สตูล - อุทยานฯ ตะรุเตา ส่งหลักฐานยึดรีสอร์ต โรงแยกขยะ 4 จุด ให้ สภ.หลีเป๊ะ ดำเนินคดีบุกรุกแล้ว ขณะที่เหลืออีก 3 จุด ติดต่อเข้าส่งมอบในบ่ายวันนี้ ด้านทนายของรีสอร์ต 1 ใน 3 ที่ถูกยึดเตรียมยื่นอุทธรณ์เพื่อพิสูจน์ความจริง
วันนี้ (7 ต.ค.) อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ได้รวบรวมเอกสารเพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อนายทุนที่บุกรุกในเขตพื้นที่อุทยานฯ หลังเข้าตรวจยึดครบทั้ง 7 จุด โดยเอกสารเรียบร้อยส่งมอบให้ สภ.หลีเป๊ะ แล้วจำนวน 4 จุด ที่เหลือติดต่อขอส่งมอบในบ่ายวันนี้ ในขณะที่ส่งเรื่องเข้าดำเนินคดีใน 4 ข้อหา คือ 1.ฐานผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา 16 (1) ฐานยึดถือ รื้อ ครอบครองที่ดิน ก่อสร้างแผ้วถางหรือเผาป่า มาตรา 16 (2) ฐานเก็บหานำออกไปทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายหรือทำให้เสียสภาพป่าไม้ ยางไม้ น้ำมันยาง น้ำมันสน แร่ หรือทรัพยากรธรรมชาติอย่างอื่น 2.ผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 ฐานกลสร้างแผ้วถาง หรือทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือเข้าครอบครองเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 3.ผิดตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 มาตรา 97 ฐานกระทำหรือละเว้นการกระทำด้วยประการใดๆ โดยมิชอบซึ่งเป็นของรัฐ 4.ผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 9 และ 108 ทวิ ฐานเข้าไปยึดถือครอบครองรวมตลอดถึงก่อสร้างในที่ดินของรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดย พ.ต.ต.ธีระเดช รัตนวิจิตร พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเกาะหลีเป๊ะรับเรื่อง โดยนายทุน 4 จุดที่ยื่นเรื่องดำเนินคดีคือ 1.นายรชฏ สันทันการ รีสอร์ทเซเลนดิฟิที้ พบสิ่งปลูกสร้างอาคาร 16 หลังรุกล้ำมาจำนวน 4 ไร่ 2 งาน 78 ตารางวา , 2.น.ส.กลมวรรณ จำปาแถม และ นายพิบูลย์ รัชกิจประการ พบสิ่งปลูกสร้างอาคารรุกล้ำ 5 หลัง พื้นที่ 3 ไร่ 2 งาน 83 ตารางวา , 3.โรงแยกขยะ ไม่ทราบผู้กระทำความผิด พบอาคารปลูกสร้าง 14 รายการ พื้นที่ 6 ไร่ 77 ตารางวา , 4.นางสิริกัลยา มอญแก้ว กับพวก พบอาคารสิ่งปลูกสร้าง 23 หลัง พื้นที่ 4 ไร่ 1 งาน 17 ตารางวา เป็นส่วนที่เกินจาก น.ส.3 ที่ครอบครอง ส่วนอีก 3 แห่งมีการแจ้งยื่นเรื่องดำเนินคดีในบ่ายวันนี้
การเข้าตรวจยึดจับกุมพื้นที่ 7 แห่งที่เป็นรีสอร์ต 6 แห่ง และโรงคัดแยกขยะ 1 แห่ง ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา และสำนักงานสนับสนุนป้องกันและปราบปรามที่ 4 (ภาคใต้) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมสนธิกำลังหลายหน่วยงาน ทหารเรือภาคที่ 3 ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรเกาะหลีเป๊ะ ป.ป.ท. ทสจ.สตูล 100 คน ซึ่งได้เข้าตรวจยึดจับกุมเป็นที่เรียบร้อย รวมพื้นที่ที่เข้าตรวจยึดจับกุมตามการครอบครองเกินเอกสาร น.ส.3 เกินรวม 40 ไร่เศษ
นอกจากนี้ ในขั้นตอนต่อไป ทางอุทยานแห่งชาติตะรุเตาได้สรุปสำนวนในการเข้าตรวจยึดจับกุมทั้ง 7 แห่งพื้นที่ครอบครองเกินเอกสาร น.ส.3 รวมทั้งหมด 40 ไร่เศษ และได้เข้าแจ้งความต่อทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเกาะหลีเป๊ะ
ขณะเดียวกัน ทางด้าน นายปณพล ชีวะเสรีชล หัวหน้าอุทยานฯ ตะรุเตา เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ตรวจยึดจับกุมในครั้งนี้มิได้กลั่นแกล้งฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เพราะได้ทำตามกระบวนการของกฎหมายของกรมอุทยานที่ปราบปรามผู้บุกรุกพื้นที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะ และการลงตรวจยึดจับกุมในพื้นที่ 7 แห่ง ได้ตรวจสอบตามกระบวนการทุกขั้นตอนในการครอบครองเกินตามเอกสาร น.ส.3 ที่ครอบครองเกินพื้นที่จริง
พ.ต.ต.ธีระเดช รัตนวิจิตร พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเกาะหลีเป๊ะ กล่าวว่า เมื่อเรารับเอกสารการแจ้งความ ทางอุทยานฯ จะทำการตรวจสอบเอกสาร และเชิญเจ้าหน้าที่ของอุทยานที่จับกุมมาสอบปากคำในฐานะเป็นผู้กล่าวหา หลังจากสอบปากคำเจ้าหน้าที่อุทยานต้องหาหลักฐานเพื่อสอบพยานบุคคล เช่น สอบเจ้าหน้าที่ที่ดิน หรือเจ้าหน้าที่รังวัดที่ดิน และสอบ อบต.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และที่สำคัญเอกสารที่ยื่นมานั้นต้องตรวจสอบดูให้ดี และครบถ้วน ซึ่งเบื้องต้นที่ผ่านมา ทางอุทยานฯ ที่มาแจ้งดำเนินคดีจะเป็นภาพถ่ายที่ผ่านมา คือ ภาพทางอากาศที่มีการเปรียบเทียบกับชุดที่มีการชี้วัดตามจีพีเอส ซึ่งกระบวนการสอบสวนของทางตำรวจในคดีจะไม่เกิน 2 เดือนต้องได้ผลสรุป
ขณะเดียวกัน ด้าน นายธชกร จิรภัทรชนน ที่ปรึกษาด้านกฎหมายให้แก่รีสอร์ต 1 ในพื้นที่ 6 แห่งที่ตรวจยึด กล่าวว่า เมื่อทางอุทยานฯ แจ้งข้อกล่าวหาต่อรีสอร์ตนั้น เมื่อเรารับทราบเราก็ขอพิสูจน์ตามพยานหลักฐานที่มีเช่นกัน เรามิได้มาขัดขวาง ซึ่งตามกฎหมายเราก็มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อศาล เพราะเราก็มีเอกสาร และเราขอรังวัดที่ดินของเราใหม่เช่นกัน