กระบี่ - ม็อบชาวบ้านไม่ละความพยายามบุกยึดสวนปาล์มอีกรอบ เข้าบริษัทพนมปาล์ม พบมีการทำประโยชน์ ไม่มีเอกสารสิทธิ
วันนี้ (22 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ได้มีกลุ่มชาวบ้านไม่มีที่ดินทำกินประมาณ 150 คน ได้รวมตัวกันเข้ายึดสวนปาล์มของบริษัทสหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) ในพื้นที่ ม.3 ต.เขาพนม อ.เขาพนม จ.กระบี่ เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ และยึดพื้นที่กลับคืนมาเป็นของรัฐ หลังตรวจสอบพบว่า ทางบริษัทฯ เข้าดำเนินการไม่ถูกต้อง แต่ถูกทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตัวแทนของบริษัทฯ ชี้แจงว่า พื้นที่ดังกล่าวนี้มีเอกสารสิทธิ์ กลุ่มชาวบ้านจึงได้กลับออกไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 22 พ.ย. ทางกลุ่มชาวบ้านกลุ่มเดิมได้เข้ายึดสวนปาล์มของบริษัทพนมปาล์ม จำกัด ม.3 ต.เขาพนม ซึ่งอยู่ติดกับบริษัทสหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) หลังจากตรวจสอบพบว่า ที่ดินที่ทางบริษัทพนมปาล์ม ดำเนินกิจการอยู่ เป็นพื้นที่ป่า และพื้นที่ นสล.มีการปลูกปาล์มแล้วหลายรุ่น โดยแปลงที่ชาวบ้านเข้ายึดมีอายุ ประมาณ 4-5 ปี ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาพนม และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เขาพนม เข้าดูแลความสงบ
นายพงศ์ (ขอสงวนนามสกุล) ตัวแทนชาวบ้านเปิดเผยว่า สำหรับสวนปาล์มของบริษัทพนมปาล์มในปัจจุบัน จากการตรวจสอบพบว่า มีพื้นที่ประมาณ 9,000 ไร่ และส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่ของ นสล.ประมาณ 800 ไร่ โดยเริ่มแรกมีชาวมาเลเซียเป็นนายทุนใหญ่ครอบครอง และต่อมาก็ได้มีการเปลี่ยนมือมาเรื่อยๆ และถือเป็นแปลงที่ใหญ่ที่สุดที่มีการครอบครองอย่างผิดกฎหมาย ไม่พบว่ามีหนังสือสำคัญ หรือเอกสารสิทธิครอบครองแต่อย่างใด จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวเข้ามาตรวจสอบด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ข่าวการเข้ายึดสวนปาล์มกลุ่มชาวบ้านได้แพร่สะพัดออกไป ก็ทำให้มีกลุ่มชาวบ้านที่ถูกสลายการชุมนุมในพื้นที่สวนปาล์ม อำเภอปลายพระยา เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ทยอยเข้าสมทบอย่างต่อเนื่อง คาดว่าไม่ต่ำกว่า 300 คน
วันนี้ (22 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ได้มีกลุ่มชาวบ้านไม่มีที่ดินทำกินประมาณ 150 คน ได้รวมตัวกันเข้ายึดสวนปาล์มของบริษัทสหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) ในพื้นที่ ม.3 ต.เขาพนม อ.เขาพนม จ.กระบี่ เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ และยึดพื้นที่กลับคืนมาเป็นของรัฐ หลังตรวจสอบพบว่า ทางบริษัทฯ เข้าดำเนินการไม่ถูกต้อง แต่ถูกทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตัวแทนของบริษัทฯ ชี้แจงว่า พื้นที่ดังกล่าวนี้มีเอกสารสิทธิ์ กลุ่มชาวบ้านจึงได้กลับออกไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 22 พ.ย. ทางกลุ่มชาวบ้านกลุ่มเดิมได้เข้ายึดสวนปาล์มของบริษัทพนมปาล์ม จำกัด ม.3 ต.เขาพนม ซึ่งอยู่ติดกับบริษัทสหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) หลังจากตรวจสอบพบว่า ที่ดินที่ทางบริษัทพนมปาล์ม ดำเนินกิจการอยู่ เป็นพื้นที่ป่า และพื้นที่ นสล.มีการปลูกปาล์มแล้วหลายรุ่น โดยแปลงที่ชาวบ้านเข้ายึดมีอายุ ประมาณ 4-5 ปี ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาพนม และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เขาพนม เข้าดูแลความสงบ
นายพงศ์ (ขอสงวนนามสกุล) ตัวแทนชาวบ้านเปิดเผยว่า สำหรับสวนปาล์มของบริษัทพนมปาล์มในปัจจุบัน จากการตรวจสอบพบว่า มีพื้นที่ประมาณ 9,000 ไร่ และส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่ของ นสล.ประมาณ 800 ไร่ โดยเริ่มแรกมีชาวมาเลเซียเป็นนายทุนใหญ่ครอบครอง และต่อมาก็ได้มีการเปลี่ยนมือมาเรื่อยๆ และถือเป็นแปลงที่ใหญ่ที่สุดที่มีการครอบครองอย่างผิดกฎหมาย ไม่พบว่ามีหนังสือสำคัญ หรือเอกสารสิทธิครอบครองแต่อย่างใด จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวเข้ามาตรวจสอบด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ข่าวการเข้ายึดสวนปาล์มกลุ่มชาวบ้านได้แพร่สะพัดออกไป ก็ทำให้มีกลุ่มชาวบ้านที่ถูกสลายการชุมนุมในพื้นที่สวนปาล์ม อำเภอปลายพระยา เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ทยอยเข้าสมทบอย่างต่อเนื่อง คาดว่าไม่ต่ำกว่า 300 คน