ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “ไฮโซม่านฟ้า จันทรสาขา” เจ้าของธุรกิจม่านฟ้า กรุ๊ป พร้อมคณะ เยี่ยมเหยื่อสาววัย 24 ปี และครอบครัว หลังตกเป็นเหยื่อความรุนแรง ถูกพี่ชายวัย 34 ปี ซึ่งติดยาเสพติด และมีอาการทางจิตทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ พร้อมหาทางช่วยเหลือแยกพี่ชายไปรักษา เพราะเกรงจะทำร้ายร่างกายของคนในครอบครัวอีก ซึ่งมีทั้งผู้หญิง คนชรา และเด็ก
วันนี้ (18 ส.ค.) ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต น.ส.อรปภัตร หรือไฮโซม่านฟ้า จันทรสาขา เจ้าของธุรกิจม่านฟ้ากรุ๊ป พร้อมคณะ ได้พบปะพูดคุยกับเหยื่อสาววัย 24 ปี และครอบครัว ซึ่งตกเป็นเหยื่อความรุนแรง ถูกพี่ชายวัย 34 ปี ที่ติดยาเสพติด และมีอาการทางจิตทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ หลังครอบครัวประสานขอความช่วยเหลือไปยังองค์กรทำความดีของ น.ส.ปนัดดา (บุ๋ม) วงศ์ผู้ดี เพื่อให้เข้ามาดูแล และหาทางช่วยเหลือแยกพี่ชายไปทำการรักษา เพราะเกรงจะมีการทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว ซึ่งเพียงผู้หญิง คนชรา และเด็ก
โดยหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรง กล่าวทั้งน้ำตา ว่า ตน และคนในครอบครัวซึ่งมีแม่อายุ 66 ปี พี่สาว น้องสาว และหลานๆ ต่างมีสภาพจิตใจย่ำแย่ ด้วยกลัวพี่ชายทำร้าย เนื่องจากเขามีอาการทางจิตอันเป็นผลมาจากติดยาเสพติด ล่าสุด เมื่อประมาณปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตนถูกทำร้ายจนศีรษะแตก และแม่ก็ถูกบีบคอ จึงต้องการให้หน่วยงานใดก็ได้ช่วยรับ หรือส่งตัวพี่ชายเข้ารับการรักษาให้หายจากอาการดังกล่าว
“ที่ผ่านมา ทางครอบครัวพยายามรักษาพี่ชายมาโดยตลอด แต่ไม่สำเร็จ เคยมีการไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีก็ไม่เป็นผล เนื่องจากในการรักษาระบุว่า มีอาการทางจิตแต่สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ ในขณะที่อาการของพี่ชายหนักขึ้นเรื่อยๆ เกรงว่าเมื่ออยู่ในบ้าน และอาการกำเริบก็จะทำร้ายคนในบ้านอีก โดยเฉพาะแม่ซึ่งก็ไม่ค่อยสบาย รวมทั้งในบ้านยังมีพี่สาวที่ตั้งครรภ์ และหลานๆ ซึ่งยังเป็นเด็กอยู่ โดยขณะนี้เขาอยู่ในการดูแลของแพทย์ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และได้รับการติดต่อว่าให้มารับตัวกลับ แต่ทางเราขอติดต่อประสานงานกับหน่วยงานหรือองค์กรใดๆ ในการรับตัวพี่ชายไปดูแล เพราะหากกลับบ้านเกรงว่าจะทำร้ายคนในบ้านอีก”
เหยื่อคนดังกล่าวยังกล่าวด้วยว่า เคยมีการส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลที่ดูแลทางด้านระบบประสาทแต่ก็ไม่เป็นผล และเคยให้เขาไปอยู่กับญาติฝ่ายพ่อ แต่สุดท้ายก็กลับมาอยู่บ้านอีก จนกระทั่งเกิดเหตุทำร้ายจนศีรษะแตกดังกล่าว จึงได้ติดต่อไปยังองค์กรทำดีของคุณบุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ขอความช่วยเหลือ และได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งทางครอบครัวต้องขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ให้ความสำคัญ แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่ใหญ่มาก เพราะไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาก็พยายามทุกวิถีทางแต่ไม่สำเร็จ
ด้าน น.ส.อรปภัตร หรือไฮโซม่านฟ้า บอกว่า เหตุที่มาพบกับครอบครัวของเหยื่อ เนื่องจากได้รับการประสานจากคุณปนัดดา ให้ช่วยมาดูแลกรณีดังกล่าว ก่อนหน้านี้ ได้ช่วยเหลือโดยแยกพี่ชายไปอยู่กับมูลนิธิแห่งหนึ่ง แต่ปรากฏว่าไม่สามารถอยู่ได้ เพราะเขาอาละวาด และทำร้ายผู้ดูแลจึงต้องส่งตัวมาที่โรงพยาบาล ซึ่งในส่วนของญาติก็ต้องการให้มีการส่งตัวไปรักษาให้หาย เพราะหากให้กลับไปบ้านในขณะที่ยังมีอาการป่วยอยู่ก็จะทำร้ายคนในบ้านอีก
