ตรัง - โจรยุคเศรษฐกิจตกต่ำ ย่องงัดแผงจำหน่ายสินค้าภายในตลาดกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง ตรัง ก่อนกวาดเอาทุกอย่างที่พ่อค้าแม่ค้าเก็บไว้ แม้กระทั่งกะปิ เกลือ ปลาร้า หลบหนีไป
วันนี้ (29 ต.ค.) พ.ต.ท.จำรูญ เอียดสีทอง สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ภายในตลาดกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) ตรังหรือตลาดโก้งโค้ง ซึ่งตั้งอยู่บนถนนรักษ์จันทน์ ในเขตเทศบาลนครตรัง จากนั้นจึงแจ้งให้ พ.ต.อ.ปัญจพล ชำนาญหมอ ผกก.สภ.เมืองตรัง ทราบ พร้อมนำกำลังชุดสืบสวน สภ.เมืองตรัง และ ร.ต.ท.ณัฐดน นพรัตน์ รอง สวป.สภ.เมืองตรัง เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้าผู้เสียหายรอให้การต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า คนร้ายได้ใช้เหล็กแหลมงัดตู้เก็บสินค้าเพื่อป้องกันหนูแมวมากัดกิน ซึ่งภายในบรรจุน้ำปลา กะปิ เต้าหู้ยี้ เกลือ ปลาเค็ม มะนาว รวมทั้งเครื่องแกง หัวแก๊ส และถังแก๊สที่ปิดไว้อย่างมิดชิดได้สูญหายไปทั้งหมด ทั้งที่ผ่านมา ตลาดแห่งนี้ไม่เคยมีปัญหาสิ่งของสูญหาย เนื่องจากมีราคาไม่แพง อีกทั้งส่วนใหญ่จะเป็นของกิน ของประกอบอาหาร และเครื่องแกง
นางจำเนียร ทับชุม อายุ 49 ปี แม่ค้าแผงจำหน่ายของชำในตลาดกองทุนฯ กล่าวว่า ตนได้มาเปิดแผงขายสินค้าในตอนสาย เมื่อมาถึงพบว่าแผงโดนงัดแล้ว จากการตรวจพบว่า ปลาร้า กะปิ เต้าหู้ยี้ กระเทียมดอง ปลากรอบ เหรียญที่ไว้ทอน ถังแก๊ส และของเบ็ดเตล็ดอื่นๆ จำนวนอีกหลายรายการรวมมูลค่ากว่า 2,000 บาท ได้สูญหายไป นอกจากนั้นแผงใกล้เคียงกัน 3 แผง ยังโดนขโมยสินค้าไปอีกเช่นกัน
ขณะที่ นายสมนึก แทนบุญ อายุ 67 ปี พ่อค้าแผงจำหน่ายข้าวแกงในตลาดกองทุนฯ อีกรายกล่าวว่า หลังจากที่ตนเองปิดร้านประมาณ 3 ทุ่ม และเก็บของใต้แผงโดยมีการล็อกประตูอย่างดี กระทั่งช่วงสายเมื่อมาเปิดร้านพบว่า กุญแจถูกงัดแงะ และสำรวจพบเตาแก๊สหายไป นอกจากนี้ พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของแผงใกล้เคียงก็ถูกคนร้ายงัดขโมยของที่เก็บไปด้วย รวมทั้งเศษสตางค์ที่เก็บไว้ก็ถูกขโมยไปเกลี้ยงเช่นกัน
ด้าน พ.ต.ท.จำรูญ กล่าวว่า ในเบื้องต้นสันนิษฐานกลุ่มคนร้ายน่าจะเข้ามาขโมยในช่วงดึก เนื่องจากพ่อค้าแม่ค้าเก็บของหมดแล้ว แม้จะมียามเฝ้าก็ตาม แต่เนื่องจากภายในตลาดกองทุนฯ ซึ่งลักษณะเป็นแผง และมีช่องลับ จึงง่ายต่อการหลบซ่อน และงัดแงะ ซึ่งตนได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
อย่างไรก็ตาม แม่ค้าพ่อค้าในตลาดกองทุนฯ ต่างบ่นให้ฟังว่า นับตั้งแต่ยางพาราตกต่ำจนเหลือ 3 กิโลกรัม 100 บาท ส่งผลให้ภาพรวมทางเศรษฐกิจในจังหวัดตรังตกต่ำทุกอย่าง และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีโจรชุกชุมในช่วงนี้ จึงเรียกร้องให้ตำรวจได้เข้มงวดในการเฝ้าระวังเหตุร้ายที่ประสงค์ต่อทรัพย์ และชีวิตให้มากขึ้น ส่วนกลุ่มคนร้ายคาดว่าคงไม่ใช่มืออาชีพ แต่ลักทรัพย์เพื่อนำใช้ในชีวิตประจำวัน หรือใช้ประกอบอาหารเองมากกว่า
