ปัตตานี - ชาวประมงพื้นบ้านปัตตานี เข้าพบผู้ว่าฯ หลังครบกำหนดเวลาการแก้ไขประมงผิดกฎหมาย 2 สัปดาห์ เผยสั่งกวาดล้างอย่างเด็ดขาด ทุกคนต้องพยายามปรับตัวให้เหมาะต่อสถานการณ์
วันนี้ (13 พ.ย.) ที่ห้องประชุมศรีนาครา ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดปัตตานี นายวีระพงค์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าฯ ปัตตานี ได้นั่งหัวโต๊ะประชุมหารือกับตัวแทนของคณะทำงานรื้อถอนเครื่องมือประมงผิดกฎหมายในส่วนของจังหวัดปัตตานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่รับหน้าที่หลักในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมงพื้นบ้านอวนลอยปัตตานี จากการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดีกลั่นแกล้ง จนทำให้ชาวประมงพื้นบ้านอวนลอยได้รับความเสียหาย ส่วนหนึ่งนั้นมาจากการทำประมงอวนลากบ้างในเขตพื้นที่ อ.หนองจิก โดยมี นายพงศธร รัตนประพันธ์ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดปัตตานี นายวัชรินทร์ รักษ์ยอดจิต ประมงจังหวัดปัตตานี นายสุนันท์ หลีเจริญ ผู้ช่วยประมงจังหวัดปัตตานี นายมุหามะสุกรี มะสะนิง นายกสมาคมชาวประมงพื้นบ้านปัตตานี และตัวแทนชาวประมงพื้นบ้านประมาณ 20 คน ได้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้
การประชุมในครั้งนี้เพราะได้มีตัวแทนกลุ่มประมงพื้นบ้านอวนลอยปัตตานี นำโดยนายกสมาคมประมงพื้นบ้านจังหวัดปัตตานี เพื่อมาทวงถามความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมงฯ ตามข้อเรียกทั้ง 6 ข้อ มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง หลังจากในพื้นที่ จ.ปัตตานี มีการทำประมงเครื่องมือผิดกฎหมายอย่างแพร่หลาย และได้มีการแอบอ้างจากกลุ่มประมงผิดกฎหมายในพื้นที่ว่า ได้มีการตกลงแบบลับกับทางประมงจังหวัด จึงทำให้กลุ่มประมงพื้นบ้านเริ่มไม่พอใจต่อท่าทีของเจ้าหน้าที่รัฐบางคนต่อการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมายที่ยืดเยื้อมายาวนาน
เมื่อมีคำสั่งของ คสช.ฉบับที่ 24/2558 ออกเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาล่วงเลยเวลาไปหลายเดือนมาแล้ว แต่กลับไม่ดำเนินการจริงจัง โดยเฉพาะทางประมงจังหวัดที่มีแนวคิดอยากหามาตรการช่วยเหลือเยียวยาประมงที่ผิดกฎหมายให้ชัดเจนก่อนที่จะใช้มาตรการทางกฎหมาย อาจเป็นเพราะความสัมพันธ์ส่วนตัวกับกลุ่มประมงเหล่านี้ จึงทำให้ทางกลุ่มประมงพื้นบ้านได้ยื่นข้อเสนอใน 6 ข้อ ให้มีการตั้งกรรมการสอบการทำงานของประมงจังหวัดปัตตานีในฐานะเลขาฯคณะทำงานรื้อถอนเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย ตามคำสั่งฉบับที่ 6/2558 ภายใต้ศูนย์บัญชาการการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย แต่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางกลุ่มประมงพื้นบ้านจำนวนหลายร้อยคนมารวมตัวกันบริเวณหน้าประตูเข้าออกศาลากลางจังหวัดปัตตานีหลังเก่า เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมจากกรณีมีกลุ่มไม่หวังดีนำเศษไม้ตอกตะปูไปปักกลางอ่าวปัตตานี ซึ่งเป็นบริเวณพื้นที่ทำประมงอวนลอย เพียงไม่พอใจต่อคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 24/2558 ที่ห้ามไม่ให้ใช้เครื่องมือทำประมงประเภทอวนลาก เครื่องมือลอบพับได้ไอ้โง่ เป็นต้น
