สุราษฎร์ธานี - ชาวบ้านกว่า 150 ครัวเรือน ที่ได้รับผลกระจากเหตุสายส่งไฟฟ้าแรงสูงระเบิดที่บ้านเขานิพันธ์ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี ร้องขอความช่วยเหลือต่อสำนักงานทนายความชื่อดัง ให้ช่วยเหลือเจรจาต่อทางการไฟฟ้าฯ ดูแลค่ารักษาผู้บาดเจ็บที่ถูกตัดนิ้วเท้าทั้ง 10 นิ้ว และผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมดโดยไม่มีข้อแม้ โดยทีมทนายลงพื้นที่ และนัดเจรจากับการไฟฟ้าฯ ล่าสุด การไฟฟ้าฯ ยันรับผิดชอบทุกกรณี
จากกรณีเมื่อวันที่ 27 พ.ย.2558 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุหม้อแปลงไฟฟ้าหน้า บริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด ตำบลเขานิพันธ์ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี ระเบิด และมีประกายไฟลุกไหม้สายส่งไฟฟ้าแรงสูงเป็นระยะทางยาวกว่า 5 กิโลเมตร ส่งผลให้มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 150 ครัวเรือน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย สาหัส 1 ราย โดยผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นครอบครัวเดียวกัน
หลังเหตุการณ์ผ่านไป 10 กว่าวัน ทางการไฟฟ้าฯ ยังไม่ได้ดูแลช่วยอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะผู้ที่รับบาดเจ็บสาหัสที่ต้องตัดนิ้วเท้าถึง 10 นิ้ว ที่ถูกกระไฟฟ้าช็อตจนเนื้อตาย และยังจะตัดเพิ่มขึ้นอีก จนทำให้ผู้ได้รับผลกระทบได้ร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากสำนักงานศรีวิชัยทนายความ โดยล่าสุด ในวันนี้ (8 ธ.ค.) นายสมบูรณ์ ทองพัฒน์ หัวหน้าสำนักงานทนายความได้ส่งทีมทนายความในสังกัดลงพื้นที่เกิดเหตุรับข้อร้องเรียนต่อชาวบ้านโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อเตรียมช่วยเหลือเจรจาต่อทางการไฟฟ้าฯ ให้เร่งช่วยเหลือให้ความเป็นธรรมที่สุดแก่ผู้ได้รับผลกระทบโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ในขณะที่ชาวบ้านได้นำผู้สื่อข่าวเข้าดูบ้านเกิดที่เหตุ พร้อมระบุว่า ทางการไฟฟ้าฯ ยังไม่ให้ความสนใจดูแลอย่างที่รับปากไว้ในเบื้องต้น จึงทำให้ผู้ประสบเหตุได้รับความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง นางจารีรัตน์ คินทร อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่18/ 12 ม.1 ต.เขานิพันธ์ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า การไฟฟ้าได้ดำเนินการติดตั้งคัตเอาต์ และปักไฟใหม่ไม่ยินยอมเปลี่ยนเดินสายไฟให้ใหม่ ทำให้ตนเอง และครอบครัวไม่มั่นใจในความปลอดภัย ทำให้ต้องนอนผวาหลับตาไม่ลง เนื่องจากสายไฟภายในอาคารอาจจะละลายติดกัน ตอนนี้ยังไม่ลัดวงจรหากใช้ไปสักระยะหนึ่งอาจเกิดเหตุขึ้นมาได้อีก
ต่อมา เมื่อเวลา 14.00 น.วันเดียวกัน ที่ศาลาวัดเขานิพันธ์ อ.เวียงสระ นายชุมพล สุกใส นายอำเภอเวียงสระ พร้อมด้วย นายวัฒนา แพกุล รองผู้อำนวยฝ่ายวิศวกรและบำรุงรักษา การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 2 ภาคใต้ จ.นครศรีธรรมราช นายสุรพล บุญสินธ์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.สุราษฎร์ธานี และตัวแทนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.สุราษฎร์ธานี จำนวนหนึ่งได้ประชุมร่วมกับตัวแทนสำนักงานศรีวิชัยทนาย พร้อมกับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งหมดเพื่อสรุปการช่วยเหลือ
โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงได้ข้อสรุปว่า มีผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนมากมีจำนวน 68 ราย นอกนั้นมีความเสียหายเล็กน้อย ซึ่งความเสียหายทั้งหมดทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยินดีช่วยเหลือตามความเป็นจริงทุกกรณี พร้อมยืนยันให้ความเป็นธรรมแก่ผู้บาดเจ็บถึงที่สุด พร้อมชดเชยค่าเสียโอกาสตามความเป็นจริง แต่ต้องผ่านการประเมินจากคณะกรรมการกลางที่ตั้งขึ้นมา โดยจะเริ่มสำรวจพร้อมจ่ายค่าเสียหายให้แก่ผู้มีเอกสารรายละเอียดภายในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ส่วนชนวนสาเหตุการเกิดเหตุขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวนยังไม่ฟันธงว่าเป็นกรณีใด