ชุมพร - ฆ่าโหดสะเทือนขวัญชาวชุมพร 3 คนร้ายอุ้มลูกเศรษฐีร้อยล้านขึ้นรถยนต์กระบะพาไปในที่เปลี่ยว ก่อนจะใช้เหล็กทุบหัวแล้วจับขายัดหัวลงถังพลาสติก 120 ลิตร เทปูนซีเมนต์ใส่เอาน้ำใส่ให้ปูนแข็งตัวเอง นำศพไปทิ้งในบ่อลูกรังร้างเพื่ออำพรางคดี ตำรวจตามรวบได้ยกแก๊งสารภาพสิ้นไส้ฆ่าล้างหนี้
ผู้สื่อข่าวรายงายว่า เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (8 ธ.ค.) พล.ต.ต.นรินทร์ บุษยวิทย์ ผบก.ภ.จ.ชุมพร พ.ต.อ.ภาณุเดช ณ พัทลุง รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมภพ เชื้อทอง สว.สส.สภ.เมืองชุมพร และเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย นำตัวผู้ต้องหาอุ้มฆ่ายัดถังโบกปูนทิ้งศพอำพรางไปทำแผนยังจุดเกิดเหตุ ประกอบด้วย นายไพศาล รักษาผล อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 6 ต.หาดพันไกร อ.เมือง จ.ชุมพร นายสุเทพ เพ็ชรอาวุธ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144/1 หมู่ 3 ต.น้ำจืด อ.กระบุรี จ.ระนอง และนายสมพร โลภาศ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 253/1 ตำบลท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร มาชี้จุดที่นำถังพลาสติกใส่ศพ นายอภิสิทธิ์ วานมณี อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/2 ม.11 ต.บางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพร ลูกชายเจ้าของธุรกิจรีสอร์ต และฟาร์มหมูใหญ่ที่สุดของจังหวัด ติดอันดับเศรษฐีร้อยล้านของ จ.ชุมพร มาทิ้งในบ่อดินลูกรังร้างลึกกว่า 20 เมตร กลางสวนยางพาราของชาวบ้านหมู่ที่ 8 ตำบลวังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร โดยมีแม่ ญาติๆ และบรรดาไทยมุงที่ทราบข่าวเดินทางมาดูจำนวนมาก จนต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตัวผู้ต้องหาหวั่นจะถูกรุมประชาทัณฑ์
คดีฆ่าโหดสะเทือนขวัญรายนี้ เปิดเผยขึ้นสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 พ.ย.58 นายสุนทร หรือโกเขียว วานมณี อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/2 หมู่ 11 ต.บางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพร เศรษฐีเจ้าของฟาร์มเลี้ยงหมูที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดชุมพร และธุรกิจโรงแรม “วังสวีทรีสอร์ท” เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ปนินทร โชติ พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ สภ.เมืองชุมพร ว่า นายอภิสิทธิ์ หรือหนุ่ม วานมณี อายุ 21 ปี บุตรชายได้หายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.58 ที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่กลับบ้าน และขาดการติดต่อไม่ทราบเป็นตายร้ายดี ซึ่งภายหลังรับแจ้ง พ.ต.ท.ปนินทร โชติ ได้รายงานให้ พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร ทราบ ก่อนจะรายงานให้ พล.ต.ต.นรินทร์ บุษยวิทย์ผบก.ภ.ชุมพร ทราบตามลำดับชั้น
จากนั้นภายใต้การนำของ พล.ต.ต.นรินทร์ บุษยวิทย์ ผบก.ภ.จ.ชุมพร และชุดสืบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้สืบสวนในทางลับ และเก็บรวบรวมพยานหลักฐานจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ จนสืบทราบว่า นายไพศาล หรือเดช รักษาผล อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 6 ต.หาดพันไกร อ.เมือง จ.ชุมพร เจ้าของธุรกิจสร้างบ้านน็อกดาวน์ขาย นายสมพร หรือเช็ก โลภาส อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 253/1 ต.ท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร และนายสุเทพ หรือแอน เพ็ชรอาวุธ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144/1 หมู่ 3 ต.น้ำจืด อ.กระบุรี จ.ระนอง เป็น 3 คนร้ายที่หลอกลวงอุ้ม นายอภิสิทธิ์ วานมณี บุตรชายของนายสุนทร ขึ้นรถยนต์กระบะโตโยต้า 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กค 9004 ชุมพร หายไป จึงขออนุมัติหมายจับ และติดตามไปจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ได้ที่บ้านของแต่ละคนนำตัวไปสอบสอบสวน
