ตรัง - เปิดงานเทศกาล “หมูย่าง-ขนมเค้กเมืองตรัง” ชื่อดังของไทย สร้างกระแสกิจกรรม “ตรังเมืองต้องห้ามพลาด ยุทธจักรความอร่อย” ประชาชน นักท่องเที่ยวแห่ซื้อคึกคัก ประธานชมรมฯ เผยภาพรวมยังเงียบเหงาจากปัจจัยราคายางตกต่ำ
วันนี้ (5 ก.ย.) ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ศาลากลาง จ.ตรัง นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการ จ.ตรัง นายนิกร สุกใส รองผู้ว่าราชการ จ.ตรัง นายกิจ หลีกภัย นายก อบจ.ตรัง นายพิชัย มะนะสุทธิ์ ประธานหอการค้า จ.ตรัง หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมกันเปิดงานเทศกาลหมูย่างเมืองตรังและขนมเค้กเมืองตรัง ชื่อดังของประเทศไทย ประจำปี 2558
ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่จัด 2 กิจกรรมไว้ในงานเดียว โดยการปล่อยขบวนพาเหรดแฟนซีจากน้องๆ นักเรียน นักศึกษา และสมาชิกหอการค้า จ.ตรัง กว่า 1,500 คน ที่ถือป้ายรณรงค์ต่อต้านการคอร์รัปชัน และรักษ์โลกรักษ์สิ่งแวดล้อม และเชิญเที่ยวงานหมู่ย่าง และขนมเค้กเมืองตรัง
หลังจากนั้น มีการมอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทยให้แก่ผู้ประกอบการหมูย่าง จำนวน 4 ราย ใน จ.ตรัง และพิธีสับหมูย่างขนาดตัวละ 20 กิโลกรัม และตัดเค้กยักษ์ สูตรดั้งเดิมของ จ.ตรัง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เมตร เป็นสัญลักษณ์ของการเปิดงานอย่างเป็นทางการ และให้แขกผู้มีเกียรติ ประชาชนทั่วไปได้ชิมฟรี รวมถึงการปรุงเมนูพิเศษ ต้มขาหมูย่างใบชะมวง แจกจ่ายให้แก่คนทั่วไปที่มาเที่ยวงานอีกด้วย
โดยในวันนี้ มีผู้ประกอบการหมูย่าง และผู้ประกอบการขนมเค้กเมืองตรัง นำสินค้ามาขายกว่า 40 ราย ในราคาพิเศษต่ำกว่าท้องตลาด หมูย่างปกติกิโลกรัมละ 420 บาท ลดเหลือ 400 บาท กระดูกหัว และขากิโลกรัมละ 100 บาท ส่วนขนมเค้กมาตรฐานจากกล่องละ 80 บาท จำหน่ายเพียง 60 บาท ขนมเค้กกล่องเล็กปกติ 50 บาท จำหน่ายเพียง 40 บาท ซึ่งประชาชนทั่วไป และนักท่องเที่ยวต่างเข้าคิวรอซื้อหมูย่าง และขนมเค้กเมืองตรัง ของขึ้นชื่อ จ.ตรัง อย่างคึกคัก ผู้ประกอบการบางรายจำหน่ายหมูย่างหมดตั้งแต่เปิดงานได้เพียง 2 ชั่วโมงแรกเท่านั้น
นอกจากนั้น กิจกรรมภายในงานยังมีการแสดง การโชว์ความบันเทิงบนเวที การจำหน่ายสินค้าโอทอปของดี จ.ตรัง และการโชว์ปรุงอาหารเมนูใหม่ๆ โดยใช้หมูย่าง และขนมเค้กเมืองตรัง เป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งการจำหน่ายหมูย่าง ขนมเค้ก และกิจกรรมต่างๆ จะจัดขึ้นตลอด 2 วัน ตั้งแต่วันที่ 5-6 ก.ย.นี้
นายทวีศักดิ์ ไทรงาม ผู้จัดการหมูย่างโกแก่ และประธานชมรมผู้ประกอบการหมูย่างเมืองตรัง กล่าวว่า ภาพรวมการจำหน่ายหมูย่างในปี 2558 นี้ ถือว่าเงียบเหงาลงไปพอสมควร เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ยอดขายตกลงไปกว่า 20% สาเหตุเนื่องมาจากกำลังซื้อจากประชาชน และนักท่องเที่ยวลดลง โดยมีปัจจัยมาจากราคายางพาราที่ตกต่ำ เศรษฐกิจไม่ค่อยดี
ทั้งนี้ ปกติเกษตรกรกรีดยางพารา พอกรีดเสร็จก็จะมาแวะซื้อหมูย่างไปรับประทานกัน แต่ตอนนี้แทบจะไม่มีเลย เพราะตอนนี้กรีดยาง 7 ไร่ จะซื้อหมูย่างได้เพียง 1 กิโลกรัมเท่านั้น ขณะที่เมื่อช่วงที่ราคายางพาราดีสามารถซื้อหมูย่างได้ 3-4 กิโลกรัม ในช่วงนี้มีผู้ประกอบการหมูย่างทั้งหมดประมาณ 60 ราย มียอดขายเฉลี่ยรายละ 2 ตัวต่อวัน รวมทั้งจังหวัดประมาณ 100 ตัว มีรายได้ตัวละ 6,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ยังไม่หักต้นทุน ในขณะที่ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น เช่น ค่าเครื่องปรุง และค่าหมูเป็นหน้าฟาร์ม เดือนก่อนกิโลกรัมละประมาณ 66 บาท แต่มาเดือนนี้ขยับขึ้นมาเป็น 73-75 บาทต่อกิโลกรัม
ในช่วงที่ผ่านมา จึงมีผู้ประกอบการรายย่อยประสบภาวะขาดทุน แบกรับภาระหนี้สิน ดอกเบี้ยไม่ไหวก็พากันเลิกกิจการไปแล้วหลายราย ที่เหลืออยู่ส่วนใหญ่จะเป็นรายเก่าแก่ ทำกันมานานก็ต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอดกันต่อไป