นครศรีธรรมราช - คลื่นยังซัดชายฝั่งนครศรีธรรมราชต่อเนื่อง ขณะที่ชายทะเลปากพนังที่ถูกคลื่นซัดต่อเนื่องเตรียมประกาศเป็นเขตภัยพิบัติแล้วรองผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งหาช่องทางช่วยเหลือ 7 ครัวเรือนที่ไม่มีพื้นที่อาศัยจุดอื่นหลังทะเลกัดเซาะบ้านหนัก
วันนี้ (29 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าชายฝั่งทะเลใน จ.นครศรีธรรมราช ยังมีสภาพความรุนแรงของคลื่นในอ่าวไทยที่กำลังซัดเข้าหาชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะใน อ.หัวไทร อ.ปากพนัง กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักบ้านเรือนหลายหลังพังทลายลงไปในทะเล ส่วนเจ้าของบ้านที่มีกำลังทุนทรัพย์ต่างรื้อเอาสิ่งของวัสดุที่ยังพอใช้ได้ออกจากบ้านอพยพไปอยู่ที่อื่นทิ้งบ้านเรือนให้พังลงไปในทะเลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นายพงศ์เทพ ไข่มุกด์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงตรวจสอบพื้นที่บ้านเกาะทัง หมู่ที่ 7 ต.ท่าพญา และบ้านหน้าโกฏิ หมู่ที่ 10 ต.ขนาบนาก อ.ปากพนัง ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับความเสียหายจากถูกคลื่นทะเลกัดเซาะชายฝั่ง ทำให้ถนนสายปากพนัง-หัวไทร (หมายเลข 4013) ได้รับความเสียหาย โดยที่บ้านเกาะทังมีระยะทางประมาณ 200 เมตร และบ้านหน้าโกฏิ ประมาณ 500 เมตร นอกจากนี้บ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ชายฝั่งได้รับความเดือดร้อน 7 ครัวเรือนซึ่งพบว่าไม่สามารถอพยพไปยังที่อื่นได้เนื่องจากไม่มีกำลังทรัพย์เพียงพอ ขณะที่พื้นที่ดินดั้งเดิมนั้นหายไปในทะเลหมดแล้ว
รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่าเบื้องต้นทางแขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่ 1 ได้จัดซื้อหินขนาดใหญ่ไปถมตลอดแนวถนนที่ถูกคลื่นกัดเซาะเพื่อให้รถสามารถวิ่งสัญจรไปมาได้ 1 ช่องจราจร ส่วนในระยะยาวจะมีการถมหินให้สูงประมาณ 1.5 เมตร อย่างไรก็ตามแขวงทางหลวงนครศรีธรรมราช ที่ 1 ได้จัดเจ้าหน้าที่อยู่ประจำจุดดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อคอยอำนวยความสะดวกและเก็บกวาดทรายและเศษวัสดุต่าง ๆ ที่ถูกคลื่นซัดขึ้นไปบนถนน ขณะเดียวกันได้ให้ทางอำเภอปากพนังรายงานเหตุด่วนไปให้จังหวัดทราบเพื่อจะได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติเพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบทางราชการ และหากคลื่นลมแรงต่อเนื่องต้องขอให้อพยพไปนอนที่บ้านญาติเป็นการชั่วคราวก่อนเพื่อความปลอดภัย