กระบี่ - ม็อบสวนปาล์ม โร่แจ้งความดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ข้อหาทำลายทรัพย์ และลักทรัพย์จากเหตุสลายการชุมนุมภายในสวนปาล์มหมดอายุสัมปทานของเอกชน ด้านสมาคมคนไทยไร้ที่ดินทำกิน เดินเท้าออกจากศาลากลางกระบี่ พบนายกฯ ขอที่ดินทำกิน
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (24 พ.ย.) ม็อบสวนปาล์มกลุ่มประชาชนเพื่อประชาชน ประมาณ 50 คน ได้รวมตัวกันเดินทางไปที่ สภ.ปลายพระยา จ.กระบี่ พร้อมเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพื่อขอให้ดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ป่าไม้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 12 สาขากระบี่ ที่ได้นำกำลังเข้าสลายการชุมนุม และทำลายทรัพย์สินของกลุ่มผู้ชุมนุมได้รับความเสียหาย และสูญหายจำนวนมาก ภายในสวนปาล์มหมดอายุสัมปทานของบริษัทยูนิวานิช จำกัด (มหาชน) ในพื้นที่ ม.5 ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา
นายไชยฤทธิ์ เรืองเสือ อายุ 39 ปี ภูมิลำเนาอยู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี 1 ในสมาชิกกลุ่มประชาชนเพื่อประชาชน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ย.58 ที่ผ่านมา ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมากนับ 100 นาย ซึ่งจำได้กำลังเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ พร้อมกับนำเครื่องจักรรถไถเข้าสลายการชุมนุมของพวกตนภายในสวนปาล์ม เมื่อพวกตนเห็นก็ได้วิ่งหลบหนีออกจากที่พักเนื่องจากกลัวถูกจับ และเมื่อกลับมาอีกครั้งพบว่า เพิงพักถูกทำลายพังพินาศ ทรัพย์สินต่างๆ สูญหาย คาดว่าถูกเจ้าหน้าที่ที่เข้าสลายยึดไปอย่างแน่นอน จึงได้รวมตัวกันแจ้งความ
ด้าน นางนวลมณี อภัยแสน สมาชิกของกลุ่มฯอีกคน กล่าวว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ที่ผ่านมามันโหดร้ายมาก ทำลายเพิงพักที่พวกตนใช้ซุกหัวนอนยังไม่พอ ยังขนเอาทรัพย์สินมีค่าของพวกตนไปด้วย แม้กระทั่งเสื้อผ้า เงินทอง เตาแก๊ส และข้าวสารที่พวกตนไว้กินประทังชีวิตไปวันๆ พวกเจ้าหน้าที่ก็ยังขนเอาไปไม่มีเหลือ และไม่เคยแจ้งให้ทราบ ซึ่งการกระทำของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ถือว่าโหดร้าย และไร้มนุษยธรรมมาก พวกตนจึงต้องรวมตัวกันเข้าแจ้งความดำเนินคดีและให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามทรัพย์สินกลับคืนมาให้ เป็นหนทางเดียวที่พวกตนทำได้ในตอนนี้
นายสมศักดิ์ แสงบัว แกนนำกลุ่มประชาชนเพื่อประชาชน กล่าวว่า ในวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าสลายการชุมของกลุ่มประชาชนเพื่อประชาชนในพื้นที่สวนปาล์ม บ.ยูนิวานิช จำกัด (มหาชน) ม.5 ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา ซึ่งเป็นสวนปาล์มที่หมดอายุสัมปทานไปแล้ว และที่ผ่านมา พวกตนก็ได้ทำหนังสือขออนุญาตเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอำเภอปลายพระยา ขออาศัยชั่วคราวในการเรียกร้องที่ดินทำกิน โดยสร้างเพิงพักอยู่ประมาณ 130 หลัง แต่ถูกทำลายจนหมด เงินทอง รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และอื่นๆ อีกจำนวนมากถูกเจ้าหน้าที่ขนไปจนเกลี้ยง โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบ
ขณะที่ทางกลุ่มสมาคมคนไทยไร้ที่ดินทำกิน ที่ยึดพื้นที่สวนปาล์มของบริษัทสหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ระหว่างการเพิกถอนสิทธิ ส.ป.ก.ที่ออกไม่ชอบประมาณ 10 คน ได้มารวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อเดินเท้าเข้า กทม.เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้ดำเนินการจัดสรรที่ดินหมดสัมปทานให้แก่คนจน และให้ความเป็นธรรมต่อผู้ชุมนุมในสวนปาล์มที่ถูกออกหมายจับ
