ชุมพร - สุดอนาถ ! พ่อหม้ายลูก 3 ฐานะยากจนถูกจับขณะเข้าไปเก็บผลปาล์มในพื้นที่หมดสัมปทานที่ จ.ชุมพร แต่ไม่มีเงินประกันตัว เพื่อนบ้านทนไม่ไหวขอนายก.อบต. ส.อบจ.ช่วยประกันตัว สุดซึ่งลูกทั้ง 3 เห็นพ่อออกจากห้องขังโผเข้าสวมกอดด้วยความคิดถึง ขณะที่ชาวบ้านบุกโรงพักให้กำลังใจ พร้อมเรียกร้องเจ้าหน้าที่ป่าไม้อย่าเลือกปฏิบัติจับเฉพาะคนจน ขณะที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ยีนยันไม่เลือกปฏิบัติที่ผ่านมาจับกุมต่อเนื่อง
เมื่อเวลา 10.30. วันนี้ ( 4 ธ.ค.) ที่ สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้มีชาวบ้านกว่า 20 คน รวมตัวกันมาให้กำลังใจ
นายอภิชาต ประทุมตัง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 14 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร หลังจากเมื่อวานที่ผ่าน ( 3 ธ.ค.) ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุม ขณะเข้าไปเก็บผลปาล์มน้ำมันในพื้นที่หมดสัมปทานหมู่ 14 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ พร้อมของกลางปาล์มทะลาย 100 กก. มูลค่า 450 บาท โดยนายอภิชาต เป็นพ่อหมายมีฐานะยากจนมีลูกสาว 3 คน ซึ่งคนโต อายุ 13 ปี คนรองอายุ 11 ปี และสุดท้องอายุ 9 ปี ต้องอาศัยอยู่บ้านกันตามลำพัง โดยในช่วงกลางวันลูกสาวทั้ง 3 คนได้เดินทางไปเยี่ยมนายอภิชาต ที่ต้องอยู่ในห้องขัง เนื่องจากไม่มีเงินประกันตัว
ต่อมาได้มี นายอวยพร มีเพียร นายก อบต.รับร่อ และ นายวิรัน ชูกลาง ส.อบจ.เขต อ.ท่าแซะ ซึ่งทราบข่าวถึงความเดือดร้อนของพ่อหม้ายลูกติดฐานะยากจนที่ถูกจับจากกรณีดังกล่าว จึงเดินทางมาขอประกันตัวนายอภิชาติ ต่อ พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สภ.ท่าแซะ โดยให้นายอวยพร มีเพียร นายก อบต.รับร่อ ใช้ตำแหน่งประกันตัวในวงเงิน 1 แสนบาท หลังจากนายอภิชาตได้รับการประกันตัวออกจากห้องขัง ลูกสาวทั้ง 3 คน ที่นำข้าวกล่องมาให้ผู้เป็นพ่อ ถึงกับร้องไห้โผเข้ากอดกันจนเป็นที่หดหู่ใจท่ามกลางสายตาของชาวบ้าน โดย พ.ต.อ.ธานี ได้มอบเงินจำนวน 2 พันบาท ให้กับลูกๆ ของนายอภิชาตไว้เป็นทุนการศึกษาด้วย
นายอภิชาต กล่าวว่า ตนมีฐานะยากจนหาเช้ากินค่ำเลี้ยงลูกสาว 3 คน คนโตเรียนอยู่ชั้น ม.1 ส่วนคนรองและคนสุดท้องเรียนระดับชั้นประถม โดยถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุมขณะเข้าไปเก็บของป่าเป็นผลปาล์มน้ำมันในพื้นที่หมดสัมปทาน เนื่องจากที่ผ่านมาตนเห็นมีคนหลายกลุ่มทั้งเจ้าหน้าที่รัฐบางคนและนายทุนบางคนจ้างแรงงานชาวพม่าเข้าไปเก็บกันได้ไม่ถูกจับกุม ตนจึงเข้าไปเก็บบ้างเพื่อนำไปขายเป็นรายได้เลี้ยงลูกๆ กระทั่งเจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุม
