พังงา - สองตายายทุกข์หนัก ร้องสื่อช่วยตามหาลูกชายหลังหายตัวไปนานกว่า 10 ปี หวังจะได้พบหน้าลูกก่อนตายอีกครั้ง
วันนี้ (11 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านกาแฟป้าเล็ก เลขที่ 70/21 ม.4 ต.ทับปุด อ.ทับปุด จ.พังงา พบกับ นางวรรณี เสมอภาค อายุ 61 ปี และนายบุญมา เสมอภาค อายุ 65 ปี สองผัวเมียที่เปิดร้านขายกาแฟเล็กๆ ในตลาดทับปุด หลังจากผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางสุจิตรา มีสิทธิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลตำบลบางเตย ซึ่งได้รับการร้องขอจากสองผัวเมียให้ช่วยประสานผู้สื่อข่าวให้ช่วยตามหาลูกชาย ซึ่งได้ออกจากบ้านไปเมื่อปี 2547 จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาหาทางบ้าน และญาติพี่น้องเลยเป็นเวลานานกว่า 10 ปีแล้ว
นางวรรณี เสมอภาค เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ตนเองมีลูกชายคนเดียวชื่อ นายธีรภัทร เสมอภาค ชื่อเดิมคือ นายพงษ์ศักดิ์ ชื่อเล่นโต้ง อายุ 29 ปี (ปัจจุบัน 40ปี ) ทำงานที่หน่วยมาลาเรียจังหวัดพังงา ในช่วงปี 2547 ลูกชายได้เลิกกับภรรยาในอำเภอเมืองพังงา และได้ภรรยาใหม่เป็นชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นได้กลับมาหาพ่อแม่ที่บ้านพร้อมกับแจ้งว่าจะไปทำงานที่จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากนั้นเป็นเวลานานนับ 10 ปี ลูกชายก็ไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย
โดยเมื่อปีที่ผ่านมา ทางญาติทราบข่าวว่าอยู่ที่อำเภอพระพรหม จ.นครศรีธรรมราช จึงได้ติดตามไปหา แต่ก็ไม่พบตัวอย่างใด และได้ทราบว่า ลูกชายได้มีทะเบียนราษฎรเป็นผู้อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 300 ม.7 ต.นาสาร อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ตนเองอยากขอวิงวอนให้ลูกชายให้กลับมาหาพ่อแม่ด้วย เพราะปัจจุบันพ่อแม่ก็แก่แล้ว แถมมีโรคประจำตัว หากแม้ลูกไม่อยากอยู่กับพ่อแม่ก็ไม่เป็นไร ขอให้พ่อแม่พบหน้าลูกอีกสักครั้งก่อนที่ชีวิตจะหาไม่ก็ยังดี หากมีใครรู้จักพบเจอก็ขอวิงวอนให้ช่วยส่งข่าวให้ลูกชายทราบด้วย หรือติดต่อมาที่โทรศัพท์ 08-9594-1673 (แม่), 08-9288-3043 (พ่อ)
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้นำ นายบุญมา เสมอภาค เดินทางไปติดต่อที่ฝ่ายทะเบียนราษฎรอำเภอทับปุด เพื่อตรวจสอบสถานะล่าสุด และพบว่า นายธีรภัทร เสมอภาค ได้ทำบัตรประจำตัวประชาชนครั้งล่าสุดเมื่อปี 2557 โดยมีสถานะทางทะเบียนราษฎรเป็นผู้อาศัยอยู่ที่บ้านของนายภูษิต จิตสมพงษ์ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลบางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวจึงได้ประสานไป
และได้รับคำตอบว่า นายธีรภัทร ได้เคยเป็นคนงานในโรงงานของตนเองใน อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช และได้ถูกอดีตภรรยาในจังหวัดพังงาคัดชื่อออกจากทะเบียนบ้านที่เคยอาศัยอยู่ด้วยกันไปอยู่ทะเบียนบ้านกลาง ตนเองจึงให้ความช่วยเหลือให้ย้ายเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้านของตนเอง และหลังจากนั้น ได้ลาออกจากการทำงานกับตนเองไปหลายปีแล้ว ซึ่งครั้งล่าสุดมีคนพบทำงานรับจ้างกรีดยาง และรับจ้างทั่วไปอยู่ในพื้นที่ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช จากนี้ตนเองจะช่วยตามหาให้อีกทางหนึ่งเพื่อจะได้ส่งข่าวให้ทราบต่อไป
วันนี้ (11 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านกาแฟป้าเล็ก เลขที่ 70/21 ม.4 ต.ทับปุด อ.ทับปุด จ.พังงา พบกับ นางวรรณี เสมอภาค อายุ 61 ปี และนายบุญมา เสมอภาค อายุ 65 ปี สองผัวเมียที่เปิดร้านขายกาแฟเล็กๆ ในตลาดทับปุด หลังจากผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางสุจิตรา มีสิทธิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลตำบลบางเตย ซึ่งได้รับการร้องขอจากสองผัวเมียให้ช่วยประสานผู้สื่อข่าวให้ช่วยตามหาลูกชาย ซึ่งได้ออกจากบ้านไปเมื่อปี 2547 จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาหาทางบ้าน และญาติพี่น้องเลยเป็นเวลานานกว่า 10 ปีแล้ว
นางวรรณี เสมอภาค เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ตนเองมีลูกชายคนเดียวชื่อ นายธีรภัทร เสมอภาค ชื่อเดิมคือ นายพงษ์ศักดิ์ ชื่อเล่นโต้ง อายุ 29 ปี (ปัจจุบัน 40ปี ) ทำงานที่หน่วยมาลาเรียจังหวัดพังงา ในช่วงปี 2547 ลูกชายได้เลิกกับภรรยาในอำเภอเมืองพังงา และได้ภรรยาใหม่เป็นชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นได้กลับมาหาพ่อแม่ที่บ้านพร้อมกับแจ้งว่าจะไปทำงานที่จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากนั้นเป็นเวลานานนับ 10 ปี ลูกชายก็ไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย
โดยเมื่อปีที่ผ่านมา ทางญาติทราบข่าวว่าอยู่ที่อำเภอพระพรหม จ.นครศรีธรรมราช จึงได้ติดตามไปหา แต่ก็ไม่พบตัวอย่างใด และได้ทราบว่า ลูกชายได้มีทะเบียนราษฎรเป็นผู้อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 300 ม.7 ต.นาสาร อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ตนเองอยากขอวิงวอนให้ลูกชายให้กลับมาหาพ่อแม่ด้วย เพราะปัจจุบันพ่อแม่ก็แก่แล้ว แถมมีโรคประจำตัว หากแม้ลูกไม่อยากอยู่กับพ่อแม่ก็ไม่เป็นไร ขอให้พ่อแม่พบหน้าลูกอีกสักครั้งก่อนที่ชีวิตจะหาไม่ก็ยังดี หากมีใครรู้จักพบเจอก็ขอวิงวอนให้ช่วยส่งข่าวให้ลูกชายทราบด้วย หรือติดต่อมาที่โทรศัพท์ 08-9594-1673 (แม่), 08-9288-3043 (พ่อ)
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้นำ นายบุญมา เสมอภาค เดินทางไปติดต่อที่ฝ่ายทะเบียนราษฎรอำเภอทับปุด เพื่อตรวจสอบสถานะล่าสุด และพบว่า นายธีรภัทร เสมอภาค ได้ทำบัตรประจำตัวประชาชนครั้งล่าสุดเมื่อปี 2557 โดยมีสถานะทางทะเบียนราษฎรเป็นผู้อาศัยอยู่ที่บ้านของนายภูษิต จิตสมพงษ์ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลบางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวจึงได้ประสานไป
และได้รับคำตอบว่า นายธีรภัทร ได้เคยเป็นคนงานในโรงงานของตนเองใน อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช และได้ถูกอดีตภรรยาในจังหวัดพังงาคัดชื่อออกจากทะเบียนบ้านที่เคยอาศัยอยู่ด้วยกันไปอยู่ทะเบียนบ้านกลาง ตนเองจึงให้ความช่วยเหลือให้ย้ายเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้านของตนเอง และหลังจากนั้น ได้ลาออกจากการทำงานกับตนเองไปหลายปีแล้ว ซึ่งครั้งล่าสุดมีคนพบทำงานรับจ้างกรีดยาง และรับจ้างทั่วไปอยู่ในพื้นที่ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช จากนี้ตนเองจะช่วยตามหาให้อีกทางหนึ่งเพื่อจะได้ส่งข่าวให้ทราบต่อไป
