ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รวบทันควันหนุ่มวิ่งราวทองพม่าหนัก 1 บาท พลเมืองดีเห็นเหตุการณ์ไล่ตามคนร้ายจนเสียหลักขับรถแหกโค้งวิ่งเข้าป่าละเมาะ หนุ่มพลเมืองดีแจ้งตำรวจปิดล้อมพื้นที่จนสามารถรวบตัวได้ทันควัน รับสารภาพก่อเหตุจริง ตรวจสอบประวัติเพิ่งหลุดจากคุก อ้างต้องการนำเงินไปรักษาลูกที่ป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (27 ต.ค.) ร.ต.อ.เวชศักดิ์ จุลอดุง ร้อยเวรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองภูเก็ต รอง สวป.สภ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีเหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ขณะนี้มีผู้เสียหายไล่ติดตามมา ส่วนคนร้ายขับรถแหกโค้งล้มลงได้หลบหนีเข้าไปในป่าละเมาะ ซอยสุทัศน์ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากได้รับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.เชาว์ ผอมนะ รอง ผกก.ป. สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน รอง ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ร.ต.ท.สุชาติ สุนทรมัจฉะ รอง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต ด.ต.ธนวัสส ทองชู ผบ.หมู่งานสืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต ด.ต.พลากร ทองแก้ว ด.ต.สมศักดิ์ หวีตันหยง ด.ต.บุญภพ ทินบัตร ด.ต.ประกอบ พรหมมี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ตอีกจำนวนหนึ่งรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุอยู่ในซอยสุทัศน์ บริเวณหน้าร้านเสริมสวย ชื่อหมอผม เห็นรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน กพย 653 ภูเก็ต สีแดง จอดล้มอยู่ 1 คัน ห่างกันพียงเล็กน้อยพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น pcx150 จอดล้มอยู่ 1 คัน สภาพได้รับความเสียหาย ใกล้กันพบนางมูเอ็ง สัญชาติพม่า (ผู้เสียหาย) ยืนตระหนกตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากนั้น พบ นายศุภชัย มัททะนัง อายุ 20 ปี อาชีพพนักงานขายอะไหล่รถยนต์สามกองออโต้พาร์ท (พลเมืองดี) ที่ติดตามไล่ตามคนร้ายมาจากสถานที่เกิดเหตุให้การต่อตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนซื้อของอยู่ในตลาดสดดาวน์ทาวน์ ก็ได้เห็นคนร้ายกระชากสร้อยคอทองคำของพม่าแล้ว ขับรถหลบหนีมายังที่เกิดเหตุ ตนได้ไล่ติดตามมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งผู้ต้องหาเสียหลักแหกโค้งขับรถไปชนกับรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ในซอย ตนพยายามคว้าตัวคนร้าย แต่คนร้ายไหวตัวทันวิ่งหลบหนีเข้าป่าละเมาะบริเวณใกล้เคียง ตนจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ และไล่ตามจับกุมคนร้าย ซึ่งต่อมา เจ้าหน้าที่ก็สามารถจับกุมคนร้ายได้ทราบชื่อคือ นายศราวุธ นิจอภัย อายุ 20 ปี พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นเบส สีแดง หมายเลขทะเบียน กพย 653 ภูเก็ต คันที่ใช่ก่อเหตุ สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น
ในเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุจริง เนื่องจากต้องการนำเงินไปรักษาลูกที่ป่วยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งจึงออกมาก่อเหตุดังกล่าว จากการตรวจสอบประวัติพบว่า เพิ่งพ้นโทษข้อหาวิ่งราวทรัพย์มาเมื่อวันที่ 2 เม.ย.2558 จนกระทั่งมาก่อเหตุอีก ขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนเพื่อขยายผลต่อไป