จากการสอบสวน นายไพศาล หรือเดช รักษาผล อายุ 34 ปี หนึ่งใน 3 ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รู้จักกับอภิสิทธิ์ ผู้ตายมานานแล้ว เมื่อต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ ต้องการหาซื้อที่ดินแปลงหนึ่งเพื่อนำไปทำฟาร์มเลี้ยงวัว ตนจึงรับอาสาเป็นนายหน้าหาซื้อที่ดินให้ โดยนายอภิสิทธิ์ ให้เงินตนเป็นเงินมัดจำ จำนวน 2 แสนบาท แต่ตนก็หาซื้อที่ดินไม่ได้ ประกอบกับนายอภิสิทธิ์ ก็ติดตามทวงถามอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่ได้ที่ดินก็ต้องเอาเงิน 2 แสนบาทคืน แต่ตนนำเงิน 2 แสนบาทไปใช้หมดแล้วจึงคิดวางแผนฆ่านายอภิสิทธิ์ เพื่อล้างหนี้ จึงไปชวน นายสมพร และนายสุเทพ ซึ่งเป็นเพื่อนกันให้มาช่วย
โดยวันเกิดเหตุช่วงหัวค่ำวันที่ 24 พ.ย.58 ตนได้ขับรถยนต์กระบะโตโยต้า 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กค 9004 ชุมพร พร้อมด้วย นายสมพร และนายสุเทพ ไปซื้อถังพลาสติก สีน้ำเงิน ขนาด 120 ลิตร จากร้านค้าในตำบลวังไผ่ พร้อมปูนซีเมนต์ 1 กระสอบ ก่อนจะไปรับตัวนายอภิสิทธิ์ ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ที่สี่แยกหนองส้ม ต.บางลึก อ.เมืองชุมพร โดยตนหลอกว่าจะพาไปเอาเงินจำนวน 2 แสนที่ติดค้าง พอนายอภิสิทธิ์ ขึ้นรถตนก็ขับไปที่ตำวังไผ่ พอถึงที่เปลี่ยวตน และเพื่อนก็บังคับให้นายอภิสิทธิ์ ลงจากรถก่อนที่ตนจะใช้ท่อนเหล็กที่เตรียมมาตีไปที่ท้ายทอยของนายอภิสิทธิ์ 1 ที จนล้มทั้งยืนสลบแน่นิ่งไป
หลังจากนั้น ตนและเพื่อน 3 คนช่วยกันจับขานายอภิสิทธิ์ ชูขึ้นเอาหัวยัดใส่ถัง 120 ลิตร แล้วเอาปูนซีเมนต์ผงเทใส่ลงไปก่อนจะเอาน้ำใส่ตามไปทีหลัง จากนั้นจึงขับรถนำศพที่ยัดศพอยู่ในถังไปทิ้งที่บ่อลูกรังร้าง หมู่ที่ 8 บ้านเขาน้อย ต.หาดพันไกร อ.เมือง จ.ชุมพร ห่างจากสถานที่ลงมือฆ่าประมาณ 5 กิโลเมตร เพื่ออำพรางคดี ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนีไปกบดานที่บ้านใครบ้านมัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.นรินทร์ บุษยวิทย์ ผบก.ภ.จ.ชุมพร ที่ลงมาคุมการสอบสวนคดีนี้ด้วยตนเอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาณุเดช ณ พัทลุง รอง ผบก. พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร และกำลังชุดสืบสวน สภ.เมืองชุมพร กว่า 20 นาย ได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไปชี้สถานที่ที่ทิ้งศพ ก่อนจะให้ชุดกู้ภัยสายชลมูลนิธิชุมพรช่วยกันนำศพขึ้นมาจากบ่อลูกรังที่ลึก 20 เมตร ท่ามกลางญาติพี่น้องของผู้ตาย และชาวบ้านที่ทราบข่าวเกือบ 100 คน ไปมุงดูพร้อมสาปแช่ง 3 ผู้ต้องหาที่ลงมือฆ่าอย่างโหดเหี้ยม พร้อมกับฮือจะเข้าประชาทัณฑ์ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกันไว้ได้และรีบนำผู้ต้องหาทั้ง 3 คนกลับทันที จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำถังพลาสติกที่ยัดศพไว้ภายในไปผ่าถังเอาศพออกมาชันสูตรที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