ด้านนาย สรชัย สุขยศ อายุ 57 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 ตำบลรับร่อ กล่าวว่า ตนเห็นสภาพบ้านและความยากจนของนายอภิชาติ ที่ถูกจับกุมขณะเข้าไปเก็บของป่ามีเลี้ยงลูกๆ 3 คน รู้สึกสงสาร ซึ่งชาวบ้านที่รวมตัวกันมาในครั้งนี้เพื่อมาให้กำลังใจและมาแสดงออกให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้รับรู้ ว่า การจับกุมผู้ที่เข้าไปเก็บของป่าในพื้นที่หมดสัมปทานอย่าเลือกปฏิบัติ เพราะได้มีกลุ่มบุคคลหลายกลุ่มทั้งผู้มีอิทธิพล นายทุน เจ้าหน้าที่รัฐบางคนเข้าไปเก็บผลปาล์มกันมาอย่างต่อเนื่องเป็นที่รู้กันไปทั่ว แต่ผู้เกี่ยวข้องกลับจับแต่คนจนๆหาเช้ากินค่ำเพื่อเป็นผลงานเท่านั้น จะต้องใช้กฎหมายอย่างเสมอภาพปัญหาก็จะไม่เกิดขึ้นและหากยังเลือกปฏิบัติเช่นนี้อีกชาวบ้านจำนวนมากก็เตรียมจะไปรวมตัวกันร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดต่อไป
ด้านนายอำพร ขาวศิริ เจ้าพนักงานพิทักษ์ป่าหน่วยนาสัก ผู้จับกุม กล่าวกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ ว่า ตนปฏิบัติตามหน้าที่ขณะออกตรวจป่าเจอผู้ต้องหา 3 คน แต่สามารถวิ่งหนีไปได้ 2 คน ติดตามจับกุมได้คนเดียวคือนายอภิชาต ตนไม่มีการเลือกปฏิบัติ ที่ผ่านมาตนก็จับกุมอย่างต่อเนื่องได้ผู้ต้องหาหลายคน เท่าที่รู้การเข้าไปเก็บปาล์มในพื้นที่หมดสัมปทานมีการทำกันเป็นกระบวนการ เมื่อถูกจับกุมก็จะใช้คำว่ายากจนเป็นข้ออ้าง เพราะไม่ว่าคนจนหรือคนรวยทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย จะใช้ความว่ายากจนมาอยู่เหนือกฎหมายไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับพื้นที่เขตสัมปทานปลูกปาล์มน้ำมันของ บริษัท วิจิตรภัณฑ์สวนปาล์ม จำกัด ซึ่งมีพื้นที่จำนวน 19,000 ไร่ มีผลผลิตเดือนละไม่ต่ำกว่า 100-300 ตัน อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่ารับร่อ-สลุย ใกล้ชายแดนไทย-เมียนมา ครอบคลุมพื้นที่ในตำบลรับร่อ และ ตำบลหงส์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้หมดอายุสัมปทานไปแล้วเมื่อวันที่ 11 ก.พ.58 ที่ผ่านมาและอยู่ระหว่างยื่นขอต่อสัญญาสัมปทาน มีความขัดแย้งจากบุคคลหลายกลุ่มที่เข้าไปแย่งชิงเก็บผลประโยชน์กันมาอย่างต่อเนื่อง ถึงขั้นใช้กำลังข่มขู่และทำร้ายกันมาแล้ว
เมื่อเวลา 10.30. วันนี้ ( 4 ธ.ค.) ที่ สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้มีชาวบ้านกว่า 20 คน รวมตัวกันมาให้กำลังใจ
นายอภิชาต ประทุมตัง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 14 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร หลังจากเมื่อวานที่ผ่าน ( 3 ธ.ค.) ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุม ขณะเข้าไปเก็บผลปาล์มน้ำมันในพื้นที่หมดสัมปทานหมู่ 14 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ พร้อมของกลางปาล์มทะลาย 100 กก. มูลค่า 450 บาท โดยนายอภิชาต เป็นพ่อหมายมีฐานะยากจนมีลูกสาว 3 คน ซึ่งคนโต อายุ 13 ปี คนรองอายุ 11 ปี และสุดท้องอายุ 9 ปี ต้องอาศัยอยู่บ้านกันตามลำพัง โดยในช่วงกลางวันลูกสาวทั้ง 3 คนได้เดินทางไปเยี่ยมนายอภิชาต ที่ต้องอยู่ในห้องขัง เนื่องจากไม่มีเงินประกันตัว
ต่อมาได้มี นายอวยพร มีเพียร นายก อบต.รับร่อ และ นายวิรัน ชูกลาง ส.อบจ.เขต อ.ท่าแซะ ซึ่งทราบข่าวถึงความเดือดร้อนของพ่อหม้ายลูกติดฐานะยากจนที่ถูกจับจากกรณีดังกล่าว จึงเดินทางมาขอประกันตัวนายอภิชาติ ต่อ พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สภ.ท่าแซะ โดยให้นายอวยพร มีเพียร นายก อบต.รับร่อ ใช้ตำแหน่งประกันตัวในวงเงิน 1 แสนบาท หลังจากนายอภิชาตได้รับการประกันตัวออกจากห้องขัง ลูกสาวทั้ง 3 คน ที่นำข้าวกล่องมาให้ผู้เป็นพ่อ ถึงกับร้องไห้โผเข้ากอดกันจนเป็นที่หดหู่ใจท่ามกลางสายตาของชาวบ้าน โดย พ.ต.อ.ธานี ได้มอบเงินจำนวน 2 พันบาท ให้กับลูกๆ ของนายอภิชาตไว้เป็นทุนการศึกษาด้วย
