xs
xsm
sm
md
lg

“ผู้ว่าฯ สงขลา” กร่างต่อหน้าศาลลั่นยกชายหาดให้สงขลาฟอรั่มดูแล สุดท้ายยอมหยุดโครงการชั่วคราว (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตุลาการศาลปกครองสงขลา เดินสืบพยานหลังตัวแทนภาคประชาชนยื่นฟ้องผู้ว่าฯ สงขลา และพวก ทำโครงการแก้ปัญหากัดเซาะชายหาดชลาทัศน์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย พบมีการฝังแท่งคอนกรีตลงใต้พื้นทรายจริง สวนทางคำให้การผู้ถูกฟ้องที่อ้างว่า ไม่ได้ฝังแท่งคอนกรีตลงใต้พื้นทราย ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกอาการกร่างต่อหน้าตุลาการศาลปกครอง และสื่อมวลชน ประชดหากเรื่องนี้ไม่จบจะยกชายหาดให้สงขลาฟอรั่มดูแล แต่สุดท้ายยอมระงับโครงการจนกว่าศาลจะมีคำสั่ง

วันนี้ (26 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรัณยู โพธิรัชตางกูร ตุลาการศาลปกครองสงขลา พร้อมด้วยตัวแทนฝ่ายผู้ฟ้อง ประกอบด้วย นางพรรณิภา โสตถิพันธุ์ ผู้อำนวยการ สงขลาฟอรั่ม นายอภิศักดิ์ ทัศนี ผู้ประสานงานชมรม Beach for life น.ส.อลิสา บินดุส๊ะ ผู้ประสานงานกลุ่ม Crescent Moon lawyers (กลุ่มว่าที่นักกฎหมายอาสาฯ) นายสมพล ดีเยาะ รองประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านชุมชนเก้าเส้ง น.ส.ส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความของผู้ฟ้องคดี และผู้ถูกฟ้องคดี ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสงขลา กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมเจ้าท่า และเทศบาลนครสงขลา
 

 
โดยทั้งหมดได้เดินทางไปที่บริเวณชายหาดชลาทัศน์ อ.เมือง จ.สงขลา หลังจากศาลนัดเดินสืบพยานหลังจากที่กลุ่มผู้ฟ้องคดีได้ยื่นต่อศาลปกครองเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ให้มีการระงับและยกเลิกโครงการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งหาดสมิหลา-ชลาทัศน์ เขตเทศบาลนครสงขลา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสงขลา ซึ่งโครงการดังกล่าวได้มีการก่อสร้างมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2558 และตามโครงการจะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2558 โดยผู้ฟ้องเห็นว่า หากปล่อยให้มีการดำเนินโครงการจนแล้วเสร็จจะเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อชายหาดชลาทัศน์ โดยมีข้อหาว่า การดำเนินการตามโครงการนี้เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

พร้อมกับได้ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งบรรเทาทุกข์ชั่วคราวแก่ผู้ฟ้องคดี ด้วยการให้ผู้ถูกฟ้องคดีได้ชะลอการดำเนินการก่อสร้างโครงการป้องกันการกัดเซาะชายหาดสมิหลา-ชลาทัศน์ เขตเทศบาลนครสงขลา ไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด
 

 
ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่จะมีการเดินสืบพยานในวันนี้ ศาลได้นัดไต่สวนฉุกเฉินไปแล้วเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยตัวแทนของผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในฐานะผู้ถูกฟ้องคดีได้ชี้แจงต่อศาลในประเด็นเกี่ยวกับข้อกล่าวหาว่า มีการก่อสร้างแท่งคอนกรีตขนาดใหญ่ฝังไว้ใต้พื้นทรายบริเวณชายหาดชลาทัศน์ ซึ่งทางผู้ถูกฟ้องให้การต่อศาลว่า ไม่ได้มีการฝังแท่งคอนกรีตไว้แต่อย่างใด ในขณะที่ผู้ฟ้องคดียืนยันว่า มีการฝังแท่งคอนกรีตไว้บริเวณชายหาดจริง และได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานตั้งแต่เริ่มมีการก่อสร้าง ทำให้ตุลาการศาลปกครองสงขลานัดเดินสืบพยานในวันนี้

