ยะลา - ความคืบหน้ากรณีช้างป่าบุกรุกหมู่บ้าน ล่าสุด ผู้ใหญ่บ้านคอกช้าง แจ้งชาวบ้านให้เพิ่มความระมัดระวัง และกำชับชุด ชรบ.ห้ามทำร้ายช้าง ขณะที่อีกจุดบ้านสันติ 2 ช้างป่าเข้าทำลายต้นลองกองเสียหายอีก 70 ต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีช้างป่าจำนวนหลายตัวลงมาหากินในเขตที่ทำกินของชาวบ้าน ในพื้นที่ ม.7 บ้านคอกช้าง ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา ซึ่งชาวบ้านต้องเผชิญต่อโขลงช้างป่านี้มานานหลายเดือนแล้ว เนื่องจากช้างป่ายังคงออกหากิน และทำลายสวนผลไม้ของชาวบ้านจนได้รับความเสียหายไปหลายจุด และก็ยังไม่มีท่าทีที่ช้างดังกล่าวจะกลับเข้าป่าไป
โดยล่าสุด นายสุวรรณ ขุนอินทร์ ผู้ใหญ่บ้าน ได้มีการสั่งอพยพชาวบ้าน จำนวน 9 ครัวเรือน ออกจากพื้นที่เสี่ยงอันตราย และขอให้หยุดการประกอบอาชีพกรีดยางไว้เป็นการชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยในชีวิต เนื่องจากโขลงช้างป่าได้เดินเท้ามาหากินใกล้กับถิ่นที่อยู่อาศัยของคนในพื้นที่
พร้อมกันนี้ ได้กำชับให้ชาวบ้านที่เป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ซึ่งจะจัดกำลังออกลาดตระเวนดูแล สังเกตพฤติกรรมช้างป่า และคอยขับไล่ช้างป่าออกจากจากชุมชน โดยห้ามมิให้มีการทำร้ายช้างไม่ว่าด้วยวิธีการใดๆ เนื่องจากเกรงว่าช้างจะเกิดความดุร้าย และหันมาทำร้ายชาวบ้านได้ ซึ่งในเบื้องต้น หลังจากที่เคยมีการประสานไปยังอำเภอธารโต และอุทยานแห่งชาติบางลางแล้ว ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดๆ เข้าไปช่วยแก้ไขปัญหา มีเพียงการขอกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 33 เข้าไปช่วยชาวบ้านลาดตระเวนเท่านั้น
ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ ม.5 บ้านสันติ 2 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา ชาวบ้านได้แจ้งว่า ได้มีโขลงช้างป่าบุกเข้าหากิน และทำลายต้นลองกองในสวนผลไม้ของชาวบ้านจนได้รับความเสียหายอีกจำนวนกว่า 70 ต้น ซึ่งเมื่อวันก่อนก็ถูกช้างป่าโขลงเดียวกันลงมาหากิน และทำลายต้นลองกอง ต้นทุเรียน เสียหายไปแล้ว 20 ต้น ซึ่งชาวบ้านก็ทำได้เพียงการขอกำลังตำรวจพลร่มรบพิเศษ เข้าไปเสริมในการลาดตระเวนเส้นทาง และเฝ้าระวังในจุดที่ช้างป่าจะลงมาหากิน โดยเฉพาะในช่วงค่ำคืน
ส่วนความช่วยเหลือเรื่องของความเสียหายของพืชผลทางการเกษตรนั้น ยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปสำรวจ หรือแจ้งให้ชาวบ้านรับทราบ ซึ่งขณะนี้ปัญหาสำคัญที่ชาวบ้านต้องการคือ อยากให้หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญเข้าไปดูแลและผลักดันช้างป่าคืนสู่ธรรมชาติไป เนื่องจากชาวบ้านต้องอยู่ท่ามกลางความหวาดระแวง กลัวช้างจะทำร้าย
