xs
xsm
sm
md
lg

ลูกเรือบรรทุกท่อนซุงพม่าขึ้นฝั่งปลอดภัย กัปตันเผยเครื่องจักรระเบิด เกาะถังน้ำมันเอาชีวิตรอด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เรือหลวงสายบุรี นำลูกเรือเรือบรรทุกซ่อนซุง สัญชาติพม่าไปปีนัง ประเทศมาเลเซีย ล่มกลางทะเลอันดามันกลับเข้าฝั่งอย่างปลอดภัย ลูกเรือทั้ง 7 คน อยู่ในอาการอ่อนเพลีย ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กัปตันเผยนาทีชีวิตหลังเครื่องจักรระเบิด น้ำเข้าจนเรือแตก ต้องเอาถังน้ำมันทำเป็นแพเกาะลอยคอไปตามกระแสน้ำ จนเรือหลวงสายบุรีเข้าช่วยเหลือ

จากกรณีที่เรือบรรทุกไม้ชื่อ Aung Chat Sar สัญชาติพม่า ซึ่งกำลังเดินทางไปยังเมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย เรือแตก และล่มกลางทะเลอันดามัน ห่างจากจังหวัดภูเก็ตราว 100 ไมล์ทะเล เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2558 โดยไม่ทราบจำนวน และชะตากรรมของลูกเรือ ทัพเรือภาคที่ 3 ได้ส่งเครื่องบินลาดตะเวนดอร์เนียขึ้นบินสำรวจ โดยใช้เวลาร่วม 4 ชั่วโมง พบเพียงทุ่นสีส้มลอยอยู่บริเวณพิกัดดังกล่าว ขณะเดียวกัน ก็ได้มีการส่งเรือหลวงสายบุรีเข้าทำการช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง ต่อมา เมื่อเวลา 20.00 น.ของวันที่ 30 ธ.ค.58 เรือหลวงสายบุรี ได้ทำการช่วยเหลือลูกเรือทั้งหมด 7 คน โดยทั้งหมดลอยคอห่างจากพิกัดที่เรือจมออกไปประมาณ 50 ไมล์ทะเล อยู่ห่างจากทิศตะวันตกของเกาะภูเก็ตไปประมาณ 150 ไมล์ทะเล

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (31 ธ.ค.) ที่บริเวณท่าเทียบเรือน้ำลึก ภูเก็ต ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เรือหลวงสายบุรี ซึ่งมี นาวาเอกสุรกิจ โพธิ์งาม เป็นผู้บังคับเรือ ได้นำเรือเข้ามาเทียบท่าเรือเรือน้ำลึกภูเก็ต โดยมี พล.ร.ตเผดิม เนินฉาย รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมด้วย นายโชคดี อมรวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต พ.ต.ท.ปัญญา ชัยชนะ สารวัตรตำรวจน้ำ 3 กองบังคับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ นายแพทย์บัญชา ค้าของ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่พยาบาลศูนย์นเรนทร โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต รวมรถพยาบาล จำนวน 5 คัน ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินทางไปต้อนรับ และให้ความช่วยเหลือลูกเรือประมง 7 คน จากนั้นได้นำลูกเรือทั้งหมดส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์ทำการตรวจเช็กร่างกายอีกครั้งหนึ่ง

พล.ร.ต.เผดิม เนินฉาย รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า สำหรับการปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นไปค่อนข้างลำบาก เนื่องจากคลื่นลมค่อนข้างแรง ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการตรวจการณ์เป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม การการค้นหาได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องด้วยการปฏิบัติงานที่มีความเป็นมาตรฐาน และมีความเป็นมืออาชีพของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการค้นหา โดยได้มีการคำนวณปัจจัยที่เกี่ยวข้องทั้งทิศทาง กระแสลม กระแสน้ำ เวลา และระยะทางที่คาดว่าผู้ประสบภัยจะลอยไป และการค้นหาได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อเป้าหมายในการช่วยเหลือชีวิตผู้ประสบภัยเป็นสำคัญ

จนกระทั่งเวลา 20.00 น. วันที่ 30 ธ.ค.58 ทางเจ้าหน้าที่ทหารเรือหลวงสายบุรี ได้เห็นแสงไฟขนาดเล็กส่งขึ้นฟ้าเพื่อขอความช่วยเหลือ จากนั้นผู้บังคับเรือได้ขับเรือเข้าไปใกล้กับแสงไฟฉาย และเห็นลูกเรือทั้งหมด 7 คน กำลังลอยคอเกาะถังน้ำมันสีน้ำเงินที่ทำเป็นแพชั่วคราว ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งนักประดาน้ำไปทำการช่วยเหลือ ซึ่งการช่วยเหลือทำไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากคลื่นแรง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ใช้เชือกคล้องไปตัวลูกเรือแล้วขึ้นมาบนเรือจนครบทั้ง 7 คน ซึ่งลูกเรือทั้งถูกกระแสพลัดไปยังด้านทิศตะวันตกของเกาะภูเก็ต ห่างไปประมาณ 150 ไมล์ทะเล และอยู่ห่างจากตำบลเกิดเหตุที่ได้รับแจ้งประมาณ 50 ไมล์ทะเล เมื่อลูกเรือทั้งหมดขึ้นมาบนเรือมีอาการอ่อนเพลีย และ 1 ใน 7 คน มีอาการหมดสติ ทางเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นจนฟื้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้จัดหาอาหารให้รับประทาน ก่อนที่จะนำกลับเข้าฝั่งในที่สุด

สำหรับลูกเรือ 7 คน ประกอบด้วย นาย Soe Min Than อายุ 37 ปี กัปตันเรือ, นาย Nyint Wai อายุ 65 ปี ผู้ช่วยกัปตันเรือ, นาย Saw Thein Aung อายุ 54 ปี, นาย Kyaw Khine อายุ 35 ปี, นาย Bo Tin Aung อายุ 36 ปี, นาย Myit Thein อายุ 35 ปี และนาย Maung Win อายุ 38 ปี เป็นลูกเรือ

จากการสอบถาม นาย Soe Min Than อายุ 37 ปี กัปตันเรือบอกว่า เรือลำดังกล่าวเป็นเรือบรรทุกไม้ท่อนซุง เดินทางจากรัฐยะไข่ ประเทศพม่า ตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค.58 ที่ผ่านมา เพื่อที่จะเดินทางไปยังเมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย ในระหว่างที่เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุเครื่องจักรใหญ่ได้ระเบิด และทำเรือแตกน้ำเข้าเรืออย่างรวดเร็ว ตนเอง และลูกเรือทั้งหมดได้ทำแพชั่วคราวกับถังน้ำมันก่อนที่จะกระโดดหนีลงน้ำ โดยลูกเรือทั้งหมดได้กอดถังน้ำมันลอยไปตามกระแสน้ำ ในระหว่างที่อยู่ในน้ำไม่มีเรือผ่านมา จึงคิดว่าไม่น่าจะรอดแล้ว พอมืดตนเองได้ใช้ไฟฉายติดตัวแบบกันน้ำที่พกติดตัวอยู่ส่งขึ้นไปบนฟ้า จนกระทั่งมีเรือหลวงสายบุรี เข้าช่วยเหลือในที่สุด










 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น