โดย..ดิเรก เหมนคร ผู้ประสานงานเครือข่ายคนสงขลาปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน
วันนี้ (15 ต.ค.) ตามที่เครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ได้ไปตามสัญญาที่ทางเจ้าท่าให้ไปรับฟังคำตอบในวันอังคาร (13 ต.ค.) ที่ผ่านมานั้น สรุปได้ว่า ทาง ผอ.สำนักเจ้าท่าสงขลา ได้บอกแก่ชาวบ้านว่า ไม่มีอำนาจในการหยุดการขุดเจาะดินของเรือ กฟผ. แต่มีอำนาจในการตรวจสอบเรือ และได้ตกลงกับชาวบ้านว่าจะมาตรวจเรือในวันพุธ (14 ต.ค.) วานนี้เวลา 14.00 น. โดยจะเดินทางมาพบกันที่หน้าสนามโรงเรียนเทพา อ.เทพา จ.สงขลา และจะไปตรวจเรือขุดเจาะดินของ กฟผ. กับเรือของชาวบ้าน
แต่ปรากฏว่า เมื่อวานนี้ (14 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ของเจ้าท่าได้ติดต่อมายังเครือข่าย และได้บอกว่า ทางเจ้าท่าจะมาตรวจโดยเดินทางมากับเรือเอง และอาจจะมาสาย จึงได้ขอให้ชาวบ้านรอ ทางเครือข่ายจึงตอบกลับไปว่า สามารถรอได้ไม่เกิน 15.00 น. ซึ่งทางเจ้าท่าได้ออกจากท่าเรือที่สงขลาเวลาประมาณ 13.00 น. แต่เรือมาเสียอยู่กลางทะเลบริเวณบ้านนาทับ เจ้าหน้าที่เจ้าท่าได้โทร.บอกทางเครือข่ายให้รับทราบ
จากนั้นทางเครือข่ายจึงให้ข้อเสนอว่า จะให้ชาวบ้านไปรับหรือไม่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เจ้าท่าได้บอกว่าไม่ต้อง เพราะถ้ามาถึงกลางคืนก็ตรวจอะไรไม่ได้ ดังนั้น ทางเครือข่ายจึงเฝ้ารอเจ้าท่าสงขลา จนกระทั่งเกือบ 16.00 น. และเริ่มรอไม่ไหว จึงได้ออกแถลงการณ์ซึ่งสรุปได้ว่า ทางเจ้าท่าสงขลาผิดสัญญา ไม่ทำตามสัญญาที่ได้ตกลงกันไว้กับชาวบ้าน ดังนั้น ให้ทางเจ้าท่าตามหาเรือขุดเจาะของ กฟผ.เอง
อย่างไรก็ตาม เวลาประมาณ 18.30 น. เจ้าท่าได้โทร.ประสานมาที่เครือข่ายและบอกกลับมาว่า ได้มาถึงปากน้ำเทพาแล้ว และชาวบ้านยังรออยู่หรือไม่ ก่อนขอให้ชาวบ้านนำทางเพื่อไปตรวจเรือขุดเจาะของ กฟผ. ทางเครือข่ายจึงตอบกลับไปว่า ไม่มีใครอยู่รอกันแล้ว และไม่มีใครเขาออกทะเลตอนกลางคืน ซึ่งบริเวณนี้เป็นพื้นที่สีแดง อันตราย และไม่กี่วันมานี้ก็มีฉลามมาว่ายบริเวณทะเลเทพา ซึ่งหากทางเจ้าท่าจะไปตรวจก็ให้ไปเอง แต่จะประสานให้เบอร์กับชาวประมง ซึ่งรออยู่ที่สันเขื่อนปากน้ำแล้ว 1 คน
ทาง ผอ.เจ้าท่า ซึ่งมากับเรือสีขาวลำใหญ่ และเจ้าหน้าที่อีก 2 คน ได้ถามชาวประมงถึงบริเวณเรือขุดเจาะของ กฟผ. ชาวประมงจึงแนะชี้ไปว่า เรือของ กฟผ.อยู่แถวบ้านเกาะแลหนัง แต่ตนจะไม่ไปด้วยเพราะมืดค่ำแล้วอันตราย เจ้าท่าจะไปตรวจก็ไปตรวจเอาเอง
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ทางเครือข่าย และชาวบ้านได้บอกว่า เมื่อเจ้าท่าไปตรวจเรือขุดเจาะของ กฟผ.ได้ผลเช่นไรให้แจ้งต่อทางเครือข่ายเป็นลายลักษณ์อักษรไม่เกินวันพุธที่ (21 ต.ค.) มิเช่นนั้น ทางเครือข่าย และชาวบ้านจะไปที่สำนักเจ้าท่าสงขลาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อทวงถามคำสัญญาที่ทางเจ้าท่าได้ให้ไว้