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าในเวลาประมาณ 22.00 น. มีการใช้เครื่องจักรกลหนักเข้าไปรื้อแท่งปูน จำนวนกว่า 10 แท่ง ขึ้นมาจากบริเวณชายหาดชลาทัศน์ ในพื้นที่ก่อสร้างโครงการ ซึ่งสื่อมวลชน และประชาชนในบริเวณดังกล่าวสามารถบันทึกภาพไว้ได้ ซึ่งขัดแย้งต่อการให้ปากคำของผู้ถูกฟ้องที่ปฏิเสธว่าไม่มีการฝังแท่งปูนลงบนหาดทรายดังกล่าว

ทั้งนี้ นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า เหตุผลที่ต้องให้คนงานยกแท่งปูนขึ้นมาจากพื้นทรายนั้นไม่ได้ต้องการจะทำลายหลักฐาน แต่ต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่า แท่งคอนกรีตดังกล่าวสามารถเคลื่อนย้ายได้ ไม่ได้เป็นโครงสร้างแข็งตามที่กลุ่มผู้ฟ้องคดีเป็นห่วงว่าจะมีผลกระทบต่อชายหาดแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการชี้แจงต่อหน้าตุลาการศาลปกครองสงขลา ผู้ฟ้องคดี และสื่อมวลชนจำนวนมาก นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า หากปัญหาเรื่องนี้ยังไม่จบก็จะยกชายหาดชลาทัศน์ให้กลุ่มสงขลาฟอรั่มเป็นผู้ดูแล ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากต่อท่าทีของผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ที่ใช้อารมณ์ส่วนตัวในการแก้ไขปัญหา
 

 
นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังกล่าวอีกว่า โครงการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งหาดสมิหลา-ชลาทัศน์ เป็นเพียงการทดลองหาวิธีการป้องกันการกัดเซาะชายหาดว่าวิธีนี้จะได้ผลหรือไม่ โดยหลักๆ จะเน้นเรื่องการเติมทรายให้แก่ชายหาด โดยนำทรายจากแหลมสนอ่อนมาเติมให้แก่หาดชลาทัศน์ในบริเวณที่ถูกกัดเซาะ

“ยอมรับว่าวิธีการแก้ปัญหานี้ไม่มีวิธีไหนให้ผลดีร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เราต้องทำก่อนเพราะหน้ามรสุมกำลังจะมาถึงแล้ว หากไม่รีบทำหาดทรายเสียหายขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ แต่เมื่อทำแล้วมีคนคัดค้านอันนี้ก็แก้ไขได้ เมื่อบอกว่าแท่งคอนกรีตไม่ดีก็ยกออกได้ ที่ต้องนำแท่งปูนมาวางด้วยเพราะเห็นว่าหากเติมทรายอย่างเดียว ทรายก็อาจถูกคลื่นพัดพาไปได้อีก” ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าว

ด้าน นายศรัณยู โพธิรัชตางกูร ตุลาการศาลปกครองสงขลา กล่าวเสนอแนะให้สองฝ่ายไกล่เกลี่ยกันถึงวิธีจัดการป้องกันปัญหากัดเซาะชายหาดชลาทัศน์ โดยฝ่ายผู้ฟ้องเห็นด้วยต่อวิธีการเติมทราย แต่ไม่เห็นด้วยต่อการใช้โครงสร้างแข็ง ซึ่งที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าไม่สามารถแก้ปัญหาได้จริง โดยฝ่ายผู้ถูกฟ้องยินยอมจะนำแท่งคอนกรีตออกจากพื้นที่โครงการ และระงับการดำเนินการทุกอย่างไว้ก่อนจนกว่าศาลปกครองสงขลาจะมีคำสั่งอย่างเป็นทางการ โดยศาลนัดทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยกันอีกครั้งในวันที่ 2 ก.ย.นี้ ซึ่งหากผู้ฟ้องคดี และผู้ถูกฟ้องไม่สามารถตกลงกันได้ ตุลาการศาลปกครองสงขลาก็จะใช้อำนาจของศาลในการพิพากษาคดีต่อไป
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น