ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ต เดินหน้าจัดระเบียบชายหาดต่อ ประกาศตั้งคณะทำงานอีก 4 คณะ ย้ำกำหนดโซนนิ่ง 10% วางร่มทั้ง 18 ชายหาดต้องชัดเจน ตรวจสอบได้ ขณะที่การให้ข้อมูลของคณะทำงานจัดระเบียบชายหาดภูเก็ต ต้องผู้ว่าราชการจังหวัดเท่านั้น
วันนี้ (20 ต.ค.) ที่ห้องประชุมศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 18 ภูเก็ต นายโชคดี อมรวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานประชุมหารือการกำหนดกรอบแนวทางตามนโยบายจัดระเบียบชายหาดจังหวัดภูเก็ต โดยมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติในการจัดระเบียบชายหาดต่อจากแนวนโยบายในการดำเนินการของนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ที่ย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ได้ข้อสรุปว่า จะมีการเดินหน้าในการจัดระเบียบชายหาดต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตต่อไป ภายใต้กรอบระเบียบที่เพิ่มเติมขึ้นมา โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ได้ออกคำสั่งจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 19 ต.ค.58 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการจัดระเบียบชายหาดเพิ่มเติมขึ้นมาอีก 1 คณะ เพื่อให้การจัดระเบียบชายหาดเห็นผลเป็นรูปธรรม และเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด และเพื่อไม่ให้เกิดการกระทำผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
สำหรับคณะทำงานที่มีการแต่งตั้ง ประกอบด้วย 1.คณะที่ปรึกษา ประกอบด้วย เจ้าคณะจังหวัด ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ต ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 อัยการจังหวัดภูเก็ต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ 2.คณะฝ่ายอำนวยการ มีผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธาน และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะกรรมการ สำหรับในส่วนของคณะทำงานดังกล่าวมีหน้าที่ในการกำหนดกรอบแนวทางการดำเนินการตามแผนบริหารชายหาด และประกาศจังหวัดภูเก็ตฉบับที่ 1/2558 เรื่อง กำหนดมาตรการบริหารจัดการชายหาดในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต รวมทั้งให้คำปรึกษา คำแนะนำติดตามผลการทำงานของคณะทำงานขับเคลื่อนการปฏิบัติงานในระดับพื้นที่
3.คณะทำงานขับเคลื่อนการปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ แบ่งออกเป็น 3 อำเภอ ให้นายอำเภอแต่ละอำเภอเป็นประธานคณะทำงาน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นคณะทำงาน ซึ่งคณะทำงานดังกล่าวมีหน้าที่ 1.ในการกำหนดโซนนิ่ง 10% ให้ชัดเจนของแต่ละชายหาด เพื่อให้เป็นไปตามประกาศของจังหวัด จะต้องมีการขึ้นรูปแผนผังแนวเขตโซนนิ่ง มีการออกแบบทางสถาปัตยกรรมให้มีเอกลักษณ์ มีการปักหมุดแนวเขตที่มั่นคงถาวรสามารถอ่านค่าพิกัดภาพถ่ายทางดาวเทียมเพื่อใช้ประกอบการอ้างอิงในการควบคุมพื้นที่ชายหาดได้ ทำป้ายประชาสัมพันธ์ ป้ายข้อควรปฏิบัติในการใช้พื้นที่ชายหาด จุดบริการนักท่องเที่ยวให้มีความคงทนสวยงาม สามารถมองเห็นได้ชัดเจน 2.วางมาตรการการควบคุมการใช้พื้นที่ชายหาดโดยให้ท้องถิ่นออกเป็นประกาศ หรือข้อบัญญัติ หรือเทศบัญญัติให้สอดคล้องต่อประกาศจังหวัดภูเก็ต ให้ครบคลุมทุกมิติตามสภาพพื้นที่ และตามความเหมาะสมของกลุ่มอาชีพซึ่งได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมาย โดยไม่ขัดต่อระเบียบกฎระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และไม่กระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว
