“…หมอกค่อยๆ เคลื่อนเข้าโอบกอดทิวเขาอย่างช้าๆ...”
หลายครั้งที่ตื่นเช้าขึ้นมา
แล้วส่งข้อความนี้ให้เพื่อนฝูง
ส่งซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า…
ด้วยความรู้สึกอยากแบ่งปันความสุขที่เห็นอยู่ตรงหน้า
ให้ใครต่อใครได้รับรู้
หมอกขาว นุ่มละมุน ค่อยเคลื่อนตัวช้าๆ
ภูเขานั้นเล่าก็ดูสดชื่นแจ่มใสไปกับการโอบกอดของหมอกยิ่งนัก
…
แต่วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป
ทุกเช้ากลับรู้สึกอึดอัด
มองเห็นแต่ควันขาวล้อมรอบตัว
...
ไม่น่าจะเป็นไปได้เลย
ว่าจะมีวันนี้
วันที่เรานึกภาพไม่ออกมาก่อนเลย
วันที่เราจะสูดอากาศอย่างสบายใจไม่ได้
สัมผัสด้วยตาบอกว่า ไม่ปลอดภัยแน่
เราระคายเคือง เราแสบตา
สัมผัสด้วยใจพาลขุ่นมัว
ด้วยความรู้สึกว่าเรากำลังสูดอะไรเข้าไป
ทุกลมหายใจเข้า-ออก ของเรา
มีบางสิ่งบางอย่างปนเปื้อนเข้าไปด้วย
...
ทำไมเราหายใจให้อิ่ม หายใจให้เต็มปอดไม่ได้
เราแน่นจมูก
เพื่อนบางคนได้รับการเตือนจากร่างกาย
ด้วยการหลั่งน้ำตา
เพื่อบอกให้ออกไปจากที่นี่ซะ
แต่เราจะออกจากบ้านไปหาอากาศหายใจที่ไหนได้บ้าง
ไม่มี...
ทั้งหาดใหญ่เต็มไปด้วยหมอกควัน
เพื่อนบ้านจังหวัดใกล้เคียงหมอกมัว
จนแทบขับรถไม่ได้
ไม่ใช่ระดับจังหวัด แต่เป็นระดับประเทศ
สิงคโปร์ มาเลเซีย
ล้วนเผชิญกับชีวิตที่หมองหม่น
ประเทศเพื่อนบ้านต้องปิดโรงเรียน
เพราะหมอกควัน
...
แล้วพี่น้องในอินโดนีเซียล่ะ
จุดเริ่มต้นของปัญหา
พวกเขาไม่แย่กว่านี้เหรอ
เขาจะอยู่กันอย่างไร
...
ยิ่งไปกว่านั้น ข่าวสารที่กล่าวถึงสาเหตุช่างดูสับสน
บ้างก็ว่าเกิดจากธรรมชาติ
บ้างก็ว่าไม่ใช่หรอก
บริษัทเอกชนกว่า 200 บริษัท ตะหาก
ที่เขาไปทำอุตสาหกรรมเกษตร
...ปาล์มน้ำมัน...
วันนี้เรานั่งรอคอยฝนจากธรรมชาติ
ให้ตกลงมาล้างหมอกควันเป็นครั้งเป็นคราวไป...
…
มนุษย์กลุ่มหนึ่งก่อปัญหาด้วยการทำลายธรรมชาติ
มนุษย์กลุ่มหนึ่งนั่งรอ ร้องขอให้ธรรมชาติช่วยเยียวยา
...
เราต้องเผชิญภาวะ
“ภูเขาที่หายไปกับลมหายใจที่ไม่เต็มปอด”
อีกนานเพียงใด
ศุภวรรณ ชนะสงคราม
เพจกลุ่มปันรัก https://www.facebook.com/panrakgroup?fref=ts