ชุมพร - โจรลักทรัพย์ผู้ป่วยในโรงพยาบาลอาละวาด ที่ชุมพรจับหนักวันเดียวตามจับได้ 2 ราย ก่อเหตุซ้ำซากมานานกว่า 1 ปี ได้ทรัพย์สินหลายแสนบาท
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (16 ต.ค.) ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.สมภพ เชื้อทอง สว.สส.สภ.เมืองชุมพร พร้อมชุดจับกุม นำตัวนางพรทิพย์ ฉัตร์ทัน อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/18 หมู่ 9 ตำบลตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์มาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมคัดแยกของกลางที่ตรวจยึดเป็นกระเป๋าถือยี่ห้อธรรมดา และแบรนด์เนมกว่า 10 ใบ บัตรเอทีเอ็ม โทรศัพท์มือถือ สร้อยคอทองคำ พระเครื่อง และเครื่องประดับ ทรัพย์สินอื่นๆ อีกจำนวนมาก
พ.ต.ท.สมภพ เชื้อทอง สว.สส.สภ.เมืองชุมพร กล่าวว่า หลังจากมีผู้เสียหายหลายรายที่ถูกคนร้ายแอบเข้าไปลักทรัพย์สินตามอาคารต่างๆ ที่รักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ได้เข้าแจ้งความต้องพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ทางตำรวจชุดสืบสวนได้ออกติดตามแกะรอยคนร้ายซึ่งได้ภาพมาจากกล้องวงจรปิดทั้งในโรงพยาบาลที่เกิดเหตุ และของประชาชน
จนทราบว่าคนร้ายที่เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ดังกล่าวมีหลายคน มีทั้งผู้ชาย และผู้หญิง ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อกลางดึกของวันที่ 16 ต.ค.58 ที่ผ่านมา ตำรวจชุดปะฉะดะ สภ.เมืองชุมพร ก็สามารถจับกุมคนร้ายเป็นชายชื่อ นายยงยุทธ์ คีรีสาคร อายุ 72 ปี ได้พร้อมของกลางที่ขโมยมาจากนายเทิดศักดิ์ ขนอม นายก อบต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร ที่ไปนอนเฝ้าบิดาในโรงพยาบาลดังกล่าว และเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งเช่นเดียวกัน
สำหรับ นางพรทิพย์ ผู้ต้องหารายนี้เจ้าหน้าที่ได้ติดตามมาได้ระยะหนึ่ง จนทราบว่าได้เช่าห้องแถวแห่งหนึ่งริมถนนสายเมืองชุมพร-ปฐมพร เป็นแหล่งกบดาน จึงได้นำกำลังบุกเข้าจับกุมได้พร้อมของกลางจำนวนมากที่เก็บซุกซ่อนไว้ในห้องนอน เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวพร้อมของกลางมาสอบปากคำ และคัดแยกทรัพย์สินตามหลักฐานของเจ้าของทรัพย์ที่ยังมีอยู่ออกเป็นสัดส่วน พร้อมติดตามผู้เสียหายที่ได้แจ้งความไว้ต่อพนักงานสอบสวนมาชี้ทรัพย์สินของตนเอง
พ.ต.ท.สมภพ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนปากคำในเบื้องต้นนั้น นางพรทิพย์ ได้ให้การรับสารภาพว่า ทรัพย์สินทั้งหมดดังกล่าวตนเป็นคนแอบไปขโมยจากคนป่วย และคนเฝ้าไข้ที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์จริง โดยจะแฝงตัวทำทีเป็นคนเฝ้าไข้ แล้วรอจังหวะเจ้าหน้าที่และนางพยาบาลตรวจคนไข้เป็นรอบสุดท้ายตอนเที่ยงคืน จากนั้นได้อาศัยในช่วงกลางดึกประมาณตี 2-3 ไปแล้ว เพราะทั้งคนไข้ คนเฝ้าไข้จะนอนหลับสนิท
จึงย่องไปตามเตียงต่างๆ เมื่อสบโอกาสก็จะฉกทั้งกระเป๋าไปที่วางไว้ ส่วนทรัพย์สินที่ได้มีทั้งเงินสด โทรศัพท์มือถือ สร้อยทองคำ และบัตรเอทีเอ็มที่เจ้าของจะเขียนรหัสไว้ในกระเป๋า หรือสมุดบันทึกแล้วรีบไปกดเอาเงินสดออกมา นอกจากนี้ นางพรทิพย์ ยังสารภาพต่อว่า ตนเองได้ก่อเหตุในลักษณะนี้มานานกว่า 1 ปีแล้ว ทรัพย์สินที่ได้มารวมหลายแสนบาทก็จะนำมาใช้จ่ายเล่นหวยและอื่นๆ จนหมด
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อ นางพรทิพย์ ในฐานลักทรัพย์ในสถานที่ราชการในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำความผิด หรือรับของโจร อย่างไรก็ตามต้องรอผู้เสียหายมาชี้ทรัพย์สินของตนเองเพื่อทางเจ้าหน้าที่จะได้บันทึกจับกุมแยกคดี ต่างกรรมต่างวาระ เพื่อดำเนินคดีสถานหนักต่อผู้ต้องหารายนี้ที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนอย่างมาก