3.ให้อำเภอร่วมกับท้องถิ่นตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน ชุดอาสาสมัครพิทักษ์ชายหาดเพิ่มเติม เพื่อควบคุมการใช้พื้นที่ชายหาด และมีมาตรการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งจะต้องรายงานผลการปฏิบัติงานให้ที่ประชุมกรมจังหวัดทราบทุกเดือน 4.ให้อำเภอร่วมกับท้องถิ่นกำหนดรูปแบบร่มสำหรับให้เช่าบริการนักท่องเที่ยว ของกลุ่มอาชีพ หรือวิสาหกิจชุมชนให้มีรูปแบบเดียวกันทุกชายหาด เพื่อความสะดวกในการควบคุม และเพื่อความสวยงาม โดยตั้งงบประมาณของท้องถิ่น หรือท้องถิ่นขอสนับสนุนจากเอกชน 5.กำหนดมาตรการควบคุมผู้ประกอบการกลุ่มอาชีพชายหาดทุกกลุ่มอาชีพให้ปฏิบัติตามระเบียบคำสั่งประกาศของจังหวัด และกฎหมายอย่างเคร่งครัด 6.กำหนดมาตรการหลักเกณฑ์แนวทางปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกหาดเพื่อให้เกิดความยั่งยืน
คณะทำงานชุดที่ 4 คณะทำงานประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างความเข้าใจ ซึ่งมีทั้งระดับจังหวัดและระดับอำเภอ ซึ่งในระดับจังหวัดมีหน้าที่กำหนดแนวทางด้านการประชาสัมพันธ์ และสร้างความเข้าใจตามแผนบริหารจัดการชายหาดและประกาศจังหวัด ใช้สื่อประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบที่มีอยู่ทั้งในประเทศ และต่างประเทศเพื่อสร้างความเข้าใจในการบริหารจัดการชายชาดหาดของจังหวัดภูเก็ต รับฟังความคิดเห็น ปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานเพื่อเป็นแนวทางในการเสริมสร้างความเข้าใจต่อประชาชน นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการให้มีความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน
นายโชคดี กล่าวในการประชุม ว่า เมื่อมติที่ประชุมเห็นด้วยที่จะเดินหน้าต่อในเรื่องของการจัดระเบียบชายหาด ก็ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการตามข้อปฏิบัติ โดยเฉพาะการประกาศเขตโซนนิ่ง 10% ของแต่ละชายหาด อยากให้มีการประกาศออกมาทีละหาดเพื่อให้เกิดความชัดเจนตามประกาศจังหวัดภูเก็ตฉบับล่าสุด ซึ่งมีกรอบ และขั้นตอนการปฏิบัติกำหนดไว้อย่างชัดเจน และจังหวัดจะ KICK OFF ขับเคลื่อนโยบายการดำเนินการตามนโยบายจัดระเบียบชายหาดจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.58 เป็นต้นไป โดยในวันที่ 22 ต.ค. จะมีการประชุมคณะกรรมการตามคำสั่งจังหวัดอีกครั้ง ซึ่งเป็นการประชุมร่วมทั้งภาครัฐ และตัวแทนผู้ประกอบการ หลังจากนั้น จะมีการประชุมในระดับอำเภอทั้ง 3 อำเภอ และประชุมคณะทำงานสำรวจออกแบบกำหนดรูปแบบแผนที่ อ่านค่าพิกัดภาพถ่ายทางอากาศดาวเทียมเพื่อกำหนดโซนนิ่ง 10% รวมทั้งประชุมคณะทำงานเสริมสร้างอัตลักษณ์การออกแบบประติมากรรมหมุดหลักเขตพื้นที่โซนนิ่งให้มีความสวยงาม สอดคล้องต่อสภาพพื้นที่ หลังจากนั้น จะเป็นลงพื้นที่ทั้ง 18 หาด เพื่อจัดทำแผนที่เขตโซนนิ่งท้ายประกาศจังหวัดภูเก็ต
นายโชคดี ยังได้กล่าวในที่ประชุมต่อไปว่า ต่อไปนี้กรอบแนวทางการให้สัมภาษณ์ การให้ข้อมูลข่าวสารของคณะทำงานเพื่อสื่อสารให้สาธารณชนทราบถึงแนวทางการปฏิบัติงานในการดำเนินการตามนโยบายของทางจังหวัดภูเก็ต จะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเพียงคนเดียวเท่านั้น ยกเว้นผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อไม่ให้สับสน
