ยิงดับ ส.จ.ลำทับ จ.กระบี่ ปมสังหารประเด็นชู้สาว

กระบี่ - คนร้ายอุกอาจตามประกบยิง ส.จ.คนดังอำเภอลำทับ จ.กระบี่ ดับ ขณะไปรับเพื่อนไปร่วมงานศพ โดยคนร้ายขับรถ จยย.ตามจากบ้านสบโอกาสลงมือก่อเหตุ ตั้งประเด็นชู้สาว

เมื่อเวลา 12.30 น.วันนี้ (16 ม.ค.) ร.ต.ท.สรพิศ คงพุ่ม พนักงานสอบสวน สภ.ลำทับ จ.กระบี่ รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลลำทับ และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุวรรณฤทธิ์ ผกก.ลำทับ พ.ต.ท.ปฏิวัติ ลิ้มฉุ้น พงส.ผนพ.เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน หน่วยกู้ภัยมูลนิธิเต็กก่าจีคุงเกาะลำทับ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชาลำทับ พบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นายวิชาญ ทองชัย อายุ 44 ปี เป็น ส.จ.ในเขตอำเภอลำทับ อยู่บ้านเลขที่ 143 ม.7 ต.ลำทับ อ.ลำทับ เบื้องต้นมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ขมับซ้าย 2 นัด และที่ราวนมซ้าย 1 นัด กระสุนตัดขั้วหัวใจ

สอบสวนทราบว่า สถานที่เกิดเหตุอยู่ที่หน้าบ้านเลขที่ 113 ม.4 ต.ดินแดง อ.ลำทับ จึงเดินทางไปตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว หน้าบ้านมีขนำหนึ่งหลัง บริเวณพื้นดินใต้ขนำพบเพียงกองเลือดจำนวนมาก ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขับรถกระบะโตโยต้า 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กค 930 กระบี่ ไปรับเพื่อนทราบชื่อคือ นายเชิดชัย บัวแก้ว ที่บ้านเกิดเหตุ เพื่อจะไปร่วมงานศพที่อำเภอจันดี จ.นครศรีธรรมราช ขณะผู้ตายลงจากรถเพื่อไปนั่งไปรอที่ขนำหน้าบ้าน พร้อมด้วยเพื่อนประมาณ 3-4 คน จากนั้นได้มีคนร้ายขับรถจักรยายนต์ไม่ทราบสี ยี่ห้อ มาจอดที่ข้างรถผู้ตายแล้วเดินปรี่มาที่ผู้ตายพร้อมใช้อาวุธปืนจ่อยิงผู้ตายรวม 3 นัด ผู้ตายลุกขึ้นวิ่งได้ประมาณ 3 ก้าว ก่อนล้มฟุบลง จากนั้นคนร้ายก็วิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป เพื่อนๆ ผู้ตายจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลลำทับแต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา

สำหรับ นายวิชาญ หรือ ส.จ.จอม เป็น ส.จ.ในเขตอำเภอลำทับ เพิ่งได้รับการเลือกตั้งมาเป็นสมัยแรกได้ประมาณ 3 ปี ส่วนสาเหตุการสังหารน่าจะมาจากเรื่องชู้สาว จากการสอบสวน พยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ ทราบว่า ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงไม่ได้ปิดบังใบหน้า ทราบชื่อคือ นายสัมพันธ์ หรือปู ชูศรี อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่142/1 ม.4 ต.ลำทับ ทั้งนี้ ผู้ตายได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับภรรยาของนายสัมพันธ์ ทำให้นายสัมพันธ์ ทราบเรื่อง เกิดความไม่พอใจ และได้ลงมือก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริง และติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป