ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจชุดสืบ สภ.เมืองภูเก็ต รวบผู้ต้องหาความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉ้อโกงประชาชน นำภาพถ่ายบุคคลอื่นสร้างเฟซบุ๊กปลอมหลอกขายสินค้า
วันนี้ (5 พ.ย.) ที่ห้องประชุม สภ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.ท.คุณเดช ณ หนองคาย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต ร่วมแถลงข่าวคดีความผิดตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ และฉ้อโกงประชาชน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ต.ค.2558 ที่ผ่านมา น.ส.เบญจภรณ์ พุ่มเกลี้ยง อายุ 24 ปี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่า มีคนร้ายใช้ภาพของตนไปใช้สร้างบัญชีเฟซบุ๊กปลอม และหลอกขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ต โดยวิธีการประกาศขายกล้องถ่ายรูป ฟรุ้งฟริ้ง ในราคาเครื่องละ 5,500 บาท จากราคาปกติประมาณ 20,000 บาท และให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารก่อนจะส่งสินค้าให้ทางพัสดุไปรษณีย์ ซึ่งมีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินสั่งซื้อกล้องถ่ายรูปให้แก่ผู้ต้องหาเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้อื่นเข้าใจว่าบัญชีเฟซบุ๊กปลอมดังกล่าวเป็นของตน เป็นเหตุให้ตนได้รับความเสียหาย
ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต ได้สืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายในคดีนี้คือ น.ส.ปิยะนุช สิงห์ฆาฬะ อายุ 23 ปี ซึ่งพักอยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 2 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดภูเก็ต และนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านดังกล่าวพบสมุดบัญชี และใบเสร็จรับเงินการจ่ายค่าส่งพัสดุทางไปรษณีย์ จำนวน 7 ใบ ซึ่งน่าเชื่อว่าเป็นทรัพย์ที่คนร้ายใช้และได้มาจากการกระทำความผิด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดต่อให้ผู้ต้องหานี้เข้ามอบตัว
และวันที่ 4 พ.ย.2558 ผู้ต้องหานี้ได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน จากการสอบถามผู้ต้องหารับว่า ตนคือผู้กระทำความผิดในคดีนี้จริง โดยตนกระทำไปเนื่องจากรู้เท่าไม่ถึงการณ์ กล่าวคือ เมื่อประมาณต้นเดือน ส.ค.2558 ตนได้เริ่มนำภาพถ่ายของบุคคลอื่นทางเฟซบุ๊ก มาสร้างบัญชีเฟซบุ๊กปลอมขึ้น โดยใช้ชื่อปลอมว่า “ปรียา สุขขี” จากนั้นได้โพสต์ขายกล้องถ่ายรูปในราคา 5,500 บาท ทำให้มีผู้ติดต่อสั่งซื้อ และโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของตน จากนั้นตนจะส่งสิ่งของอย่างอื่น เช่น รองเท้าแตะ ยาสระผม ครีมนวดผม ฯลฯ ไปให้แก่ผู้เสียหายแทน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนจึงนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้เสียหายรายอื่น พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า มีหลายรายด้วยกันจากใบเสร็จการโอนเงินที่ตรวจสอบพบเบื้องต้นมีประมาณ 7-8 ราย แต่ก่อนหน้านี้ไม่ทราบว่ามีผู้เสียหายกี่ราย ต้องให้ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความจึงจะรู้ว่าผู้เสียหายจริงๆ มีทั้งหมดกี่ราย
วันนี้ (5 พ.ย.) ที่ห้องประชุม สภ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.ท.คุณเดช ณ หนองคาย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต ร่วมแถลงข่าวคดีความผิดตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ และฉ้อโกงประชาชน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ต.ค.2558 ที่ผ่านมา น.ส.เบญจภรณ์ พุ่มเกลี้ยง อายุ 24 ปี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่า มีคนร้ายใช้ภาพของตนไปใช้สร้างบัญชีเฟซบุ๊กปลอม และหลอกขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ต โดยวิธีการประกาศขายกล้องถ่ายรูป ฟรุ้งฟริ้ง ในราคาเครื่องละ 5,500 บาท จากราคาปกติประมาณ 20,000 บาท และให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารก่อนจะส่งสินค้าให้ทางพัสดุไปรษณีย์ ซึ่งมีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินสั่งซื้อกล้องถ่ายรูปให้แก่ผู้ต้องหาเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้อื่นเข้าใจว่าบัญชีเฟซบุ๊กปลอมดังกล่าวเป็นของตน เป็นเหตุให้ตนได้รับความเสียหาย
ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต ได้สืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายในคดีนี้คือ น.ส.ปิยะนุช สิงห์ฆาฬะ อายุ 23 ปี ซึ่งพักอยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 2 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดภูเก็ต และนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านดังกล่าวพบสมุดบัญชี และใบเสร็จรับเงินการจ่ายค่าส่งพัสดุทางไปรษณีย์ จำนวน 7 ใบ ซึ่งน่าเชื่อว่าเป็นทรัพย์ที่คนร้ายใช้และได้มาจากการกระทำความผิด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดต่อให้ผู้ต้องหานี้เข้ามอบตัว
และวันที่ 4 พ.ย.2558 ผู้ต้องหานี้ได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน จากการสอบถามผู้ต้องหารับว่า ตนคือผู้กระทำความผิดในคดีนี้จริง โดยตนกระทำไปเนื่องจากรู้เท่าไม่ถึงการณ์ กล่าวคือ เมื่อประมาณต้นเดือน ส.ค.2558 ตนได้เริ่มนำภาพถ่ายของบุคคลอื่นทางเฟซบุ๊ก มาสร้างบัญชีเฟซบุ๊กปลอมขึ้น โดยใช้ชื่อปลอมว่า “ปรียา สุขขี” จากนั้นได้โพสต์ขายกล้องถ่ายรูปในราคา 5,500 บาท ทำให้มีผู้ติดต่อสั่งซื้อ และโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของตน จากนั้นตนจะส่งสิ่งของอย่างอื่น เช่น รองเท้าแตะ ยาสระผม ครีมนวดผม ฯลฯ ไปให้แก่ผู้เสียหายแทน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนจึงนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้เสียหายรายอื่น พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า มีหลายรายด้วยกันจากใบเสร็จการโอนเงินที่ตรวจสอบพบเบื้องต้นมีประมาณ 7-8 ราย แต่ก่อนหน้านี้ไม่ทราบว่ามีผู้เสียหายกี่ราย ต้องให้ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความจึงจะรู้ว่าผู้เสียหายจริงๆ มีทั้งหมดกี่ราย