ศูนย์ข่าวภูเก็ต - โอละพ่อ สาวใหญ่ชาวกระบี่กุเรื่องถูกคนร้ายจับมัดมือมัดเท้าขังในของน้ำภายในที่ว่าการอำเภออ่าวลึก ตำรวจเค้นสอบสารภาพ แค่หลบเจ้าหนี้งานศพ
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (2 พ.ย.) ร.ต.ท.สุวิทย์ แก้วปรีชา พนักงานสอบสวน สภ.อ่าวลึก จ.กระบี่ รับแจ้งเหตุคนถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ และจับขังในห้องน้ำภายในอาคารที่ว่าการอำเภออ่าวลึก จ.กระบี่ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย นายบุญพาศ รักนุ้ย นายอำเภออ่าวลึก ที่เกิดเหตุ เป็นห้องน้ำหญิงอยู่บริเวณชั้นล่างของที่ว่าการอำเภออ่าวลึก ส่วนคนเจ็บทราบชื่อต่อมาคือ นางอำภร ปัจฉิมเกลี้ยง อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 ม.6 ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอ่าวลึก ก่อนหน้านี้ ส่วนจุดที่เกิดเหตุเป็นห้องน้ำหญิงห้องกลาง เบื้องต้น ไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงยังไม่ปักใจเชื่อซึ่งจะต้องรอสอบปากคำอีกครั้ง
ต่อมา ทาง พ.ต.อ.ภาสกร สนธิกุล ผกก.สภ.อ่าวลึก ได้เดินทางไปตรวจสอบอาการ ของ นางอำภร ที่โรงพยาบาลอ่าวลึก และสอบปากคำในเบื้องต้น พบรู้สึกตัวดีแต่ยังอยู่ในอาการอ่อนเพลีย และมีอาการซึมเล็กน้อย โดย นางอำภร ให้การ ว่า ขณะเกิดเหตุตนได้เดินทางมาทำธุระที่ตัวอำเภอ พร้อมด้วยสามีคือ นายมณเทียร ชูเดชา อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/2 เขตเทศบาลตำบลปลายพระยา จากนั้นไปเข้าห้องน้ำที่ว่าอำเภออ่าวลึก แต่ถูกคนร้ายตีด้วยของแข็งที่ท้ายทอย และมารู้สึกตัวอีกทีถูกมัดมือในห้องน้ำแล้ว โดยเงินติดตัวหายไป 1 หมื่นบาทด้วย ขณะที่แพทย์ระบุว่า จากการตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผล และร่องรอยถูกทำร้าย มีแต่รอยเชือกฟางเล็กๆ ที่ผูกที่ข้อมือเท่านั้น ส่วนคนไข้ก็มีอาการวิงเวียนศีรษะเล็กน้อย จึงให้นอนพักเพื่อรอดูอาการ
ขณะที่ นายมณเทียร สามี นางอำภร ได้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางมาทำธุระที่ตัวอำเภอพร้อมด้วยภรรยา แต่เมื่อมาถึงที่ว่าการอำเภอภรรยาก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำที่ชั้นล่างที่ว่าการอำเภอ แต่เมื่อเห็นว่าภรรยาเข้าห้องน้ำนานผิดปกติจึงได้ตามไปดูพบว่า ภรรยาอยู่ในห้องน้ำแล้ว จึงได้ปีนเข้าไปช่วยออกมา และแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เบื้องต้น นายมณเทียร ระบุว่า ตนยังสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้นจึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.อ่าวลึก
ล่าสุด พ.ต.อ.ภาสกร เปิดเผยว่า หลังมีการสอบปากคำนางอำภร อีกครั้ง ผลปรากฏว่า นางอำภรได้ให้การยอมรับสารภาพว่าเป็นคนกุเรื่องขึ้นมาเอง เนื่องจากได้ไปยืมเงินเพื่อนบ้านมา 1 หมื่นบาท เพื่อมาจัดงานศพพ่อของนางอำภร แต่หลังผ่านไป 5 วัน ไม่มีเงินคืนเจ้าของ และถูกทวงถามมาตลอด จึงได้ออกอุบายชวนสามีมาในอำเภอแล้วก็ทำทีเข้าไปในห้องน้ำ และใช่เชือกมัดมือดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาแจ้งความเท็จต่อไป
