ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - บรรยากาศวันจ่ายเทศกาลบุญสารทเดือนสิบที่สงขลาในปีนี้เงียบเหงา ไม่คึกคักเหมือนปีที่ผ่านมา ประชาชนออกมาซื้อขนม และผลไม้บางตา ขณะที่ราคายังทรงเท่ากับปีที่แล้ว
วันนี้ (27 ก.ย.) ซึ่งเป็นวันจ่ายเทศกาลบุญสารทเดือนสิบประเพณีสำคัญของชาวใต้ ซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ บรรยากาศที่สงขลาเป็นไปอย่างเงียบเหงาไม่คึกคักเหมือนปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่ตลาดทรัพย์สินพลาซ่า เขตเทศบาลนครสงขลา ประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อขนมเดือนสิบ และผลไม้ค่อนข้างบางตา และซื้อแบบประหยัดเท่าที่จำเป็น
ขณะที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้านำขนมเดือนสิบมาวางจำหน่ายให้ประชาชนได้เลือกซื้อเป็นจำนวนมาก ทั้งขนมลา ขนมต้ม ขนมเจาะหู ขนมพอง ขนมบ้า และขนมเทียน แต่ยังคงขายในราคาเดิมเหมือนปีที่ผ่านมา แม้ว่าต้นทุนสินค้าในการผลิตโดยเฉพาะน้ำตาล แป้ง มะพร้าว และข้าวเหนียวปรับตัวสูงขึ้น เช่น ขนมเจาะหู ราคาขายร้อยละ 200 บาท ขนมต้มร้อยละ 400 บาท ขนมเทียนอันละ 5 บาท ขนมพอง ชิ้นละ 5 บาท และขนมลา กิโลกรัมละ 120 บาท ส่วนผลไม้ เช่น องุ่นไร้เมล็ด กิโลกรัมละ 150 บาท องุ่นมีเมล็ด กิโลกรัมละ 100 บาท ลองกอง กิโลกรัมละ 35 บาท แอปเปิล ลูกละ 7-8 บาท
สำหรับสาเหตุที่วันจ่ายงานบุญเดือนสิบครั้งแรกไม่คึกคัก เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่จะให้ความสนใจในการทำบุญเดือนสิบครั้งที่ 2 มากกว่า ซึ่งถือเป็นการทำบุญใหญ่ วันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ตรงกับวันที่ 12 ตุลาคมนี้ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำโดยเฉพาะราคายางพาราทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ประหยัดค่าใช้จ่าย
สำหรับประเพณีสารทเดือนสิบ เป็นงานบุญประเพณีของชาวใต้ เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณของบรรพชน และญาติที่ล่วงลับ ซึ่งได้รับการปล่อยตัวมาจากนรกที่ตนต้องจองจำอยู่ เนื่องจากผลกรรมที่ตนได้เคยทำไว้ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยจะเริ่มปล่อยตัวจากนรกภูมิในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 หรือที่เรียกว่ารับเปรต เพื่อมายังโลกมนุษย์ เพื่อขอส่วนบุญจากลูกหลานที่ได้เตรียมการอุทิศไว้ให้เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ล่วงลับ หลังจากนั้น ก็จะกลับไปยังนรกในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ซึ่งเรียกว่าส่งเปรต
