xs
xsm
sm
md
lg

กฟภ.ทุ่ม 112 ล้าน ส่งไฟฟ้าผ่านเคเบิลใต้น้ำไปเกาะนาคาใหญ่-เกาะมะพร้าว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคใช้งบประมาณ 112 ล้านบาท ส่งกระแสไฟฟ้าผ่านสายเคเบิลใต้น้ำ ระบบ 33 KV ไปยังเกาะนาคาใหญ่ และเกาะมะพร้าว รองรับการใช้ได้ถึง 30 ปี เพื่อบริการประชาชน และภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เผยเตรียมสร้างสถานีไฟฟ้าในภูเก็ตเพิ่มอีก 6 แห่ง ใน 2 ปีจากนี้ แก้ปัญหาไฟฟ้าดับ ตกในภูเก็ต

เมื่อเวลา 14.40 น. วันนี้ (24 ส.ค.) นายเสริมสกุล คล้ายแก้ว ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA เป็นประธานในพิธีเปิดการกระจายกระแสไฟผ่านสายเคเบิลใต้น้ำ ระบบ 33 KV ไปยังเกาะนาคาใหญ่ และเกาะมะพร้าว ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมี นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวของ ผู้บริหารการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าร่วมในพิธี ณ บริเวณท่าเทียบเรือแหลมหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต

สำหรับการเดินสายไฟฟ้าผ่านทางเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะมะพร้าว และเกาะนาคา สืบเนื่องขณะนี้สภาพเศรษฐกิจ และธุรกิจการท่องเที่ยวบนเกาะนาคาใหญ่ และเกาะมะพร้าว จ.ภูเก็ต เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้มีความต้องการใช้ปริมาณไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น แต่ต่างจากในอดีตที่ผ่านมาที่ชาวบ้านบนเกาะจะใช้ไฟฟ้าจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้า โดยอัตราค่าบริการที่จัดเก็บคือ ทุนหมุนเวียนในการซื้อน้ำมันดีเซลเพื่อผลิตไฟฟ้า แต่มาเริ่มมีการติดตั้งระบบ Solar Home แต่ก็ไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้เพียงพอต่อความต้องการ เพราะฉะนั้น เพื่อให้การจ่ายไฟฟ้าในพื้นที่ดังกล่าวมีความมั่นคง สามารถรองรับปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้เพียงพอต่อความต้องการ ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จึงได้ลงทุนก่อสร้างระบบจำหน่ายไฟด้วยสายเคเบิลใต้น้ำระบบ 33 เควี เพื่อส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังเกาะมะพร้าว และเกาะนาคาใหญ่ จ.ภูเก็ต เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอ และสามารถตอบสนองต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ และธุรกิจการท่องเที่ยวบนพื้นที่ดังกล่าวตามนโยบายรัฐบาล

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดำเนินโครงการก่อสร้างระบบจำหน่ายด้วยสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะมะพร้าว และเกาะนาคาใหญ่ ด้วยงบประมาณในการลงทุน 112 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำระบบ 33 เควี ขนาด 120 ตร.มม. ชนิด XLPE จำนวน 1 วงจรระยะ 1,181 เมตร จากฝั่งบ้านแหลมหิน ไปยังเกาะมะพร้าว รองรับโหลดสูงสุด 14 MW และการก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำระบบ 33 เควี ขนาด 120 ตร.มม. ชนิด XLPE จำนวน 1 วงจร ระยะทาง 3,040 เมตร จากท่าเรือบ้านอ่าวปอ ไปยังเกาะนาคาใหญ่ รองรับโหลดสูงสุด14 MW ซึ่งขณะนี้การก่อสร้างเสร็จแล้ว และทดสอบจ่ายไฟให้ผู้ใช้ไฟในพื้นที่เกาะนาคาใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่วนที่เกาะมะพร้าว เริ่มทดสอบจ่ายไฟมาตั้งแต่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ กฟผ.ยังได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยรามคำแหง จัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นก่อนก่อสร้าง รวมทั้งได้จัดทำมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมทั้งในระหว่างก่อสร้าง และหลังการก่อสร้างแล้วเสร็จ

สำหรับการก่อสร้างระบบจำหน่ายด้วยสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะนาคาใหญ่ เกาะมะพร้าว จ.ภูเก็ต เป็นการขยายเขตระบบไฟฟ้าให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ในประเทศไทย ซึ่งเป็นภารกิจหลักของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทั้งพื้นที่ในเมือง พื้นที่ชนบท พื้นที่การเกษตร และพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ และเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว เพิ่มขีดความสามารถ และความมั่นคงของระบบไฟฟ้า ทำให้สามารถจ่ายไฟให้ประชาชนบนเกาะได้อย่างเพียงพอ มีประสิทธิภาพและมีความเชื่อถือได้ ลดปัญหาไฟตกไฟดับ และลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากโรงจักรดีเซลในการผลิตไฟฟ้าที่ต้องใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งมีการสิ้นเปลืองงบประมาณ นอกจากนี้ หากเกิดอุบัติเหตุกรณีฉุกเฉิน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคยังสามารถใช้โรงงานจักรดีเซลเพื่อผลิตไฟฟ้าสำรองและจ่ายไฟคืนให้แก่ประชาชนได้อย่างเพียงพออีกด้วย

นายเสริมสกุล คล้ายแก้ว ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวภายหลังพิธีเปิดการกระจายกระแสไฟผ่านสายเคเบิลใต้น้ำ ระบบ 33 KV ไปยังเกาะนาคาใหญ่ และเกาะมะพร้าว ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า การส่งกระแสไฟฟ้าไปยังเกาะนาคาใหญ่ และเกาะมะพร้าวของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตในครั้งนี้ ถือเป็นภารกิจของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่จะต้องสร้างความมั่นคงทางด้านไฟฟ้าให้แก่ประชาชน ซึ่งในส่วนของเกาะทั้ง 2 แห่งในภูเก็ตนั้น เป็นเกาะที่มีการเติบโตทางด้านการท่องเที่ยว โดยก่อนหน้านี้ ประชาชน และผู้ประกอบการท่องเที่ยวใช้ไฟฟ้าที่ปั่นเอง และโซลาร์เซลล์ แต่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทางการไฟฟ้าฯ จึงได้จัดสรรงบประมาณ 112 ล้านบาท ทำระบบสายเคเบิลใต้น้ำ ระบบ 33 KV ไปยังเกาะนาคาใหญ่ และเกาะมะพร้าว ที่สามารถรองรับการการใช้ไฟฟ้าของประชาชน และภาคการท่องเที่ยวที่จะรองรับได้ไปอีก 30 ปี หรือในปี 2588

ส่วนกรณีปัญหาไฟฟ้าดับ ตกบ่อยๆ ในพื้นที่ภูเก็ตนั้น ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาต้นไม้ที่กิ่งไม้ไปพาดกับสายไฟฟ้าทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าดับบ่อยครั้ง จึงอยากจะขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยกันตัดกิ่งไม้ไม่ให้พาดผ่านสายไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การใช้ไฟฟ้าในภูเก็ตมีความมั่นคงยิ่งขึ้น ในปี 2558-2560 นี้ ทางการไฟฟ้าฯ จะเพิ่มสถานีไฟฟ้าในภูเก็ตอีก 6 สถานี จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 7 แห่ง เป็น 13 แห่ง จะสามารถแก้ปัญหาไฟฟ้าดับ ตกได้เป็นอย่างดี




 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น