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (2 พ.ย.) ร.ต.ท.สุวิทย์ แก้วปรีชา พนักงานสอบสวน สภ.อ่าวลึก จ.กระบี่ รับแจ้งเหตุคนถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ และจับขังในห้องน้ำภายในอาคารที่ว่าการอำเภออ่าวลึก จ.กระบี่ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย นายบุญพาศ รักนุ้ย นายอำเภออ่าวลึก ที่เกิดเหตุ เป็นห้องน้ำหญิงอยู่บริเวณชั้นล่างของที่ว่าการอำเภออ่าวลึก ส่วนคนเจ็บทราบชื่อต่อมาคือ นางอำภร ปัจฉิมเกลี้ยง อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 ม.6 ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอ่าวลึก ก่อนหน้านี้ ส่วนจุดที่เกิดเหตุเป็นห้องน้ำหญิงห้องกลาง เบื้องต้น ไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงยังไม่ปักใจเชื่อซึ่งจะต้องรอสอบปากคำอีกครั้ง
ต่อมา ทาง พ.ต.อ.ภาสกร สนธิกุล ผกก.สภ.อ่าวลึก ได้เดินทางไปตรวจสอบอาการ ของ นางอำภร ที่โรงพยาบาลอ่าวลึก และสอบปากคำในเบื้องต้น พบรู้สึกตัวดีแต่ยังอยู่ในอาการอ่อนเพลีย และมีอาการซึมเล็กน้อย โดย นางอำภร ให้การ ว่า ขณะเกิดเหตุตนได้เดินทางมาทำธุระที่ตัวอำเภอ พร้อมด้วยสามีคือ นายมณเทียร ชูเดชา อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/2 เขตเทศบาลตำบลปลายพระยา จากนั้นไปเข้าห้องน้ำที่ว่าอำเภออ่าวลึก แต่ถูกคนร้ายตีด้วยของแข็งที่ท้ายทอย และมารู้สึกตัวอีกทีถูกมัดมือในห้องน้ำแล้ว โดยเงินติดตัวหายไป 1 หมื่นบาทด้วย ขณะที่แพทย์ระบุว่า จากการตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผล และร่องรอยถูกทำร้าย มีแต่รอยเชือกฟางเล็กๆ ที่ผูกที่ข้อมือเท่านั้น ส่วนคนไข้ก็มีอาการวิงเวียนศีรษะเล็กน้อย จึงให้นอนพักเพื่อรอดูอาการ
ขณะที่ นายมณเทียร สามี นางอำภร ได้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางมาทำธุระที่ตัวอำเภอพร้อมด้วยภรรยา แต่เมื่อมาถึงที่ว่าการอำเภอภรรยาก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำที่ชั้นล่างที่ว่าการอำเภอ แต่เมื่อเห็นว่าภรรยาเข้าห้องน้ำนานผิดปกติจึงได้ตามไปดูพบว่า ภรรยาอยู่ในห้องน้ำแล้ว จึงได้ปีนเข้าไปช่วยออกมา และแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เบื้องต้น นายมณเทียร ระบุว่า ตนยังสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้นจึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.อ่าวลึก
ล่าสุด พ.ต.อ.ภาสกร เปิดเผยว่า หลังมีการสอบปากคำนางอำภร อีกครั้ง ผลปรากฏว่า นางอำภรได้ให้การยอมรับสารภาพว่าเป็นคนกุเรื่องขึ้นมาเอง เนื่องจากได้ไปยืมเงินเพื่อนบ้านมา 1 หมื่นบาท เพื่อมาจัดงานศพพ่อของนางอำภร แต่หลังผ่านไป 5 วัน ไม่มีเงินคืนเจ้าของ และถูกทวงถามมาตลอด จึงได้ออกอุบายชวนสามีมาในอำเภอแล้วก็ทำทีเข้าไปในห้องน้ำ และใช่เชือกมัดมือดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาแจ้งความเท็จต่อไป
