กระบี่ - ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ สั่งการอำเภอเขาพนม ทำหนังสือด่วนถึงกรมทรัพยากรธรณี ส่งนักธรณีวิทยาตรวจหาสาเหตุหินขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางกว้างประมาณ 100 เมตร ถล่มลงมาจากเขาพนมเบญจา จุดเดียวกับที่เคยเกิดดินถล่มเมื่อปี 54 ทั้งที่อยู่ในช่วงหน้าแล้งไม่มีฝนตกลงมา พร้อมแจ้งเตือนชาวบ้านเฝ้าระวัง
จากกรณีหินขนาดใหญ่บนภูเขาพนมเบญจา พื้นที่หมู่ที่ 7 บ้านต้นหาร ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่ พังถล่มลงมาด้านล่างเสียงดันสนั่น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2559 สร้างความตื่นตระหนกแก่ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เป็นอย่างมาก เนื่องจากจุดที่ถล่มอยู่ในพื้นที่ประสบภัยดินโคลนถล่มเมื่อปี 2554 ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเขาพนม ผู้นำท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ได้เข้าตรวจสอบ โดยใช้เวลาเดินไปกลับกว่า 8 ชม. จึงไปถึงจุดเกิดเหตุ พบว่า บริเวณที่หินถล่มกินเนื้อที่กว้างประมาณ 100 เมตร และได้ไหลลงมาเป็นระยะทางประมาณ 500 เมตร ทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มระเนระนาด
ความคืบหน้าล่าสุด นายพินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ชุดที่ขึ้นสำรวจเมื่อวานนี้ 7 ม.ค. โดยใช้เวลากว่า 8 ชม.พบว่า เป็นพื้นที่ลักษณะเป็นถ้ำอยู่กลางเทือกเขา อยู่ด้านบนฝายต้นหาร เป็นจุดเดียวกับที่เกิดดินโคลนถล่มเมื่อปี 2554 สามารถมองเห็นได้จากระยะไกลนับสิบกิโลเมตร โดยพบความกว้างของหินที่ถล่มมีขนาดประมาณ 100 เมตร และได้ไหลลงมาเป็นระยะทางประมาณ 500 เมตร ส่งผลให้ต้นไม้ขนาดหลายคนโอบหักโค่นจำนวนมากแต่ไม่มีใครได้รับอันตราย หรือพื้นที่ของชาวบ้านเสียหาย เพราะพื้นที่เกิดเหตุอยู่ในเขตอุทยาน และบนภูเขาสูง
นายพินิจ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ทางนายอำเภอเขาพนมทำหนังสือด่วนถึงกรมทรัพยากรธรณี เพื่อให้ส่งนักวิชาการด้านธรณีวิทยาเข้ามาตรวจสอบตามหลักวิชาการว่ามีความปลอดภัยหรือไม่ และเหตุใดจึงถล่มลงมา ทั้งที่อยู่ในช่วงหน้าแล้งไม่มีฝนตกลงมา ซึ่งโชคดีจุดเกิดเหตุอยู่ในป่าห่างไกลสวน และบ้านเรือนของชาวบ้าน นอกจากนั้น ได้แจ้งไปยังผู้นำชาวบ้านให้แจ้งชาวบ้านช่วยกันเฝ้าระวังตลอด 24 ชม. และหลีกเลี่ยงพื้นที่ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านที่อยู่ใกล้พื้นที่ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ โดยชาวบ้านที่มีสวนยางห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กม.ก็ยังออกไปกรีดยางตามปกติ ส่วนบ้านพักที่มีอยู่ประมาณ 3-4 หลังริมเขาพนมเบญจา บ้านต้นหาร ก็จะออกจากพื้นที่ชั่วคราวจนกว่าจะมีการตรวจสอบหาสาเหตุที่ชัดเจนต่อไป