ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เพลิงเผาวอดบ้านริมถนนศรีเสนา ต.ตลาดใหญ่ จ.ภูเก็ต มูลค่าความเสียหายประมาณ 1 แสนบาท คาดเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนสาเหตุที่แท้จริงจะทำการสอบสวนต่อไป
เมื่อเวลา 10.50 น. วันนี้ (13 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายที่บริเวณก่อนถึงสี่แยกไฟแดงหัชนานิเวชน์ ถนนศรีเสนา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากรับแจ้ง ร.ต.ท.เวชศักดิ์ จุลอดุง รอง สวป.สภ.เมืองภูเก็ต ในฐานะร้อยเวรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองภูเก็ต จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย ร.ต.อ.วิชัช คงทาไหว ร.ต.อ.ฉัตรชัย ชูหนู สวป.สภ.เมืองภูเก็ต นายธวัชชัย ทองมั่ง ปลัดเทศบาลนครภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.เมืองภูเก็ต รวมทั้งเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครภูเก็ต พร้อมรถดับเพลิง จำนวน 2 คัน และรถดับเพลิง อบจ.ภูเก็ต อีก 1 คัน
ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนศรีเสนา ซึ่งเป็นซอยเล็กๆ พบบ้านเลขที่ 12/11 ถ.ศรีเสนา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งบ้านเป็นของ นางขวัญใจ เจ๊ะตี อายุ 57 ปี เห็นเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง และควันไฟพวยพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่จึงเดินทางเข้าไปตรวจสอบและใช้น้ำฉีดสกัดไม่ให้เพลิงลุกลามไปติดบ้านข้างเคียง โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลากว่า 20 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงได้ โดยหลังบ้านดังกล่าวมีห้องเช่าปลูกเรียงรายกันประมาณ 6 ห้องแต่เพลิงไม่ได้ไหม้แต่อย่างใด จากการตรวจสอบบ้านหลังกล่าวพบว่า บ้านถูกเพลิงเผาวอดไปทั้งหลังห ทรัพย์สินภายในบ้านได้รับความเสียหายเช่นกัน
จากการสอบถาม นายนิพนธ์ ไกรสร อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นผู้ดูแล และอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าว บอกว่า ตนเอง พร้อมภรรยาได้ออกจากบ้านไปธุระประมาณ 20 นาที จากนั้น นางขวัญใจ เจ๊ะตี ซึ่งเป็นพี่สาวได้โทรศัพท์มาบอกว่า บ้านที่ตนอาศัยไฟไหม้วอดทั้งหลัง ตนเองตกใจมากจึงรีบกลับมาดูพบว่าไฟไหม้จริง ซึ่งก่อนออกจากบ้านตนได้ถอดปลั๊กไฟ ปิดแก๊ส และตรวจสอบความเรียบร้อยภายในบ้านแล้วจึงตัดสินใจออกไป ซึ่งทรัพย์สินภายในบ้านมีทั้งทีวี ตู้เย็น ตู้คาราโอเกะเก่า และเครื่องใช้อื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายประมาณ 100,000 บาท
ด้าน นายเมธา รัศมีคีรี อายุ 36 ปี เจ้าของห้องเช่าหลังบ้านดังกล่าว บอกว่า ตนได้นอนอยู่ภายในห้องเพียงลำพังคนเดียว และได้ยินเสียงแป๊ะๆ คล้ายๆ คนงานกำลังซ่อมหลังคาบ้านอยู่ ตนก็ได้นอนต่อโดยไม่ออกมาดูซึ่งปกติก็จะมีคนงานซ่อมหลังเป็นประจำ แต่พอสักพักได้ยินเสียงถังแก๊สระเบิดจึงได้ออกมาดู พบว่า ไฟกำลังลุกไหม้บ้านหลังกล่าวอย่างรุนแรง ตนจึงรีบวิ่งหนีเอาตัวรอดออกมาก่อน พร้อมแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบในที่สุด ซึ่งหลังจากเพลิงสงบตนจึงเข้าไปดูที่ห้องเช่า ปรากฏว่า เพลิงไม่ได้ลุกลามไปติดห้องแต่อย่างใด และรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมากที่เพลิงไม่ลุกลามไปติดห้องเช่า
