กระบี่ - ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.กระบี่ รวบเครือข่ายยาบ้า “บังเฉด” เรือนจำบางขวาง ได้ผู้ต้องหา 4 คน พร้อมของกลาง 96,000 เม็ด มูลค่า 28 ล้านบาท ขณะนำยาบ้าใส่กล่องไปวางตามจุดให้เอเยนต์รายย่อย ผู้ต้องหารับสาภาพ ทำหน้าที่ส่งยา
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (12 ก.ย.) ที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ (นปพ.ภ.จว.กระบี่) พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ นุ่นเกลี้ยง ผกก.สส.ภ.จว.กระบี่ พ.ต.ต.ศิริธรรม นาควรรณ สว.นปพ.กระบี่ ร.ต.อ.อาวุธ ขำแผลง รอง สว.นปพ. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาบ้าเครือข่าย “บังเฉด” เรือนจำบางขวาง โดยมีผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วย นายบวร เพชรคูหา อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่129 ม.6 ต.ทับปุด อ.ทับปุด จ.พังงา นายสุทธิพล ตุลยนิษก์ อายุ 39 ปี อยู่ 29 ม.6 ต.นาท่อม อ.เมือง จ.พัทลุง นายเริงศิริ เริงการ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115 ม.1 ต.ทับปุด อ.ทับปุด จ.พังงา และนายชำนาญ แก้วการ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 ม.8 ต.ท้องลำเจียก อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมของกลางยาบ้า 96,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง รถจักรยานยนต์ 2 คัน และรถยนต์กระบะ 1 คัน
พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้จับกุมผู้ต้องหาค้ายาบ้าได้รายหนึ่ง โดยผู้ต้องหาได้ให้การซัดทอดว่า รับของกลางมาจากเครือข่ายของบังเฉด หรือนายเอกวัฒน์ ทอดทิ้ง ซึ่งเป็นผู้ต้องขังอยู่ในเรือนจำบางขวาง และจะมีเครือข่ายตระเวนส่งยาบ้าในพื้นที่ อ.ทับปุด จ.พังงา และ ต.นาเหนือ อ.อ่าวลึก จึงได้ไปดักซุ่มรอที่บริเวณสี่แยกนาเหนือ ม.1 ต.นาเหนือ อ.อ่าวลึก จนกระทั่งพบ นายบวร ขับรถจักรยานยนต์บรรทุกกล่องพลาสติกสีแดงขนาดใหญ่ผ่านมา จึงขอตรวจค้นในกล่องปรากฏว่า พบยาบ้าจำนวนดังกล่าวบรรจุถุงรวม 48 มัด จำนวน 96,000 เม็ด มูลค่าไม่ต่ำกว่า 28 ล้านบาท อยู่ภายในจึงได้จับกุมตัวพร้อมยึดของกลาง
จากนั้นได้นำมาสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า เป็นแค่คนส่งของเพื่อนำไปวางตามจุดต่างๆ ตามคำสั่งของนายสุทธิพล และนายเริงศิริ จึงได้ติดตามจับกุมตัวโดยทั้ง 2 ให้การซัดทอดว่า รับคำสั่งมาจากนายชำนาญ เจ้าหน้าที่ก็ไปจับกุมได้ที่บ้านพัก และให้การว่า ยาบ้าทั้งหมดนั้นเป็นการสั่งการมาจากนายเอกวัฒน์ หรือบังเฉด ผู้ต้องขังในเรือนจำบางขวาง ที่จะโทร.มาให้นำยาบ้าส่งให้คนส่งไปวางตามจุดต่างๆ ตามที่นัดหมาย โดยมีเครือข่ายในจังหวัดฝั่งอันดามัน เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ประสาน ป.ป.ส. เพื่อสืบสวนขยายผลต่อไป