประชุม ชาญพลรพ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ตำบลเขาไชยราช เพื่อหาทางช่วยเหลืออยู่ จึงฝากผ่านผู้สื่อผ่านผู้ใจบุญที่มีจิตศรัทธาในการร่วมกันสร้างบ้านให้แก่ครอบครัวดังกล่าวได้อยู่อาศัยแทนหลังเก่าที่มีสภาพเหมือนไม่ใช้บ้าน โดยเฉพาะลูกๆ ที่เป็นผู้หญิงการใช้ชีวิตจะยากลำบาก และน่าสงสารอย่างมาก ซึ่งสามารถบริจาคเงินผ่านธนาคารออมสิน ชื่อ ด.ญ.จินดารัตน์ สุทธิพันธ์ บัญชีเลขที่ 020147102162 สาขามอบอำมฤต อำเภอปะทิว จ.ชุมพร