นายอภิชาต กล่าวว่า ตนมีฐานะยากจนหาเช้ากินค่ำเลี้ยงลูกสาว 3 คน คนโตเรียนอยู่ชั้น ม.1 ส่วนคนรองและคนสุดท้องเรียนระดับชั้นประถม โดยถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุมขณะเข้าไปเก็บของป่าเป็นผลปาล์มน้ำมันในพื้นที่หมดสัมปทาน เนื่องจากที่ผ่านมาตนเห็นมีคนหลายกลุ่มทั้งเจ้าหน้าที่รัฐบางคนและนายทุนบางคนจ้างแรงงานชาวพม่าเข้าไปเก็บกันได้ไม่ถูกจับกุม ตนจึงเข้าไปเก็บบ้างเพื่อนำไปขายเป็นรายได้เลี้ยงลูกๆ กระทั่งเจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุม
ด้านนาย สรชัย สุขยศ อายุ 57 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 ตำบลรับร่อ กล่าวว่า ตนเห็นสภาพบ้านและความยากจนของนายอภิชาติ ที่ถูกจับกุมขณะเข้าไปเก็บของป่ามีเลี้ยงลูกๆ 3 คน รู้สึกสงสาร ซึ่งชาวบ้านที่รวมตัวกันมาในครั้งนี้เพื่อมาให้กำลังใจและมาแสดงออกให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้รับรู้ ว่า การจับกุมผู้ที่เข้าไปเก็บของป่าในพื้นที่หมดสัมปทานอย่าเลือกปฏิบัติ เพราะได้มีกลุ่มบุคคลหลายกลุ่มทั้งผู้มีอิทธิพล นายทุน เจ้าหน้าที่รัฐบางคนเข้าไปเก็บผลปาล์มกันมาอย่างต่อเนื่องเป็นที่รู้กันไปทั่ว แต่ผู้เกี่ยวข้องกลับจับแต่คนจนๆหาเช้ากินค่ำเพื่อเป็นผลงานเท่านั้น จะต้องใช้กฎหมายอย่างเสมอภาพปัญหาก็จะไม่เกิดขึ้นและหากยังเลือกปฏิบัติเช่นนี้อีกชาวบ้านจำนวนมากก็เตรียมจะไปรวมตัวกันร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดต่อไป
ด้านนายอำพร ขาวศิริ เจ้าพนักงานพิทักษ์ป่าหน่วยนาสัก ผู้จับกุม กล่าวกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ ว่า ตนปฏิบัติตามหน้าที่ขณะออกตรวจป่าเจอผู้ต้องหา 3 คน แต่สามารถวิ่งหนีไปได้ 2 คน ติดตามจับกุมได้คนเดียวคือนายอภิชาต ตนไม่มีการเลือกปฏิบัติ ที่ผ่านมาตนก็จับกุมอย่างต่อเนื่องได้ผู้ต้องหาหลายคน เท่าที่รู้การเข้าไปเก็บปาล์มในพื้นที่หมดสัมปทานมีการทำกันเป็นกระบวนการ เมื่อถูกจับกุมก็จะใช้คำว่ายากจนเป็นข้ออ้าง เพราะไม่ว่าคนจนหรือคนรวยทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย จะใช้ความว่ายากจนมาอยู่เหนือกฎหมายไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับพื้นที่เขตสัมปทานปลูกปาล์มน้ำมันของ บริษัท วิจิตรภัณฑ์สวนปาล์ม จำกัด ซึ่งมีพื้นที่จำนวน 19,000 ไร่ มีผลผลิตเดือนละไม่ต่ำกว่า 100-300 ตัน อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่ารับร่อ-สลุย ใกล้ชายแดนไทย-เมียนมา ครอบคลุมพื้นที่ในตำบลรับร่อ และ ตำบลหงส์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้หมดอายุสัมปทานไปแล้วเมื่อวันที่ 11 ก.พ.58 ที่ผ่านมาและอยู่ระหว่างยื่นขอต่อสัญญาสัมปทาน มีความขัดแย้งจากบุคคลหลายกลุ่มที่เข้าไปแย่งชิงเก็บผลประโยชน์กันมาอย่างต่อเนื่อง ถึงขั้นใช้กำลังข่มขู่และทำร้ายกันมาแล้ว