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร และจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภูเก็ตเข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
เมื่อเวลา 10.50 น. วันนี้ (13 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายที่บริเวณก่อนถึงสี่แยกไฟแดงหัชนานิเวชน์ ถนนศรีเสนา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากรับแจ้ง ร.ต.ท.เวชศักดิ์ จุลอดุง รอง สวป.สภ.เมืองภูเก็ต ในฐานะร้อยเวรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองภูเก็ต จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย ร.ต.อ.วิชัช คงทาไหว ร.ต.อ.ฉัตรชัย ชูหนู สวป.สภ.เมืองภูเก็ต นายธวัชชัย ทองมั่ง ปลัดเทศบาลนครภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.เมืองภูเก็ต รวมทั้งเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครภูเก็ต พร้อมรถดับเพลิง จำนวน 2 คัน และรถดับเพลิง อบจ.ภูเก็ต อีก 1 คัน
ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนศรีเสนา ซึ่งเป็นซอยเล็กๆ พบบ้านเลขที่ 12/11 ถ.ศรีเสนา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งบ้านเป็นของ นางขวัญใจ เจ๊ะตี อายุ 57 ปี เห็นเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง และควันไฟพวยพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่จึงเดินทางเข้าไปตรวจสอบและใช้น้ำฉีดสกัดไม่ให้เพลิงลุกลามไปติดบ้านข้างเคียง โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลากว่า 20 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงได้ โดยหลังบ้านดังกล่าวมีห้องเช่าปลูกเรียงรายกันประมาณ 6 ห้องแต่เพลิงไม่ได้ไหม้แต่อย่างใด จากการตรวจสอบบ้านหลังกล่าวพบว่า บ้านถูกเพลิงเผาวอดไปทั้งหลังห ทรัพย์สินภายในบ้านได้รับความเสียหายเช่นกัน
จากการสอบถาม นายนิพนธ์ ไกรสร อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นผู้ดูแล และอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าว บอกว่า ตนเอง พร้อมภรรยาได้ออกจากบ้านไปธุระประมาณ 20 นาที จากนั้น นางขวัญใจ เจ๊ะตี ซึ่งเป็นพี่สาวได้โทรศัพท์มาบอกว่า บ้านที่ตนอาศัยไฟไหม้วอดทั้งหลัง ตนเองตกใจมากจึงรีบกลับมาดูพบว่าไฟไหม้จริง ซึ่งก่อนออกจากบ้านตนได้ถอดปลั๊กไฟ ปิดแก๊ส และตรวจสอบความเรียบร้อยภายในบ้านแล้วจึงตัดสินใจออกไป ซึ่งทรัพย์สินภายในบ้านมีทั้งทีวี ตู้เย็น ตู้คาราโอเกะเก่า และเครื่องใช้อื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายประมาณ 100,000 บาท
ด้าน นายเมธา รัศมีคีรี อายุ 36 ปี เจ้าของห้องเช่าหลังบ้านดังกล่าว บอกว่า ตนได้นอนอยู่ภายในห้องเพียงลำพังคนเดียว และได้ยินเสียงแป๊ะๆ คล้ายๆ คนงานกำลังซ่อมหลังคาบ้านอยู่ ตนก็ได้นอนต่อโดยไม่ออกมาดูซึ่งปกติก็จะมีคนงานซ่อมหลังเป็นประจำ แต่พอสักพักได้ยินเสียงถังแก๊สระเบิดจึงได้ออกมาดู พบว่า ไฟกำลังลุกไหม้บ้านหลังกล่าวอย่างรุนแรง ตนจึงรีบวิ่งหนีเอาตัวรอดออกมาก่อน พร้อมแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบในที่สุด ซึ่งหลังจากเพลิงสงบตนจึงเข้าไปดูที่ห้องเช่า ปรากฏว่า เพลิงไม่ได้ลุกลามไปติดห้องแต่อย่างใด และรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมากที่เพลิงไม่ลุกลามไปติดห้องเช่า
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร และจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภูเก็ตเข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป