ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ท่าอากาศยานภูเก็ต ร่วมกับด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ เข้มผู้โดยสารที่เดินทางกลับจากการประกอบพิธีฮัจญ์ คัดกรองโรคเมอร์ส
เมื่อเวลา 07.30 น. วันนี้ (4 ต.ค.) ที่ห้องผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ นายอำนวย สาระชาติ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต พร้อมด้วย นพ.นพดล ไพบูลย์สิน ผอ.สำนักงาน ป้องกันควบคุมโรค ที่ 11 จ.นครศรีธรรมราชนายทัสสยุ เดชะโชติ หัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศท่าอากาศยานภูเก็ต เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่จากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ และตรวจคัดกรองเชื้อโคโรน่าไวรัส สายพันธุ์ใหม่ปี 2012 “MERS-CoV” ผู้โดยสารที่เดินทางกลับจากการทำพิธีฮัจญ์ ณ นครเมกกะ มาถึงจังหวัดภูเก็ตเป็นเที่ยวบินแรก โดยสายการบินซิลค์แอร์ (MI750) เดินทางจากเจดต้า มีผู้โดยสาร จำนวน 84 คน
สำหรับการเพิ่มความเข้มในการคัดกรองนั้น ทางท่าอากาศยานภูเก็ต ร่วมกับด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศท่าอากาศยานภูเก็ต จัดให้มีการคัดกรองโรคอย่างเข้มงวดต่อผู้โดยสารทุกเที่ยวบินที่เดินทางกลับจากการทำพิธิฮัจญ์ ณ นครเมกกะ ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 25 ตุลาคม 2558 ซึ่งเป็นเที่ยวบินสุดท้าย โดยมีการติดตั้งเครื่องวัดไข้เทอโมสแกนเป็นพิเศษ ผู้โดยสารจะมีจุดล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อคัดกรองไข้ตรวจอย่างละเอียด พร้อมเตรียมห้องกักโรคไว้ในกรณีพบผู้ป่วยต้องสงสัยเพื่อดูอาการ และดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ตรวจสอบประวัติย้อนหลังผู้โดยสารทุกคนในทุกเที่ยวบินอย่างละเอียด รวมทั้งเตรียมสถานที่สำหรับญาติที่มารอรับผู้ที่เดินทางกลับจากนครเมกกะด้วย
ขณะที่ นพ.นพดล ไพบูลย์สิน ผอ.สำนักงาน ป้องกันควบคุมโรค ที่ 11 จ.นครศรีธรรมราชเปิดเผยว่า ทางกรมควบคุมโรคได้วางมาตรการป้องกันควบคุมโรคเมอร์ส โดยดำเนินการร่วมกับท่าอากาศยานทุกแห่งในการตรวจคัดกรอง พร้อมส่งต่อรายชื่อผู้ที่เดินทางกลับจากการแสวงบุญให้แก่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแต่ละแห่งเพื่อเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องในชุมชน โดยปีนี้มีคนร่วมเดินทางไปแสวงบุญ จำนวน 10,400 คนจากทั่วประเทศ เดินทางกลับผ่านท่าอากาศยาน 4 แห่ง คือ สุวรรณภูมิ หาดใหญ่ นราธิวาส และภูเก็ต
สำหรับในส่วนของท่าอากาศยานภูเก็ตนั้น เที่ยวบินแรกมีผู้ร่วมดินทาง จำนวน 84 คน ทั้งหมดได้รับการตรวจคัดกรองตรวจสุขภาพในเบื้องต้น พร้อมแจกหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือให้แก่ทุกราย ซึ่งการตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางกลับจากการแสวงบุญนั้นจะดำเนินการต่อเนื่องจนถึงวันที่ 25 ต.ค. เพื่อให้ครอบคลุมเป้าหมายผู้เดินทางกลับจากการแสวงบุญซึ่งมีทั้งหมด 890 คน รวมทั้งประสานงานกับโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตตามแผนของช่องทางเพื่อส่งต่อผู้เดินทางที่มีอาการต้องสงสัยเข้ารับการรักษาตัวต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบคัดกรองในวันนี้ไม่พบผู้ป่วยต้องสงสัยแต่อย่างใด