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (24 พ.ย.) ม็อบสวนปาล์มกลุ่มประชาชนเพื่อประชาชน ประมาณ 50 คน ได้รวมตัวกันเดินทางไปที่ สภ.ปลายพระยา จ.กระบี่ พร้อมเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพื่อขอให้ดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ป่าไม้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 12 สาขากระบี่ ที่ได้นำกำลังเข้าสลายการชุมนุม และทำลายทรัพย์สินของกลุ่มผู้ชุมนุมได้รับความเสียหาย และสูญหายจำนวนมาก ภายในสวนปาล์มหมดอายุสัมปทานของบริษัทยูนิวานิช จำกัด (มหาชน) ในพื้นที่ ม.5 ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา
นายไชยฤทธิ์ เรืองเสือ อายุ 39 ปี ภูมิลำเนาอยู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี 1 ในสมาชิกกลุ่มประชาชนเพื่อประชาชน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ย.58 ที่ผ่านมา ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมากนับ 100 นาย ซึ่งจำได้กำลังเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ พร้อมกับนำเครื่องจักรรถไถเข้าสลายการชุมนุมของพวกตนภายในสวนปาล์ม เมื่อพวกตนเห็นก็ได้วิ่งหลบหนีออกจากที่พักเนื่องจากกลัวถูกจับ และเมื่อกลับมาอีกครั้งพบว่า เพิงพักถูกทำลายพังพินาศ ทรัพย์สินต่างๆ สูญหาย คาดว่าถูกเจ้าหน้าที่ที่เข้าสลายยึดไปอย่างแน่นอน จึงได้รวมตัวกันแจ้งความ
ด้าน นางนวลมณี อภัยแสน สมาชิกของกลุ่มฯอีกคน กล่าวว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ที่ผ่านมามันโหดร้ายมาก ทำลายเพิงพักที่พวกตนใช้ซุกหัวนอนยังไม่พอ ยังขนเอาทรัพย์สินมีค่าของพวกตนไปด้วย แม้กระทั่งเสื้อผ้า เงินทอง เตาแก๊ส และข้าวสารที่พวกตนไว้กินประทังชีวิตไปวันๆ พวกเจ้าหน้าที่ก็ยังขนเอาไปไม่มีเหลือ และไม่เคยแจ้งให้ทราบ ซึ่งการกระทำของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ถือว่าโหดร้าย และไร้มนุษยธรรมมาก พวกตนจึงต้องรวมตัวกันเข้าแจ้งความดำเนินคดีและให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามทรัพย์สินกลับคืนมาให้ เป็นหนทางเดียวที่พวกตนทำได้ในตอนนี้
นายสมศักดิ์ แสงบัว แกนนำกลุ่มประชาชนเพื่อประชาชน กล่าวว่า ในวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าสลายการชุมของกลุ่มประชาชนเพื่อประชาชนในพื้นที่สวนปาล์ม บ.ยูนิวานิช จำกัด (มหาชน) ม.5 ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา ซึ่งเป็นสวนปาล์มที่หมดอายุสัมปทานไปแล้ว และที่ผ่านมา พวกตนก็ได้ทำหนังสือขออนุญาตเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอำเภอปลายพระยา ขออาศัยชั่วคราวในการเรียกร้องที่ดินทำกิน โดยสร้างเพิงพักอยู่ประมาณ 130 หลัง แต่ถูกทำลายจนหมด เงินทอง รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และอื่นๆ อีกจำนวนมากถูกเจ้าหน้าที่ขนไปจนเกลี้ยง โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบ
ขณะที่ทางกลุ่มสมาคมคนไทยไร้ที่ดินทำกิน ที่ยึดพื้นที่สวนปาล์มของบริษัทสหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ระหว่างการเพิกถอนสิทธิ ส.ป.ก.ที่ออกไม่ชอบประมาณ 10 คน ได้มารวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อเดินเท้าเข้า กทม.เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้ดำเนินการจัดสรรที่ดินหมดสัมปทานให้แก่คนจน และให้ความเป็นธรรมต่อผู้ชุมนุมในสวนปาล์มที่ถูกออกหมายจับ