พล.ต.ต.นรินทร์ บุษยวิทย์ ผบก.ภ.จ.ชุมพร กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพ เบื้องต้น จึงแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ คดีนี้ไม่ซับซ้อนอะไร เพียงแต่นายไพศาล 1 ใน 3 ผู้ต้องหานั้นซึ่งแนวทางสืบสวนทราบว่า มีพฤติกรรมเป็นพวก 18 มงกุฎ เที่ยวหลอกลวงไปทั่ว ดังนั้น เมื่อติดหนี้แล้วไม่มีเงินใช้หนี้เลยว่าแผนฆ่าแต่พฤติกรรมการฆ่าครั้งนี้ดูเหี้ยมโหดมาก เบื้องต้น ได้มีการคัดค้านการประตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนไว้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงายว่า เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (8 ธ.ค.) พล.ต.ต.นรินทร์ บุษยวิทย์ ผบก.ภ.จ.ชุมพร พ.ต.อ.ภาณุเดช ณ พัทลุง รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมภพ เชื้อทอง สว.สส.สภ.เมืองชุมพร และเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย นำตัวผู้ต้องหาอุ้มฆ่ายัดถังโบกปูนทิ้งศพอำพรางไปทำแผนยังจุดเกิดเหตุ ประกอบด้วย นายไพศาล รักษาผล อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 6 ต.หาดพันไกร อ.เมือง จ.ชุมพร นายสุเทพ เพ็ชรอาวุธ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144/1 หมู่ 3 ต.น้ำจืด อ.กระบุรี จ.ระนอง และนายสมพร โลภาศ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 253/1 ตำบลท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร มาชี้จุดที่นำถังพลาสติกใส่ศพ นายอภิสิทธิ์ วานมณี อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/2 ม.11 ต.บางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพร ลูกชายเจ้าของธุรกิจรีสอร์ต และฟาร์มหมูใหญ่ที่สุดของจังหวัด ติดอันดับเศรษฐีร้อยล้านของ จ.ชุมพร มาทิ้งในบ่อดินลูกรังร้างลึกกว่า 20 เมตร กลางสวนยางพาราของชาวบ้านหมู่ที่ 8 ตำบลวังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร โดยมีแม่ ญาติๆ และบรรดาไทยมุงที่ทราบข่าวเดินทางมาดูจำนวนมาก จนต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตัวผู้ต้องหาหวั่นจะถูกรุมประชาทัณฑ์
คดีฆ่าโหดสะเทือนขวัญรายนี้ เปิดเผยขึ้นสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 พ.ย.58 นายสุนทร หรือโกเขียว วานมณี อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/2 หมู่ 11 ต.บางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพร เศรษฐีเจ้าของฟาร์มเลี้ยงหมูที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดชุมพร และธุรกิจโรงแรม “วังสวีทรีสอร์ท” เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ปนินทร โชติ พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ สภ.เมืองชุมพร ว่า นายอภิสิทธิ์ หรือหนุ่ม วานมณี อายุ 21 ปี บุตรชายได้หายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.58 ที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่กลับบ้าน และขาดการติดต่อไม่ทราบเป็นตายร้ายดี ซึ่งภายหลังรับแจ้ง พ.ต.ท.ปนินทร โชติ ได้รายงานให้ พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร ทราบ ก่อนจะรายงานให้ พล.ต.ต.นรินทร์ บุษยวิทย์ผบก.ภ.ชุมพร ทราบตามลำดับชั้น
จากนั้นภายใต้การนำของ พล.ต.ต.นรินทร์ บุษยวิทย์ ผบก.ภ.จ.ชุมพร และชุดสืบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้สืบสวนในทางลับ และเก็บรวบรวมพยานหลักฐานจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ จนสืบทราบว่า นายไพศาล หรือเดช รักษาผล อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 6 ต.หาดพันไกร อ.เมือง จ.ชุมพร เจ้าของธุรกิจสร้างบ้านน็อกดาวน์ขาย นายสมพร หรือเช็ก โลภาส อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 253/1 ต.ท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร และนายสุเทพ หรือแอน เพ็ชรอาวุธ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144/1 หมู่ 3 ต.น้ำจืด อ.กระบุรี จ.ระนอง เป็น 3 คนร้ายที่หลอกลวงอุ้ม นายอภิสิทธิ์ วานมณี บุตรชายของนายสุนทร ขึ้นรถยนต์กระบะโตโยต้า 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กค 9004 ชุมพร หายไป จึงขออนุมัติหมายจับ และติดตามไปจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ได้ที่บ้านของแต่ละคนนำตัวไปสอบสอบสวน