แต่กลับไปกลั่นแกล้งชาวประมงอวนลอยสร้าง ความเสียหายเป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ของเจ้าหน้าที่รัฐเท่าที่ควร ปล่อยให้ชาวประมงพื้นบ้านแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองตามลำพัง จึงเกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างชาวประมงกันเองนับวันยิ่งมีท่าทีจะรุนแรงมากขึ้น ทางตัวแทนกลุ่มประมงพื้นบ้านจึงได้นัดออกมาเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมเรียกร้อง 6 ข้อ เพื่อแก้ไขปัญหาชาวประมงพื้นบ้านปัตตานี ต่อ นายกรัฐมนตรี แม่ทัพภาคที่ 4 ศอ.บต. ผู้ว่าฯ ปัตตานี ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดปัตตานี โดยมี นายเถกิงศักดิ์ ยกศิริ รองผู้ว่าฯ ปัตตานี ลงมารับหนังสือแทนผู้ว่าฯ ปัตตานี จากนั้นจึงได้เรียกตัวแทนของกลุ่มประมงพื้นบ้านประมาณ 20 รายเข้ามาประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ห้องประชุมชั้น 2 หลังเก่า ใช้เวลาประชุมนานหลายชั่วโมง จึงได้ข้อสรุปให้ทางศูนย์ดำรงธรรมเป็นเจ้าภาพหลักในการแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกทั้ง 6 ข้อ โดยทางกลุ่มประมงฯ ได้กำหนดเวลาให้ทางจังหวัดรีบแก้ไขปัญหาดังกล่าวภายใน 2 สัปดาห์
มาวันนี้หลังจากครบ 2 สัปดาห์ ทางกลุ่มประมงพื้นบ้านปัตตานีจึงได้มาถามความคืบหน้าต่อทางจังหวัด โดยเฉพาะทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดปัตตานีว่า ได้ดำเนินการอย่างไรบ้าง โดยทางจังหวัดได้ชี้แจงว่า ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในเรื่องของการดำเนินคดีที่ทางกลุ่มประมงผู้ที่ได้รับความเสียหายได้ดำเนินแจ้งความที่โรงพัก สภ.ยะหริ่ง ก่อนแล้วนั้น ทางศูนย์ดำรงธรรมได้ทำหนังสือให้เจ้าหน้าที่เร่งการสืบสวนหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ได้ ในส่วนการให้ความช่วยเหลือความเสียหายจากการกลั่นแกล้ง การจ้างงานในช่วงฤดูมรสุมเข้าชายฝั่งตลอดระยะเวลา 3 เดือน ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการไว้แล้ว
นอกจากนี้ ในที่ประชุมได้ตกลงร่วมกันที่จะให้ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ร่วมกับประมงจังหวัดเป็นเจ้าภาพหลักในการอำนวยการในการดำเนินการนำเรือออกลาดตระเวน และจัดชุดไล่ล่าประมงผิดกฎหมายทั้ง 2 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่บางราพา-ตันหยงปาวร์ และพื้นที่รอบอ่าวปัตตานี วันละ 2 เวลา เพื่อเป็นการห้ามปรามการทำประมงผิดกฎหมายประเภทประมงลากข้าง และประมงไอ้โง่ เป็นต้น
โดยทางผู้ว่าฯ ได้กำชับให้ดำเนินกวาดล้างอย่างเต็มที่ และเด็ดขาด และสั่งการให้ทางประมงจังหวัดจัดทำโครงการลักษณะการสนับสนุนเครื่องมือประมงที่ถูกกฎหมาย เพื่อไม่ให้มีการทำประมงที่ใช้เครื่องมือที่ผิดกฎหมายทำประมงอีกต่อไป หลังจากที่มีมติไม่สามารถเยียวยาเครื่องมือประมงผิดกฎหมายได้ อาจจะต้องเสียเวลาในการออกทำประมงไปบ้างเหมือนการทำประมงอวนลอยที่ต้องลอยอยู่กลางอ่าวฯ มีการเสียเวลาไปบ้าง ซึ่งมันต่างกับทำประมงไอ้โง่ ที่ตอนเย็นมาปักแล้วมานั่งคุยที่บ้าน ร้านน้ำชา แล้วค่อยไปเก็บในช่วงเช้าของวันถัดไป ทุกคนต้องพยายามปรับตัวให้เหมาะต่อสถานการณ์ จะไปอ้างว่าไม่คุ้นเคยไม่ได้อีกแล้ว มิฉะนั้นปัญหาจะจบอย่างไร
