ตรัง - ชาวบ้านร้องศูนย์ดำรงธรรมว่า มีโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังจังหวัดตรัง บุกรุกที่หนองน้ำสาธารณะเพื่อสร้างเป็นลานจอดรถ จากการตรวจสอบพบผิดจริง จึงขอให้หยุดการกระทำไว้ก่อน และนำหลักฐานทุกอย่างส่งตำรวจดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (23 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเจริญพงศ์ มาชู ปลัดอำเภอเมืองตรัง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม อำเภอเมืองตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่ฯ ได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่หลัง รพ.วัฒนแพทย์ตรัง ถ.พัทลุง อ.เมือง จ.ตรัง หลังจากที่มีชาวบ้านร้องเรียน ว่า รพ.วัฒนแพทย์ตรัง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังของ จ.ตรัง บุกรุกพื้นที่หนองน้ำสาธารณะหลัง รพ.วัฒนแพทย์ เพื่อที่จะสร้างเป็นลานจอดรถของโรงพยาบาล
และเมื่อเดินทางไปถึงบริเวณดังกล่าวพบรถแทรกเตอร์ และรถแบ็กโฮกำลังทำงาน กวาดดิน และสิ่งกีดขวางต่างๆ และใช้ดินส่วนหนึ่งถมลงไปในหนองน้ำสาธารณะที่มีพื้นที่กว่า 2 ไร่เศษ จากการสอบถามทราบว่า เครื่องจักรได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 ก.ย.58 ที่ผ่านมา
หลังจากนั้น ก็มีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลนำเอกสารสัญญาเช่าที่ดินมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งทำสัญญาเช่าระหว่างจาก นางณภัสกร สังข์กูล อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 247/2 ถ.พัทลุง ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง กับทางบริษัท โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง จำกัด โดยนางอมรา ลีละวัฒน์ กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม โดยเช่าเดือนละ 50,000 บาท
ด้านนายประเมศ ลุกเซ็น ชาวบ้านในเขตเทศบาลนครตรัง ผู้ร้องเรียนก็ได้นำเอกสารที่ดินของตนที่มีอาณาเขตด้านหลังบ้านติดกับหนองน้ำสาธารณะมาโชว์ พร้อมกับชาวบ้านอีกกว่า 10 ครัวเรือน และเป็นพื้นที่เดียวกับที่ทางโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ตรัง ได้อ้างว่าได้ทำสัญญาเช่าสำหรับการทำลานที่จอดรถของโรงพยาบาลฯ พร้อมกับบอกว่า อยากให้ทางเทศบาลนครตรัง ได้เข้าปรับปรุงพัฒนาแหล่งน้ำอย่างจริงจัง เพราะชาวบ้านในพื้นที่ก็ได้อาศัยแหล่งน้ำนี้เลี้ยง-จับสัตว์น้ำอยู่เป็นประจำ อีกทั้งหากมีการถมหนองน้ำดังกล่าว พวกตนจะต้องเดือดร้อน เพราะทุกบ้านใช้น้ำจากบ่อน้ำบริโภคอุปโภค เกรงว่าหากถมหนองน้ำแห่งนี้จะทำให้บ่อน้ำภายในครัวเรือนแห่งเหือดไปด้วย
นายเจริญพงศ์ ปลัดอำเภอศูนย์ดำรงธรรม อ.เมืองตรัง กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวของโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ เป็นการบุกรุกที่หนองน้ำสาธารณะมีความผิดชัดเจน ขณะนี้ก็ขอให้หยุดการกระทำการไว้ก่อน พร้อมกับอายัดเครื่องจักรไว้เพื่อการตรวจสอบต่อไป และแจ้งข้อกล่าวว่าต่อผู้ที่ขับรถแบ็กโฮแล้ว และจะนำเอกสารหลักฐานทุกอย่างให้ทางตำรวจเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไปโดยไม่สามารถยอมความได้