วันนี้ (20 ต.ค.) ที่ห้องประชุมศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 18 ภูเก็ต นายโชคดี อมรวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานประชุมหารือการกำหนดกรอบแนวทางตามนโยบายจัดระเบียบชายหาดจังหวัดภูเก็ต โดยมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติในการจัดระเบียบชายหาดต่อจากแนวนโยบายในการดำเนินการของนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ที่ย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ได้ข้อสรุปว่า จะมีการเดินหน้าในการจัดระเบียบชายหาดต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตต่อไป ภายใต้กรอบระเบียบที่เพิ่มเติมขึ้นมา โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ได้ออกคำสั่งจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 19 ต.ค.58 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการจัดระเบียบชายหาดเพิ่มเติมขึ้นมาอีก 1 คณะ เพื่อให้การจัดระเบียบชายหาดเห็นผลเป็นรูปธรรม และเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด และเพื่อไม่ให้เกิดการกระทำผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
สำหรับคณะทำงานที่มีการแต่งตั้ง ประกอบด้วย 1.คณะที่ปรึกษา ประกอบด้วย เจ้าคณะจังหวัด ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ต ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 อัยการจังหวัดภูเก็ต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ 2.คณะฝ่ายอำนวยการ มีผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธาน และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะกรรมการ สำหรับในส่วนของคณะทำงานดังกล่าวมีหน้าที่ในการกำหนดกรอบแนวทางการดำเนินการตามแผนบริหารชายหาด และประกาศจังหวัดภูเก็ตฉบับที่ 1/2558 เรื่อง กำหนดมาตรการบริหารจัดการชายหาดในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต รวมทั้งให้คำปรึกษา คำแนะนำติดตามผลการทำงานของคณะทำงานขับเคลื่อนการปฏิบัติงานในระดับพื้นที่
3.คณะทำงานขับเคลื่อนการปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ แบ่งออกเป็น 3 อำเภอ ให้นายอำเภอแต่ละอำเภอเป็นประธานคณะทำงาน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นคณะทำงาน ซึ่งคณะทำงานดังกล่าวมีหน้าที่ 1.ในการกำหนดโซนนิ่ง 10% ให้ชัดเจนของแต่ละชายหาด เพื่อให้เป็นไปตามประกาศของจังหวัด จะต้องมีการขึ้นรูปแผนผังแนวเขตโซนนิ่ง มีการออกแบบทางสถาปัตยกรรมให้มีเอกลักษณ์ มีการปักหมุดแนวเขตที่มั่นคงถาวรสามารถอ่านค่าพิกัดภาพถ่ายทางดาวเทียมเพื่อใช้ประกอบการอ้างอิงในการควบคุมพื้นที่ชายหาดได้ ทำป้ายประชาสัมพันธ์ ป้ายข้อควรปฏิบัติในการใช้พื้นที่ชายหาด จุดบริการนักท่องเที่ยวให้มีความคงทนสวยงาม สามารถมองเห็นได้ชัดเจน 2.วางมาตรการการควบคุมการใช้พื้นที่ชายหาดโดยให้ท้องถิ่นออกเป็นประกาศ หรือข้อบัญญัติ หรือเทศบัญญัติให้สอดคล้องต่อประกาศจังหวัดภูเก็ต ให้ครบคลุมทุกมิติตามสภาพพื้นที่ และตามความเหมาะสมของกลุ่มอาชีพซึ่งได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมาย โดยไม่ขัดต่อระเบียบกฎระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และไม่กระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว
3.ให้อำเภอร่วมกับท้องถิ่นตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน ชุดอาสาสมัครพิทักษ์ชายหาดเพิ่มเติม เพื่อควบคุมการใช้พื้นที่ชายหาด และมีมาตรการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งจะต้องรายงานผลการปฏิบัติงานให้ที่ประชุมกรมจังหวัดทราบทุกเดือน 4.ให้อำเภอร่วมกับท้องถิ่นกำหนดรูปแบบร่มสำหรับให้เช่าบริการนักท่องเที่ยว ของกลุ่มอาชีพ หรือวิสาหกิจชุมชนให้มีรูปแบบเดียวกันทุกชายหาด เพื่อความสะดวกในการควบคุม และเพื่อความสวยงาม โดยตั้งงบประมาณของท้องถิ่น หรือท้องถิ่นขอสนับสนุนจากเอกชน 5.กำหนดมาตรการควบคุมผู้ประกอบการกลุ่มอาชีพชายหาดทุกกลุ่มอาชีพให้ปฏิบัติตามระเบียบคำสั่งประกาศของจังหวัด และกฎหมายอย่างเคร่งครัด 6.กำหนดมาตรการหลักเกณฑ์แนวทางปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกหาดเพื่อให้เกิดความยั่งยืน
คณะทำงานชุดที่ 4 คณะทำงานประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างความเข้าใจ ซึ่งมีทั้งระดับจังหวัดและระดับอำเภอ ซึ่งในระดับจังหวัดมีหน้าที่กำหนดแนวทางด้านการประชาสัมพันธ์ และสร้างความเข้าใจตามแผนบริหารจัดการชายหาดและประกาศจังหวัด ใช้สื่อประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบที่มีอยู่ทั้งในประเทศ และต่างประเทศเพื่อสร้างความเข้าใจในการบริหารจัดการชายชาดหาดของจังหวัดภูเก็ต รับฟังความคิดเห็น ปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานเพื่อเป็นแนวทางในการเสริมสร้างความเข้าใจต่อประชาชน นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการให้มีความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน
นายโชคดี กล่าวในการประชุม ว่า เมื่อมติที่ประชุมเห็นด้วยที่จะเดินหน้าต่อในเรื่องของการจัดระเบียบชายหาด ก็ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการตามข้อปฏิบัติ โดยเฉพาะการประกาศเขตโซนนิ่ง 10% ของแต่ละชายหาด อยากให้มีการประกาศออกมาทีละหาดเพื่อให้เกิดความชัดเจนตามประกาศจังหวัดภูเก็ตฉบับล่าสุด ซึ่งมีกรอบ และขั้นตอนการปฏิบัติกำหนดไว้อย่างชัดเจน และจังหวัดจะ KICK OFF ขับเคลื่อนโยบายการดำเนินการตามนโยบายจัดระเบียบชายหาดจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.58 เป็นต้นไป โดยในวันที่ 22 ต.ค. จะมีการประชุมคณะกรรมการตามคำสั่งจังหวัดอีกครั้ง ซึ่งเป็นการประชุมร่วมทั้งภาครัฐ และตัวแทนผู้ประกอบการ หลังจากนั้น จะมีการประชุมในระดับอำเภอทั้ง 3 อำเภอ และประชุมคณะทำงานสำรวจออกแบบกำหนดรูปแบบแผนที่ อ่านค่าพิกัดภาพถ่ายทางอากาศดาวเทียมเพื่อกำหนดโซนนิ่ง 10% รวมทั้งประชุมคณะทำงานเสริมสร้างอัตลักษณ์การออกแบบประติมากรรมหมุดหลักเขตพื้นที่โซนนิ่งให้มีความสวยงาม สอดคล้องต่อสภาพพื้นที่ หลังจากนั้น จะเป็นลงพื้นที่ทั้ง 18 หาด เพื่อจัดทำแผนที่เขตโซนนิ่งท้ายประกาศจังหวัดภูเก็ต
นายโชคดี ยังได้กล่าวในที่ประชุมต่อไปว่า ต่อไปนี้กรอบแนวทางการให้สัมภาษณ์ การให้ข้อมูลข่าวสารของคณะทำงานเพื่อสื่อสารให้สาธารณชนทราบถึงแนวทางการปฏิบัติงานในการดำเนินการตามนโยบายของทางจังหวัดภูเก็ต จะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเพียงคนเดียวเท่านั้น ยกเว้นผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อไม่ให้สับสน