ยะลา - สสจ.ยะลา เผยสถานการณ์ไข้เลือดออกของจังหวัดยะลาตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้มีผู้ป่วยแล้ว 98 ราย ต่ำสุดในภาคใต้ ทั้งให้ทางโรงพยาบาล สถานีอนามัยในพื้นที่ดูแลอย่างเต็มที่ และคอยควบคุมเฝ้าระวัง เน้นย้ำให้ จนท.ทำงานเชิงรุกโดยการพ่นหมอกควัน และใส่ทรายอะเบต
วันนี้ (2 ต.ค.) ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา นายแพทย์อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์ไข้เลือดออกของจังหวัดยะลาในขณะนี้ ซึ่งปกติจะเป็นช่วงที่ระบาดหนัก ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม 2558 เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน พบผู้ป่วยแล้ว 98 ราย มีอัตราป่วยอยู่ที่ 20 ต่อแสนประชากร ถือเป็นอันดับสุดท้ายของ 14 จังหวัดภาคใต้ และต่ำสุดเป็นอันดับที่ 75 ของประเทศ ยังไม่พบผู้ป่วยเสียชีวิต ซึ่งที่ผ่านมา มีมาตรการป้องกันในกลุ่มหลัก คือ กลุ่มนักเรียน และผู้ใหญ่ รวมทั้งมาตรการป้องกันตามสถานที่ต่างๆ รวมทั้งให้ทางโรงพยาบาลต่างๆ สถานีอนามัยในพื้นที่ดูแลอย่างเต็มที่ มีมาตรการควบคุมเฝ้าระวัง หากพบมีผู้ป่วยก็ให้ดำเนินการตามมาตรการที่วางไว้ มีการพ่นหมอกควัน ใส่ทรายอะเบต
“ชาวบ้านส่วนมากก็ให้ความร่วมมือ เพียงแต่จะต้องให้เจ้าหน้าที่ทำงานเชิงรุก โดยเฉพาะชาวบ้านที่เลี้ยงนกเขา นกกรงหัวจุก ให้เข้าไปประสานงานก่อน เพื่อให้เจ้าของนกได้ย้ายนกไปยังจุดที่ไม่มีการพ่นหมอกควัน เพราะหมอกควันจะเป็นอันตรายต่อนก แต่หลังจากพ่นหมอกควันเรียบร้อยแล้วประมาณ 4-6 ชม. ก็สามารถนำนกกลับมาได้ ห้ามพ่นในขณะที่มีนกอยู่” นพ.สสจ.ยะลา กล่าว
นายแพทย์อุทิศศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ที่พบว่ามีการระบาดมากในจังหวัดยะลา คือ อ.บันนังสตา รองลงมาคือ อ.เมือง อ.เบตง และ อ.ธารโต แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อนำตัวเลขของผู้ป่วยไปเทียบกับจังหวัดอื่นๆ ก็จะพบว่า จ.ยะลา มีอัตราป่วยอยู่ที่ 20 ต่อแสนประชากร เท่านั้น ในขณะที่ภาพรวมของประเทศอยู่ที่ 118 ต่อแสนประชากร และทั้งประเทศมีผู้เสียชีวิตแล้ว 14 ราย แต่ในจังหวัดยะลายังไม่พบผู้เสียชีวิต สำหรับวิธีการตรวจสอบอาการของตัวเองว่าจะเป็นไข้เลือดออกหรือไม่ ซึ่งหากมีอาการไข้ลอยๆ ไม่มีหวัด ไม่มีน้ำมูก ไม่ไอ จะมีอาการหน้าแดงๆ ปวดท้องใต้ชายโครงขวา บางรายอาจจะมีผื่นขึ้นตามลำตัวแต่ไม่คัน