จันทบุรี - โขลงช้างป่ากว่า 70 ตัว และช้างป่าแม่ลูก เริ่มกลับเข้ามาหากินในพื้นที่ 2 อำเภอของจังหวัดจันทบุรีอีกครั้ง ด้านกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เตรียมวางแผนตั้งจุดไล่ต้อนช้างป่ากลับเข้าป่า และจัดทำรั้วไฟฟ้าเพื่อป้องกันโขลงช้างป่าบุกพื้นที่ชาวบ้าน
วันนี้ (7 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากชาวบ้านตำบลพวา อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ว่า โขลงช้างป่ากว่า 70 ตัว ที่เคยเดินข้ามเขาอ่างฤาไนเข้ามาหากินในพื้นที่ตำบลพวา ในพื้นที่หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 9 ตำบลพวา อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี เมื่อช่วงที่ 4-5 เดือนที่ผ่านมา ปัจจุบัน จ่าโขลงได้พาโขลงช้างป่ากว่า 70 ตัว กลับเข้ามาหากินในพื้นที่ของชาวบ้านอีกครั้ง รวมทั้งในพื้นที่ตำบลเขาแก้ว อำเภอท่าใหม่ ที่มีช้างป่าแม่ลูกรวม 5 ตัว อยู่ในพื้นที่ และยังไม่ยอมกลับขึ้นเขาแต่อย่างใด
ล่าสุด นายอยู่ เสนาธรรม ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา ที่ได้เดินทางมาพบปะกับสื่อมวลชนจังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า แนวทางในการแก้ไขปัญหาโขลงช้างป่ากว่า 70 ตัว ตำบลพวา อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี และช้างป่าแม่ลูกรวม 5 ตัว ตำบลเขาแก้ว อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ที่อยู่ใน 2 อำเภอ ของจังหวัดจันทบุรีนั้น ทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มีนโยบายที่ต้องการให้ให้ช้างป่าสามารถอยู่ร่วมกับคนในชุมชนได้ และช้างป่าไม่ถูกทำร้าย
ขณะนี้ทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา ได้มีการจัดตั้งเจ้าหน้าที่ชุดไล่ต้อนช้างป่าไว้ครอบคลุมทุกจุดที่มีช้างป่าลงมาสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ชุดไล่ต้อนช้างนี้จะมีหน้าที่เข้าไปดูแลความปลอดภัยให้แก่ชาวบ้าน ร่วมกับผู้นำชุมชน ชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ ชุด ชรบ.ในการไล่ต้อนช้างป่าให้กลับพื้นที่ป่าดังเดิม
รวมทั้งทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กำลังมีการทำรั้วไฟฟ้าในพื้นที่ตำบลพวา อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ตลอดแนวชายเขาที่โขลงช้างป่ากว่า 70 ตัว ได้ลงมาความยาว 43 กิโลเมตร เพื่อป้องกันโขลงช้างป่ากว่า 70 ตัว ลงจากเขาเข้ามาบุกกัดกินเหยียบย่ำพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านได้รับความเสียหาย และการดำเนินการทำคูดักช้างให้แล้วเสร็จ
“ปัญหาทุกวันนี้จะพบได้ว่าประชากรช้างป่าเพิ่มขึ้นทุกปี กำลังเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปดูแลมีน้อย ทำให้ปัญหาช้างป่าบุกพื้นที่ชาวบ้าน และทำร้ายชาวบ้านยังพบเห็นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้หลายฝ่ายจะต้องกับมาทบทวน และหาแนวทางร่วมกันในการแก้ไขปัญหาช้างป่าให้สามารถอยู่ร่วมกับคนในชุมชนได้ และช้างป่าไม่ถูกทำร้ายต่อไปอีกด้วย” นายอยู่ กล่าว
