xs
xsm
sm
md
lg

“โบ๊ทพัฒนา” เดินหน้าลงทุนอสังหาฯ สู่ 1 ทศวรรษ ผุด “Hideaway Valley Chalong” ม.ค.ปีหน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “โบ๊ทพัฒนา” บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทุนท้องถิ่นภูเก็ต เดินหน้าพัฒนาอสังหาฯ ก้าวสู่ 1 ทศวรรษ ด้วยการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อมอบสิ่งดีที่สุดให้ลูกค้า เผยปีหน้าผุดอีกหนึ่งโครงการที่ฉลอง “Hideaway Valley Chalong” บ้านเดี่ยวท่ามกลางธรรมชาติ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “คืนวันดีๆ...ที่ย้อนกลับมา” 60 ยูนิต มูลค่า 300-400 ล้านบาท เปิดตัว 16 ม.ค.59 พร้อมดัน บายพาส บิซทาวน์ เป็น “Design Center” สร้าง Green Market และสวนสาธารณะในโบ๊ทพลาซ่ารับชุมชนสามกองเติบโตอย่างรวดเร็ว
นายบุญ ยงสกุล ประธานกรรมการ บริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด
บริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทุนท้องถิ่นภูเก็ต ได้นำสื่อมวลชนไปสัมผัสการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติที่โรงแรม บ่อแสน วิลล่า ต.บ่อแสน อ.ทับปุด จ.พังงา พร้อมแถลงข่าวประจำปีของบริษัท โบ๊ทพัฒนา บริษัท โบ๊ทลากูน จำกัด ที่จอดเรือยอชต์ หรือ มารีน่าชื่อดังของจังหวัดภูเก็ต และโรงแรม บ่อแสน วิลล่า โดยมี นายบุญ ยงสกุล ประธานกรรมการ นายภานุพงศ์ กริชจนรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด พร้อมทีมบริหาร ระหว่างวันที่ 7-8 พ.ย.ที่ผ่านมา ณ ห้องเต่าทอง โรงแรม บ่อแสน วิลล่า

นายบุญ ยงสกุล ประธานกรรมการบริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด กล่าวว่า บริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของคนท้องถิ่นภูเก็ต พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งที่เป็นบ้านจัดสรร อาคารพาณิชย์ โฮมออฟฟิศ และ outdoor Community mall รวมถึงอพาร์ตเมนต์ เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 6 ปี ที่ได้ดำเนินการโครงการต่างๆ มาแล้วกว่า 10 โครงการ มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นโครงการสามกองทาวน์, สามกองพาร์ค, สามกองเลคการ์เด้นท์, โบ๊ทอเวนิว เชิงทะเล, แกรนด์โบ๊ทพลาซ่า, บายพาส บิซ ทาวน์, Hideaway @ Bypass, Deva Escape และอื่นๆ ซึ่งแต่ละโครงการที่เปิดตัว และเปิดขายได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี สามารถปิดการขายได้ในเวลาอันรวดเร็ว ถือเป็นบริษัทท้องถิ่นไม่กี่บริษัทที่สามารถดำเนินการได้หลายๆ โครงการในเวลาอันสั้น ถือเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด ทางบริษัทจึงมีแผนที่จะขยายตัวไปสู่พื้นที่อื่น รวมถึงจังหวัดในเขตภาคใต้ โดยจะนำแนวคิดในเรื่องการสร้างนวัตกรรมการออกแบบใหม่ๆ เพื่อให้คุณภาพชีวิตของคนภูเก็ต และลูกค้าของโบ๊ทพัฒนาดีขึ้น รวมถึงพัฒนาระบบการให้บริการหลังการขายให้ยอดเยี่ยมเหนือกว่าบริษัทชั้นนำอื่นๆ
นายบุญ ยงสกุล ประธานกรรมการ บริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด
“ตั้งแต่เปิดตัวโครงการแรกของบริษัท คือ สามกองทาวน์ เป็นโครงการเล็กๆ มีมูลค่าเพียง 75 ล้านบาท เป็นการจุดประกายให้บริษัทได้เห็นว่า จริงๆ แล้ว ตลาดกลุ่มลูกค้าคนไทยในภูเก็ตมีศักยภาพมาก เราสามารถปิดการขายโครงการแรกภายในเวลาครึ่งวัน และเมื่อเปิดโครงการที่ 2 และ 3 ตามมาปรากฏว่า ยอดจองเหนือความคาดหมายจริงๆ ซึ่งทุกโครงการที่เราเปิดตัวมาในขณะนี้ 10 กว่าโครงการ ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าคนภูเก็ตมาโดยตลอด” นายบุญ กล่าวและว่า

เพื่อเป็นการเตรียมตัวเข้าการสู่การครบรอบ 1 ทศวรรษ ของบริษัท โบ๊ทพัฒนา ทางเราจึงได้วางวิสัยทัศน์ใหม่ในปี 2559 นี้ ด้วยการมุ่งสู่การเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย พร้อมมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ และบริการชั้นเลิศให้ลูกค้า โดยมีความรับผิดชอบ ความโปร่งใส และความชื่อสัตย์ต่อชุมชน และผู้ที่ได้ผลประโยชน์ร่วมทั้งหมด เพราะเราเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าในวันนี้ อาจไม่จำเป็นว่าดีพอสำหรับพวกเราในวันพรุ่งนี้ จึงทำให้เราต้องพัฒนาในทุกๆ ด้านเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทั้งในวันนี้ และวันต่อๆ ไปอย่างไม่หยุดยั้ง
นายภานุพงศ์ กริชจนรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด
ประธานกรรมการ บริษัท โบ๊ทพัฒนา กล่าวต่อว่า จากวิสัยทัศน์ดังกล่าว ทำให้ในปี 2559 นี้ บริษัท โบ๊ทพัฒนา ได้วางแผนที่จะขยายการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้ครอบคลุมพื้นที่เกาะภูเก็ตมากยิ่ง จากเดิมที่มุ่งเน้นในพื้นที่บริเวณสามกอง บายพาส และเชิงทะเล เป็นหลัก ด้วยการเข้าไปพัฒนาโครงการที่บริเวณตำบลฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ ภายใต้โครงการ “Hideaway Valley Chalong” จะเปิดตัวในวันที่ 16 ม.ค.2559 นี้ พร้อมเดินหน้าพัฒนาโครงการ บายพาส บิซ ทาวน์ ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ภายใต้แนวคิด Design Center ที่จะเป็นศูนย์รวมของผู้ประกอบการด้านงานออกแบบ ตกแต่ง และความคิดสร้างสรรค์ ด้วยการหาพันธมิตรที่มีแนวคิดเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เน้นไปที่กลุ่มใหญ่ เพื่อให้บริเวณบายพาสเป็นแลนด์มาร์กหนึ่งของเกาะภูเก็ต ซึ่งขณะนี้ทางบริษัท อิคาโน่ ประเทศไทย หรืออิเกีย ได้เข้ามาลงทุนแล้ว และพร้อมจะเปิดให้บริการในวันที่ 27 พ.ย.2558 ปี รวมถึงร้านอื่นๆ จะทยอยเปิดให้บริการตามมาในเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดที่จะพัฒนาโครงการโบ๊ทพลาซ่ารองรับการเติบโตของชุมชนบริเวณย่านสามกอง และลักกงสี ที่ขยายโตเพิ่มขึ้น ขณะนี้มีชุมนุมมากกว่า 2,000 ครัวเรือน เป็นกรีนมาร์เกต (Green Market) ที่เน้นไปในเรื่องของอาหารเพื่อสุขภาพเป็นหลัก และเพิ่มสวนสาธารณะเพื่อการพักผ่อนของคนในชุมชนมากขึ้น
นายภานุพงศ์ กริชจนรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด
ด้าน นายภานุพงศ์ กริชจนรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด กล่าวว่า ในปี 2559 นี้ ทางบริษัท โบ๊ทพัฒนา มีโครงการที่จะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตที่เป็นบ้านจัดสรรเพิ่มอีก 1 โครงการ ในต้นปี 2559 คือ โครงการ “Hideaway Valley Chalong” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณซอยยอดเสน่ห์ 2 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ห่างจากตัวถนนใหญ่เพียง 300-400 เมตรเท่านั้น โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 ม.ค.2559 นี้

โดยโครงการ “Hideaway Valley Chalong” นั้น ทางบริษัทตั้งใจที่จะพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ “คืนวันดีๆ...ที่ย้อนกลับมา” เป็นโครงการที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติเนินเขา บนเนื้อที่ 20 ไร่ ถูกออกแบบ และตกแต่งสไตล์เรโทร-วินเทจ-ลอฟ เพื่อให้รำลึกถึงคืนวันในวัยเด็กที่อยู่รวมกันเป็นครอบครัว ที่พ่อ-แม่-ลูกได้ทำกิจกรรมร่วมกันภายในบ้าน ไม่ว่าเป็นโรงจอดรถของคุณพ่อหรือสวนผักหลังบ้านของคุณแม่ เป็นต้น พร้อมสวนสาธารณะ คลับเฮาส์ที่มีทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำ เป็นต้น

โครงการ Hideaway Valley Chalong มีทั้งหมด 60 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 4.99 ล้านบาทไปจนถึง 15 ล้านบาท มูลค่าโครงการประมาณ 300-400 ล้านบาท มีบ้านให้เลือก 3-4 แบบ เริ่มต้นที่ 50 ตร.ว.ไปจนถึง 100 ตร.ว. เริ่มก่อสร้างในปีหน้าใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 12-15 เดือน

กรรมการผู้จัดการ บริษัท โบ๊ทพัฒนา เปิดเผยอีกว่า โครงการ Hideaway Valley Chalong นั้น ทางบริษัทจะเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงบน ซึ่งคาดว่าโครงการในระดับดังกล่าวจะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าที่ทำงานอยู่ในย่านฉลอง ราไวย์ กะตะ กะรน เนื่องจากในขณะนี้โครงการที่เกิดขึ้นในพื้นที่ฉลอง ถ้าไม่เป็นโครงการระดับบนที่ราคาสูงๆ ก็จะเป็นโครงการระดับล่างๆ ทำให้บริษัทมองเห็นช่องทางตลาดสำหรับกลุ่มลูกค้าระดับกลางๆ ซึ่งยังมีกำลังซื้อ และความต้องการที่อยู่อาศัยจริงๆ ในภูเก็ต

“แม้ว่าในขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะชะลอตัวไปบ้าง แต่เชื่อว่าความต้องการที่อยู่อาศัยในภูเก็ตยังมีอยู่ จากที่ภูเก็ตมีการเติบโตทางการท่องเที่ยว มีการเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่องของกลุ่มทุนใหญ่ๆ หลายๆ บริษัท ทำให้การเคลื่อนย้ายแรงงาน และกลุ่มผู้บริหารระดับหัวหน้างานเข้ามาเรื่อยๆ ทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มตามไปด้วย” นายภานุพงศ์ กล่าวในที่สุด

นอกจากนี้ ทางบริษัท โบ๊ทพัฒนา ยังได้ตั้งแผนกที่จะเข้ามาดูแล และให้บริการหลังการขายด้วยนวัตกรรมการให้บริการครบวงจร (Innovative Service) ซึ่งประกอบไปด้วย การตรวจสอบคุณภาพบ้านก่อนที่จะส่งมอบให้ลูกค้า, ให้บริการขาย/เช่า โดยจะให้บริการฝากขาย ฝากเช่ากับลูกค้าในโครงการ และปล่อยเช่าที่ดินเปล่า, บริการทำความสะอาดบ้าน ดูแลตกแต่งสวน สระว่ายน้ำ และบริการในเรื่องของความปลอดภัย ได้นำระบบ Night Mnnager มาตรวจสอบการทำงานของบริษัทดูแลความปลอดภัย
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น