โดย..ศิวะ ศรีชาย
แนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยาง สมาคมเกษตรกรชาวสวนยาง 16 จังหวัดภาคใต้
“หลักเกณฑ์ และวิธีการสรรหาบุคคลเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนดโดยการเสนอแนะของคณะกรรมการ”
ความในมาตรา 17 (3) วรรคท้าย กำหนดไว้ดังนั้น การที่ “สมัชชา 10 หุ้น (เรียกตามวงการพนันนอกกฎหมาย นายมือโปปั่นในท้องถิ่นปักษ์ใต้) ซึ่งไม่มีข้อกำหนดกฎหมายใดเลยที่กำหนดให้ทำได้ หรือแม้แต่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ จะสั่งการให้ดำเนินการด้วยวาจาก็ไม่มีระเบียบกฎหมายใดมารองรับได้
ด้วยหน่วยงาน “สมัชชาเกษตรสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย” ไม่มีอะไรรองรับเลย แม้แต่จะเป็นองค์กร นิติบุคคลตามกฎหมายก็ไม่ใช่ เป็นเพียงแต่ กลุ่มคนที่รวมตัวเข้าพบนายกรัฐมนตรี (ซึ่งนายกฯ ก็ไม่ได้สั่งการใดๆ) แล้วถ่ายรูปให้สื่อที่เตรียมไปแล้วลงข่าว และอีกวัน ก็เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และทำเช่นเดียวกัน แต่อย่างหลังนี้ได้ใช้ศักยภาพแบบมึนๆ งงๆ ส่งรายชื่อให้รัฐมนตรีลงนามแต่งตั้ง ให้เบิกใช้งบประมาณฟรีๆ โดยไม่อิงความรู้ความสามารถ หรือความจำเป็นอื่นใด นอกเสียจาก
“พวกกูไปพบนายกรัฐมนตรีมาแล้ว นี่ไง รูปถ่าย?” เท่านั้น..
ก็รู้สึกงงๆ ต่อรัฐไทย และเข้าใจได้ว่าทำไม “มิจฉาชีพ” จึงหลอกต้มกินตับประเทศไทยกันง่ายดายนัก..
พูดเหมือนตลกนะ แต่นี่เรื่องจริง ในขณะนี้ขบวนการคัดสรรบุคคล “เถื่อน” (ไม่มีระบบ แบบแผน หรือแม้กติกาใดๆ) ได้ดำเนินการไปอย่างเร่งรัด และเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยที่ผู้ได้รับการยกมือสลอนในภาพจากโรงแรมแห่งใดแห่งหนึ่งในภาคอีสาน ซึ่งในที่ประชุมยกมือนั้นเป็นเอกฉันท์และผสมเสื้อสีเขียวแบบเดียวกับผู้ได้รับการคัดเลือกเลย มันยิ่งกว่ากำมะลอเสียอีก เพราะแค่แจกเสื้อก็ได้เป็นกรรมการบอร์ดการยางฯ ที่มีงบประมาณในวงเงินบริหารจัดการนับแสนล้าน
ท่านแรกที่ได้สถาปนาตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้คือ หลานชายอดีตรัฐมนตรีช่วย “อำนวย ปะติเส” และปัจจุบันได้รับแต่งตั้งเป็น “ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ” ที่สำคัญคนนี้เพิ่งเข้าเทกโอเวอร์เป็นกรรมการ 1 ใน 10 หุ้น ของสมัชชาใหม่ฯ ที่สมัชชา 7 องค์กรเดิม ไม่ได้มีมติรองรับใดๆ..
เป็นการแปลงร่าง และข่มคอเอาดื้อๆ เปิดกูเกิลเข้าไปดูบุคคลนี้น่าจะเป็นบุคคลที่คณะ คสช.ไม่น่าจะเอามาร่วมงานได้ นั่นคือ เป็นคนกลุ่มเดียวกับณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, วีรกานต์ มุสิกพงศ์, จตุพร พรหมพันธ์, เหวง โตจิราการ และอีกหลายคนที่ศาลพิพากษาจำคุกเมื่อเร็วๆ นี้ เพียงแต่ท่านเคยเป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้รอลงอาญา จำคุก 2 ปี และให้ประกาศขอขมาในหนังสือพิมพ์ ก็เลยไม่เข้าใจว่าถ้าท่านนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งมีหน้าที่นำรายชื่อเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อแต่งตั้งเป็นบอร์ด กยท.ได้อย่างไร และท่านจะบอกแก่บรรดา “ลูกป๋า” และคน กปปส.ว่าคนผู้นี้มีคุณวิเศษอย่างไร?
อีกท่านหนึ่งก็ประกาศมาแล้วจากตัวแทนภาคเหนือ คนนี้คุณสมบัติค่อนข้างติดดินหน่อยแม้ว่าจะเคยใส่เสื้อแดงระดับปฏิบัติการ ในทีมงานการเมือง ส.ส.ลัดดาวัลย์ วงศ์ศรีวงศ์ พรรคทักษิณมาก่อน แต่เป็นคนที่สร้างชื่อในวงการยางด้วยการหนีบหนังสือยื่นเรื่องการตัดฟันโค่นสวนยางในภาคเหนือมา แต่ตำแหน่งนี้เข้าใจกันได้ว่างานนี้ส้มหล่น “ได้ดีเพราะพี่ให้” เนื่องเพราะตัวเก็ง “สวัสดิ์ ลาดปาละ” พี่ใหญ่ 1 ใน 10 หุ้น สาขาภาคเหนือ จึงบล็อกโหวตผ่านมาได้อย่างสวยงาม..
อีกคนหนึ่งเพิ่งหมาดๆ เมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) คนนี้รอดตายจากนายฆ่ามาเพราะ “นาย” ต้องการเอาคนอื่น แต่บังเอิญคนที่นายต้องการขาดคุณสมบัติ (อายุเกิน) ในฐานะข้าเก่าเต่าเลี้ยง ก็เอากลับมารับใช้ได้ไม่ยาก
เป็นอันว่า “เสร็จสมัชชาฯ” (เถื่อน) ไปแล้ว 3 คน ใน 5 คน
ยังคงเหลือ “การเลือกตั้งในภาคใต้” ที่จัดสรรไว้อีก 2 ตำแหน่ง คือ “ผู้แทนสถาบันฯ” 1 ตำแหน่ง และ “ผู้แทนเกษตรกร” อีก 1 ตำแหน่ง ด้วยเหตุที่ขาใหญ่หัวโต๊ะสมัชชา (เถื่อน) ยังไม่กล้าเหยียบหัวใจคนใต้จึงใช้แผนหลอก “แทงข้างหลัง” แล้วถีบออกนอกห้อง เหมือน “ขาใหญ่ในเรือนจำ” ที่หากชอบใจ “หน้าขาว?” คนไหน ก็จะบอกลูกน้องให้ไปเอามา “แทงข้างหลัง” และจะเลี้ยงไว้ทำ “หัวจุก” หากเห็นว่าแนวโน้มคุมไม่ได้ หรือตีตัวออกห่างก็จะถีบออกจากคอก..
ก่อนมีการเลือกตั้งไม่กี่วัน ก็มีข่าวว่า “ขาใหญ่ในสมัชชาฯ” ส่งสัญญาณถึง “หัวจุก” คนใหม่ให้ถีบ “สุนทร รักษ์รงค์” อดีตหัวจุกให้ออกนอกห้องไป..ด้วยการจัดเกมบล็อกโหวตที่พิสดารพันลึก คือ ให้สมาชิกสมัชชาฯ 10 หุ้น แบ่งร่างออกเป็นองค์ละสิบหุ้นให้เหลือ 80 โหวตเตอร์ (ซึ่งถ้าจริงๆ ต้องได้ 100 โหวตเตอร์ ซึ่งดูท่าจะเป็น “ประชาธิปไตยแผนใหม่” นะ แต่แท้ที่จริงแล้วคือการให้บรรดา “ลูกคอกในสมัชชาฯ” (เถื่อน) ที่เพิ่งตั้งขึ้นไปแตกลูกสกรัมกันเองโดยให้ “เนียนเพียรเคอย” (ภาษาถิ่นภาคใต้แปลว่า แตกละเอียด)
ให้บรรดาผู้นำสำนักต่างๆ ในภาคใต้ทะเลาะแย่งกระดูกที่เหลือจากเนื้อกินแล้ว ให้ลงมือกัดหู กัดหัวกันให้ชุลมุน ชลเก หูขาด หางวิ่น... โชกเลือด อย่างไม่อยากนึกภาพ ความน่ารังเกียจ และสยดสยอง แล้วทำแต้มต่อให้ผู้นำสำนักที่อยากได้ใคร่ดี รวมทั้งมีแค้นฝังหุ่นกัน แตกแยกกระจัดกระจายง่ายแก่การควบคุม แล้วค่อยมาหยิบศพไป “เคาะวิญาณ” ทีละตัว..?
สัญญาณข่มขู่ออกมาว่า หากบรรดาเจ้าสำนักยางภาคใต้รู้ทันไม่ยอมเข้าเกม หรืออาจล้มเกมนี้ ก็ได้วางแผนสำรองไว้..โดยให้อ้าง “ความวุ่นวาย” แต่เพื่อให้แต่งตั้ง “กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ” ได้ทัน ก็ให้ “ปิดประตูตีแมว” จัดการเลือกตั้งเถื่อนขี้นที่กรุงเทพฯ..ดังที่นายธีระชัย แสนแก้ว อดีต รมช.หลานชายนายอำนวย ปะติเส ( ผู้ด้านหน้าทิ้งเพื่อนกลับมารับใช้กระทรวงเกษตรฯ ยอมลดชั้นลงเป็น “ที่ปรึกษา” ก็ทำได้ เพื่อหวังผลกินปลามันในวันหน้า).. นายธีระชัยได้แสดงความมั่นใจ โดยให้สัมภาษณ์สื่อไว้ว่า “บอร์ดการยางจะได้ประชุมภายในไม่เกินสิ้นเดือนนี้ (ก.ย.) อย่างแน่นอน..เขาเชื่อว่าแผนกินยางของสมัชชาฯ (เถื่อน) ต้องบรรลุผลพันเปอร์เซ็นต์..!!!
