ปัตตานี - ประธานมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมปัตตานี ชี้เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงเข้าข่ายละเมิดสิทธิเด็ก หลังเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอเด็กชายวัย 5 เดือน ทายาทผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงขณะปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย
วันนี้ (22 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอับดุลกอฮาร์ อาแวปูเตะ ประธานมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมปัตตานี กล่าวแสดงความเห็นถึงการปิดล้อมของเจ้าหน้าที่ และเก็บดีเอ็นเอกับเด็กอายุ 5 เดือน ว่า เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ผิดกฎหมาย และละเมิดสิทธิเด็กอย่างร้ายแรง เพราะในหลักกฎหมายการที่จะเก็บหลักฐานใดๆ ต้องได้รับการยินยอมจากผู้ต้องหาก่อน ถ้าผู้ต้องหาไม่ยินยอมไม่สามารถจะเก็บหลักฐานได้
“กรณีเก็บหลักฐานที่เด็ก ถามว่าเพื่ออะไร เพื่อเป็นข้อมูลตามที่เจ้าหน้าที่กล่าวอ้างก็ไม่ถูกต้อง มันต้องมีกฎหมายรองรับ กฎหมาย พ.ร.ก.หรือกฎอัยการศึกก็ไม่รองรับ ยิ่งกรณีนี้ไม่ได้เป็นผู้ต้องสงสัย ไม่ได้เป็นคนร้าย ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิอย่างร้ายแรง จึงอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ว่าในการปิดล้อมตรวจค้นจะต้องระมัดระวังมากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมา ทางมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมฯ ได้รับการร้องเรียนมากถึงการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจากวานนี้ (21 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าวามมั่นคงได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 57/1 ม.1 บ้านดอนรัก ต.ดอนรัก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.เจ๊ะปาตีเมาะ แวกือจิ หลังจากมีการสืบทราบว่า มีกลุ่มเป้าหมายหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่
แต่พบเพียง น.ส.เจ๊ะปาติเมาะ แวกะจิ นายมาอุเซ็น แวจิ ซึ่งผลการตรวจค้นในครั้งนี้ไม่พบพฤติกรรมต้องสงสัย ไม่พบสิ่งผิดปกติผิดกฎหมายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงทำตรวจยึดเครื่องโทรศัพท์พร้อมซิมเพื่อตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกับผู้ต้องหาหรือไม่อย่างไร
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำบุคคลดังกล่าวเพื่อทำการตรวจเก็บสารทางพันธุกรรม DNA พิมพ์ลายนิ้วมือ ได้แก่ 1.นายมาอุเซ็น แวจิ 2.น.ส.ซอมารีย๊ะ มะลี 3.น.ส.เจ๊ะปาตีเมาะ แวกะจิ 4.ด.ช.ชาลีฟ มะลี ทารกวัย 5 เดือน ลูกชายของนายเสรี แวมามุ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีความมั่นคงที่เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัว