ศูนย์ข่าวภูเก็ต - โลกโซเชียลร่วมไว้อาลัย “ด.ต.สุทัศ สองเมือง” พร้อมรุมถล่มคนขับรถตู้เมาซิ่งชนเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ถวายความปลอดภัย ผู้การเผยตำรวจภูเก็ตต้องสูญเสียตำรวจดีๆ เพราะการขาดความรับผิดชอบของคนที่เมาแล้วขับ ที่ผ่านมา ทางตร.ภูเก็ตเข้มงวดเมาไม่ขับต่อเนื่องเพื่อปกป้องชีวิตของประชาชน และนักท่องเที่ยว
จากกรณีเกิดอุบัติเหตุคนขับรถตู้เมาซิ่งชน “ด.ต.สุทัศ สองเมือง” ผบ.หมู่ จร.สภ.ท่าฉัตรไชย จ.ภูเก็ต เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จ ซึ่งในส่วนของคนขับรถตู้คือ นายพิชิตพล ภาคแก้ว อายุ 25 ปี ตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 76 มิลลิกรัม ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวดำเนินคดีแล้ว ส่วนศพของ “ด.ต.สุทัศ สองเมือง” ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามที่บ้านเกิด อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งจะประกอบพิธี ณ กุโบว์บ้านหนองเสม็ด ตำบลคลองชีล้อม อำเภอกันตัง ในวันนี้ ( 10 พ.ย.)
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุความสูญเสียในครั้งนี้ ในโลกโซเชียลทั้งเฟซบุ๊ก และไลน์กลุ่มต่างๆ ต่างก็ร่วมแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของ “ด.ต.สุทัศ สองเมือง” ที่ต้องมาสูญเสียหัวหน้าครอบครัว และเป็นเหตุให้ลูกสาววัยกำลังน่ารักทั้ง 2 คน ที่มีอายุเพียงแค่ 5 ขวบ และ 3 ขวบ ต้องกลายมาเป็นเด็กกำพร้า เนื่องจากความไม่รับผิดชอบของคนขับรถตู้ที่เมาแล้วยังขับรถจนรถไปประสบอุบัติเหตุ และชน “ด.ต.สุทัศ สองเมือง” นอกจากนั้น ยังมีการประณามคนขับรถ รวมถึงเจ้าของรถที่ไม่รับผิดชอบดูแลกันอย่างกว้างขวาง เช่นเดียวกับเพื่อนข้าราชการตำรวจที่ต่างก็ร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของเพื่อนร่วมงานในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการจากไปแบบที่หลายคนไม่คาดคิด เช่น Thanom Shutterseed Thongpan แฟนเพซกันตังบ้านเรา - kantangbanrao
ขณะที่ พ.ต.อ.ธีระพล ทิพย์เจริญ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นต่อตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่งานจราจร และเกิดขึ้นในช่วงเช้าที่ใครจะไปคิดว่าในเวลานี้จะยังมีคนเมามาขับรถ ซึ่งที่ผ่านมา ในเรื่องของเมาแล้วขับได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอย่างเข้มงวดเพราะไม่ต้องการให้คนภูเก็ต หรือนักท่องเที่ยวต้องมาเสียชีวิตจากการเมาแล้วขับ ซึ่งครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการสูญเสียตำรวจดีๆ ไปอีก 1 นาย ที่ผ่านมา “ด.ต.สุทัศ สองเมือง” ได้รับรางวัลจราจรดีเด่น หรือรางวัลบริการประชาชนดีเด่นมาโดยตลอด เช่น ปี 50, 54 และ 55
ส่วนเรื่องการช่วยเหลือครอบครัวของ “ด.ต.สุทัศ สองเมือง” นั้น ในส่วนของทางตำรวจพร้อมที่จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ไม่มีการทอดทิ้งอย่างแน่นอน ซึ่งนอกเหนือจากเงินสวัสดิการที่เขาจะได้รับตามสิทธิแล้ว ในส่วนของตำรวจพื้นที่เองก็ได้มีการระดมความช่วยเหลือกันทุกทาง แม้แต่ภาคธุรกิจก็ได้เสนอความช่วยเหลือเข้ามาแล้วเช่นกัน
จากกรณีเกิดอุบัติเหตุคนขับรถตู้เมาซิ่งชน “ด.ต.สุทัศ สองเมือง” ผบ.หมู่ จร.สภ.ท่าฉัตรไชย จ.ภูเก็ต เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จ ซึ่งในส่วนของคนขับรถตู้คือ นายพิชิตพล ภาคแก้ว อายุ 25 ปี ตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 76 มิลลิกรัม ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวดำเนินคดีแล้ว ส่วนศพของ “ด.ต.สุทัศ สองเมือง” ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามที่บ้านเกิด อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งจะประกอบพิธี ณ กุโบว์บ้านหนองเสม็ด ตำบลคลองชีล้อม อำเภอกันตัง ในวันนี้ ( 10 พ.ย.)
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุความสูญเสียในครั้งนี้ ในโลกโซเชียลทั้งเฟซบุ๊ก และไลน์กลุ่มต่างๆ ต่างก็ร่วมแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของ “ด.ต.สุทัศ สองเมือง” ที่ต้องมาสูญเสียหัวหน้าครอบครัว และเป็นเหตุให้ลูกสาววัยกำลังน่ารักทั้ง 2 คน ที่มีอายุเพียงแค่ 5 ขวบ และ 3 ขวบ ต้องกลายมาเป็นเด็กกำพร้า เนื่องจากความไม่รับผิดชอบของคนขับรถตู้ที่เมาแล้วยังขับรถจนรถไปประสบอุบัติเหตุ และชน “ด.ต.สุทัศ สองเมือง” นอกจากนั้น ยังมีการประณามคนขับรถ รวมถึงเจ้าของรถที่ไม่รับผิดชอบดูแลกันอย่างกว้างขวาง เช่นเดียวกับเพื่อนข้าราชการตำรวจที่ต่างก็ร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของเพื่อนร่วมงานในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการจากไปแบบที่หลายคนไม่คาดคิด เช่น Thanom Shutterseed Thongpan แฟนเพซกันตังบ้านเรา - kantangbanrao
ขณะที่ พ.ต.อ.ธีระพล ทิพย์เจริญ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นต่อตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่งานจราจร และเกิดขึ้นในช่วงเช้าที่ใครจะไปคิดว่าในเวลานี้จะยังมีคนเมามาขับรถ ซึ่งที่ผ่านมา ในเรื่องของเมาแล้วขับได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอย่างเข้มงวดเพราะไม่ต้องการให้คนภูเก็ต หรือนักท่องเที่ยวต้องมาเสียชีวิตจากการเมาแล้วขับ ซึ่งครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการสูญเสียตำรวจดีๆ ไปอีก 1 นาย ที่ผ่านมา “ด.ต.สุทัศ สองเมือง” ได้รับรางวัลจราจรดีเด่น หรือรางวัลบริการประชาชนดีเด่นมาโดยตลอด เช่น ปี 50, 54 และ 55
ส่วนเรื่องการช่วยเหลือครอบครัวของ “ด.ต.สุทัศ สองเมือง” นั้น ในส่วนของทางตำรวจพร้อมที่จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ไม่มีการทอดทิ้งอย่างแน่นอน ซึ่งนอกเหนือจากเงินสวัสดิการที่เขาจะได้รับตามสิทธิแล้ว ในส่วนของตำรวจพื้นที่เองก็ได้มีการระดมความช่วยเหลือกันทุกทาง แม้แต่ภาคธุรกิจก็ได้เสนอความช่วยเหลือเข้ามาแล้วเช่นกัน