ไม่มีใครเอะใจกันเลยหรือ ในบรรดานักต่อต้านระบอบทักษิณ? ในวันนี้ ในโรดแมปที่สอง การกวาดทีมหม่อมอุ๋ย และคณะ ผู้ให้การสงเคราะห์ และเปิดทางให้ คสช.เข้ามาควบคุมอำนาจ แล้วในหน่วยเศรษฐกิจที่เปลี่ยนเอา “สมคิด ศิษย์ทักษิณ” เข้ามา และโดยเฉพาะหน่วยเศรษฐกิจเส้นชีวิตชาวใต้ คือ ยาง และปาล์มนั้นจะต้องถูกครอบงำโดยอดีตสาวกทักษิณทั้งสิ้น นับเป็นการแก้แค้นให้นาย และทำลายหัวใจของคนปักษ์ใต้ จนผุกร่อน คำอุทาน “อมเลือด” ที่นักสู้ชาวใต้รุ่นล่า ได้ส่งเสียงเหมือนการกล่าวลาของ “คนยิว” ที่ถูกมัดเข้าแถวก่อนเข้าห้อง “รมแก๊ส”
“อย่าร้องไห้ชาวสวนยาง” !!! ขอบคุณนะ คสช. ???
สรุปผลการเลือกตั้ง (ด้วยวิธีที่ต่างกัน) ที่ได้จากการดำเนินการของสมัชชาฯ (เถื่อน) ที่มีทั้งสิ้น 5 คน 1.ภาคอีสาน นายธีระชัย แสนแก้ว อดีต นปช. (ตามบันทึกของกูเกิล) 2.ภาคเหนือ นายสาย อิ่นคำ อดีต ส.จ.และ ทีมงานการเมืองนางลัดดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ 3.ภาคกลางและตะวันออก นายสังเวิร ทวดห้อย ผู้ติดสอยห้อยตาม นายอุทัย สอนหลักทรัพย์
4.ตัวแทนภาคใต้ จะคัดเลือกกันในวันที่ 22 ก.ย.นี้ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่บล็อกโหวตมาแล้วว่า ต้องได้คนที่สมัชชา 10 หุ้น (เถื่อน) ต้องการ และต้องไม่มี “คนชายขอบ” เข้าไปกีดหู กีดตา ทักท้วงสิทธิต่างๆ จากดอกผลของ พ.ร.บ.การยางฯ ที่พวกเขาสร้างขึ้นจากพลังการต่อสู่ข้างถนน...บาดเจ็บล้มตาย ติดคุกติดตะราง..
ดังนั้น ในโผบอร์ดการยางจาภาคใต้ 2 ตำแหน่งต้องเป็นคือ “เสวก” จากเครือข่าย อสย. เข้าในนามผู้แทนเกษตรกรชาวสวนยาง ส่วน “ธีรพงศ์” จากเครือข่าย สกย. นั้นเป็นหัวจุกที่เพิ่งแทรกเข้ามาในสมัชชาฯ 10 หุ้นทันเวลา ตามแผนกินยาง และข่าวดีล่าสุด คือ ดร.ธนิต โสรัตน์ คนหิ้วกระเป๋า “เฒ่าอำมาตย์ยาง” เจ้าของสมัชชาฯ เถื่อน ก็เข้าไปนั่งรออยู่ก่อนแล้วในฐานะ “ผู้เชี่ยวชาญ”..?
แล้วอะไรจะเหลือ ทุกอย่างตกอยู่ในอาณัติของ “ฮัก บู๊ คุ้ง” จอมมารวงการยางไทยแล้ว ส่วนแบ่งเงิน CeSS 3 เปอร์เซ็นต์ของสถาบัน 7 เปอร์เซ็นต์ สวัสดิการชาวสวนยาง และ 35 เปอร์เซ็นต์ งบประกอบการฯ จะไปไหนเสีย การยึดอำนาจ ของสมัชชา 10 หุ้น (เถื่อน) จึงจบสิ้นโดยสมบูรณ์..ตามที่ท่านอดีตรัฐมนตรี นปช.ผู้ได้สถาปนาเป็นบอร์ดอีสานประกาศไว้ในสื่อเรียบร้อยแล้วตามนั้น (เข้าใจนะ..จบนะ !!) บอร์ดการยางของสมัชชาฯ 10 หุ้น (เถื่อน) ของท่าน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ก็ดีด้วยประการ ฉะนี้แล....จบป่ะ