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (16 ต.ค.) ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.สมภพ เชื้อทอง สว.สส.สภ.เมืองชุมพร พร้อมชุดจับกุม นำตัวนางพรทิพย์ ฉัตร์ทัน อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/18 หมู่ 9 ตำบลตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์มาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมคัดแยกของกลางที่ตรวจยึดเป็นกระเป๋าถือยี่ห้อธรรมดา และแบรนด์เนมกว่า 10 ใบ บัตรเอทีเอ็ม โทรศัพท์มือถือ สร้อยคอทองคำ พระเครื่อง และเครื่องประดับ ทรัพย์สินอื่นๆ อีกจำนวนมาก
พ.ต.ท.สมภพ เชื้อทอง สว.สส.สภ.เมืองชุมพร กล่าวว่า หลังจากมีผู้เสียหายหลายรายที่ถูกคนร้ายแอบเข้าไปลักทรัพย์สินตามอาคารต่างๆ ที่รักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ได้เข้าแจ้งความต้องพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ทางตำรวจชุดสืบสวนได้ออกติดตามแกะรอยคนร้ายซึ่งได้ภาพมาจากกล้องวงจรปิดทั้งในโรงพยาบาลที่เกิดเหตุ และของประชาชน
จนทราบว่าคนร้ายที่เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ดังกล่าวมีหลายคน มีทั้งผู้ชาย และผู้หญิง ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อกลางดึกของวันที่ 16 ต.ค.58 ที่ผ่านมา ตำรวจชุดปะฉะดะ สภ.เมืองชุมพร ก็สามารถจับกุมคนร้ายเป็นชายชื่อ นายยงยุทธ์ คีรีสาคร อายุ 72 ปี ได้พร้อมของกลางที่ขโมยมาจากนายเทิดศักดิ์ ขนอม นายก อบต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร ที่ไปนอนเฝ้าบิดาในโรงพยาบาลดังกล่าว และเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งเช่นเดียวกัน
สำหรับ นางพรทิพย์ ผู้ต้องหารายนี้เจ้าหน้าที่ได้ติดตามมาได้ระยะหนึ่ง จนทราบว่าได้เช่าห้องแถวแห่งหนึ่งริมถนนสายเมืองชุมพร-ปฐมพร เป็นแหล่งกบดาน จึงได้นำกำลังบุกเข้าจับกุมได้พร้อมของกลางจำนวนมากที่เก็บซุกซ่อนไว้ในห้องนอน เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวพร้อมของกลางมาสอบปากคำ และคัดแยกทรัพย์สินตามหลักฐานของเจ้าของทรัพย์ที่ยังมีอยู่ออกเป็นสัดส่วน พร้อมติดตามผู้เสียหายที่ได้แจ้งความไว้ต่อพนักงานสอบสวนมาชี้ทรัพย์สินของตนเอง
พ.ต.ท.สมภพ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนปากคำในเบื้องต้นนั้น นางพรทิพย์ ได้ให้การรับสารภาพว่า ทรัพย์สินทั้งหมดดังกล่าวตนเป็นคนแอบไปขโมยจากคนป่วย และคนเฝ้าไข้ที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์จริง โดยจะแฝงตัวทำทีเป็นคนเฝ้าไข้ แล้วรอจังหวะเจ้าหน้าที่และนางพยาบาลตรวจคนไข้เป็นรอบสุดท้ายตอนเที่ยงคืน จากนั้นได้อาศัยในช่วงกลางดึกประมาณตี 2-3 ไปแล้ว เพราะทั้งคนไข้ คนเฝ้าไข้จะนอนหลับสนิท
จึงย่องไปตามเตียงต่างๆ เมื่อสบโอกาสก็จะฉกทั้งกระเป๋าไปที่วางไว้ ส่วนทรัพย์สินที่ได้มีทั้งเงินสด โทรศัพท์มือถือ สร้อยทองคำ และบัตรเอทีเอ็มที่เจ้าของจะเขียนรหัสไว้ในกระเป๋า หรือสมุดบันทึกแล้วรีบไปกดเอาเงินสดออกมา นอกจากนี้ นางพรทิพย์ ยังสารภาพต่อว่า ตนเองได้ก่อเหตุในลักษณะนี้มานานกว่า 1 ปีแล้ว ทรัพย์สินที่ได้มารวมหลายแสนบาทก็จะนำมาใช้จ่ายเล่นหวยและอื่นๆ จนหมด
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อ นางพรทิพย์ ในฐานลักทรัพย์ในสถานที่ราชการในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำความผิด หรือรับของโจร อย่างไรก็ตามต้องรอผู้เสียหายมาชี้ทรัพย์สินของตนเองเพื่อทางเจ้าหน้าที่จะได้บันทึกจับกุมแยกคดี ต่างกรรมต่างวาระ เพื่อดำเนินคดีสถานหนักต่อผู้ต้องหารายนี้ที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนอย่างมาก