จากการสอบสวน นายไพศาล หรือเดช รักษาผล อายุ 34 ปี หนึ่งใน 3 ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รู้จักกับอภิสิทธิ์ ผู้ตายมานานแล้ว เมื่อต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ ต้องการหาซื้อที่ดินแปลงหนึ่งเพื่อนำไปทำฟาร์มเลี้ยงวัว ตนจึงรับอาสาเป็นนายหน้าหาซื้อที่ดินให้ โดยนายอภิสิทธิ์ ให้เงินตนเป็นเงินมัดจำ จำนวน 2 แสนบาท แต่ตนก็หาซื้อที่ดินไม่ได้ ประกอบกับนายอภิสิทธิ์ ก็ติดตามทวงถามอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่ได้ที่ดินก็ต้องเอาเงิน 2 แสนบาทคืน แต่ตนนำเงิน 2 แสนบาทไปใช้หมดแล้วจึงคิดวางแผนฆ่านายอภิสิทธิ์ เพื่อล้างหนี้ จึงไปชวน นายสมพร และนายสุเทพ ซึ่งเป็นเพื่อนกันให้มาช่วย
โดยวันเกิดเหตุช่วงหัวค่ำวันที่ 24 พ.ย.58 ตนได้ขับรถยนต์กระบะโตโยต้า 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กค 9004 ชุมพร พร้อมด้วย นายสมพร และนายสุเทพ ไปซื้อถังพลาสติก สีน้ำเงิน ขนาด 120 ลิตร จากร้านค้าในตำบลวังไผ่ พร้อมปูนซีเมนต์ 1 กระสอบ ก่อนจะไปรับตัวนายอภิสิทธิ์ ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ที่สี่แยกหนองส้ม ต.บางลึก อ.เมืองชุมพร โดยตนหลอกว่าจะพาไปเอาเงินจำนวน 2 แสนที่ติดค้าง พอนายอภิสิทธิ์ ขึ้นรถตนก็ขับไปที่ตำวังไผ่ พอถึงที่เปลี่ยวตน และเพื่อนก็บังคับให้นายอภิสิทธิ์ ลงจากรถก่อนที่ตนจะใช้ท่อนเหล็กที่เตรียมมาตีไปที่ท้ายทอยของนายอภิสิทธิ์ 1 ที จนล้มทั้งยืนสลบแน่นิ่งไป
หลังจากนั้น ตนและเพื่อน 3 คนช่วยกันจับขานายอภิสิทธิ์ ชูขึ้นเอาหัวยัดใส่ถัง 120 ลิตร แล้วเอาปูนซีเมนต์ผงเทใส่ลงไปก่อนจะเอาน้ำใส่ตามไปทีหลัง จากนั้นจึงขับรถนำศพที่ยัดศพอยู่ในถังไปทิ้งที่บ่อลูกรังร้าง หมู่ที่ 8 บ้านเขาน้อย ต.หาดพันไกร อ.เมือง จ.ชุมพร ห่างจากสถานที่ลงมือฆ่าประมาณ 5 กิโลเมตร เพื่ออำพรางคดี ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนีไปกบดานที่บ้านใครบ้านมัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.นรินทร์ บุษยวิทย์ ผบก.ภ.จ.ชุมพร ที่ลงมาคุมการสอบสวนคดีนี้ด้วยตนเอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาณุเดช ณ พัทลุง รอง ผบก. พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร และกำลังชุดสืบสวน สภ.เมืองชุมพร กว่า 20 นาย ได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไปชี้สถานที่ที่ทิ้งศพ ก่อนจะให้ชุดกู้ภัยสายชลมูลนิธิชุมพรช่วยกันนำศพขึ้นมาจากบ่อลูกรังที่ลึก 20 เมตร ท่ามกลางญาติพี่น้องของผู้ตาย และชาวบ้านที่ทราบข่าวเกือบ 100 คน ไปมุงดูพร้อมสาปแช่ง 3 ผู้ต้องหาที่ลงมือฆ่าอย่างโหดเหี้ยม พร้อมกับฮือจะเข้าประชาทัณฑ์ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกันไว้ได้และรีบนำผู้ต้องหาทั้ง 3 คนกลับทันที จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำถังพลาสติกที่ยัดศพไว้ภายในไปผ่าถังเอาศพออกมาชันสูตรที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
พล.ต.ต.นรินทร์ บุษยวิทย์ ผบก.ภ.จ.ชุมพร กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพ เบื้องต้น จึงแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ คดีนี้ไม่ซับซ้อนอะไร เพียงแต่นายไพศาล 1 ใน 3 ผู้ต้องหานั้นซึ่งแนวทางสืบสวนทราบว่า มีพฤติกรรมเป็นพวก 18 มงกุฎ เที่ยวหลอกลวงไปทั่ว ดังนั้น เมื่อติดหนี้แล้วไม่มีเงินใช้หนี้เลยว่าแผนฆ่าแต่พฤติกรรมการฆ่าครั้งนี้ดูเหี้ยมโหดมาก เบื้องต้น ได้มีการคัดค้านการประตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนไว้แล้ว