เพราะที่ผ่านมาพวกเขาก็อยู่กันด้วยความหวาดกลัว เนื่องจากไม่รู้ว่าพี่ชายจะมีอาการขึ้นเมื่อไรคาดว่าจะใช้เวลาในการประสานงานต่างๆ รวมทั้งประสานกับทางแพทย์ โดยจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ เพราะจากที่ฟังทางเหยื่อเล่าให้ฟังแล้วน่าเห็นใจอย่างมาก เพราะเขาต้องอยู่กับความหวาดกลัวมาเป็นเวลานาน รับปากว่าจะช่วยเหลือครอบครัวของน้องเขาให้ถึงที่สุด
วันนี้ (18 ส.ค.) ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต น.ส.อรปภัตร หรือไฮโซม่านฟ้า จันทรสาขา เจ้าของธุรกิจม่านฟ้ากรุ๊ป พร้อมคณะ ได้พบปะพูดคุยกับเหยื่อสาววัย 24 ปี และครอบครัว ซึ่งตกเป็นเหยื่อความรุนแรง ถูกพี่ชายวัย 34 ปี ที่ติดยาเสพติด และมีอาการทางจิตทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ หลังครอบครัวประสานขอความช่วยเหลือไปยังองค์กรทำความดีของ น.ส.ปนัดดา (บุ๋ม) วงศ์ผู้ดี เพื่อให้เข้ามาดูแล และหาทางช่วยเหลือแยกพี่ชายไปทำการรักษา เพราะเกรงจะมีการทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว ซึ่งเพียงผู้หญิง คนชรา และเด็ก
โดยหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรง กล่าวทั้งน้ำตา ว่า ตน และคนในครอบครัวซึ่งมีแม่อายุ 66 ปี พี่สาว น้องสาว และหลานๆ ต่างมีสภาพจิตใจย่ำแย่ ด้วยกลัวพี่ชายทำร้าย เนื่องจากเขามีอาการทางจิตอันเป็นผลมาจากติดยาเสพติด ล่าสุด เมื่อประมาณปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตนถูกทำร้ายจนศีรษะแตก และแม่ก็ถูกบีบคอ จึงต้องการให้หน่วยงานใดก็ได้ช่วยรับ หรือส่งตัวพี่ชายเข้ารับการรักษาให้หายจากอาการดังกล่าว
“ที่ผ่านมา ทางครอบครัวพยายามรักษาพี่ชายมาโดยตลอด แต่ไม่สำเร็จ เคยมีการไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีก็ไม่เป็นผล เนื่องจากในการรักษาระบุว่า มีอาการทางจิตแต่สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ ในขณะที่อาการของพี่ชายหนักขึ้นเรื่อยๆ เกรงว่าเมื่ออยู่ในบ้าน และอาการกำเริบก็จะทำร้ายคนในบ้านอีก โดยเฉพาะแม่ซึ่งก็ไม่ค่อยสบาย รวมทั้งในบ้านยังมีพี่สาวที่ตั้งครรภ์ และหลานๆ ซึ่งยังเป็นเด็กอยู่ โดยขณะนี้เขาอยู่ในการดูแลของแพทย์ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และได้รับการติดต่อว่าให้มารับตัวกลับ แต่ทางเราขอติดต่อประสานงานกับหน่วยงานหรือองค์กรใดๆ ในการรับตัวพี่ชายไปดูแล เพราะหากกลับบ้านเกรงว่าจะทำร้ายคนในบ้านอีก”
เหยื่อคนดังกล่าวยังกล่าวด้วยว่า เคยมีการส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลที่ดูแลทางด้านระบบประสาทแต่ก็ไม่เป็นผล และเคยให้เขาไปอยู่กับญาติฝ่ายพ่อ แต่สุดท้ายก็กลับมาอยู่บ้านอีก จนกระทั่งเกิดเหตุทำร้ายจนศีรษะแตกดังกล่าว จึงได้ติดต่อไปยังองค์กรทำดีของคุณบุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ขอความช่วยเหลือ และได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งทางครอบครัวต้องขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ให้ความสำคัญ แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่ใหญ่มาก เพราะไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาก็พยายามทุกวิถีทางแต่ไม่สำเร็จ
ด้าน น.ส.อรปภัตร หรือไฮโซม่านฟ้า บอกว่า เหตุที่มาพบกับครอบครัวของเหยื่อ เนื่องจากได้รับการประสานจากคุณปนัดดา ให้ช่วยมาดูแลกรณีดังกล่าว ก่อนหน้านี้ ได้ช่วยเหลือโดยแยกพี่ชายไปอยู่กับมูลนิธิแห่งหนึ่ง แต่ปรากฏว่าไม่สามารถอยู่ได้ เพราะเขาอาละวาด และทำร้ายผู้ดูแลจึงต้องส่งตัวมาที่โรงพยาบาล ซึ่งในส่วนของญาติก็ต้องการให้มีการส่งตัวไปรักษาให้หาย เพราะหากให้กลับไปบ้านในขณะที่ยังมีอาการป่วยอยู่ก็จะทำร้ายคนในบ้านอีก
เพราะที่ผ่านมาพวกเขาก็อยู่กันด้วยความหวาดกลัว เนื่องจากไม่รู้ว่าพี่ชายจะมีอาการขึ้นเมื่อไรคาดว่าจะใช้เวลาในการประสานงานต่างๆ รวมทั้งประสานกับทางแพทย์ โดยจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ เพราะจากที่ฟังทางเหยื่อเล่าให้ฟังแล้วน่าเห็นใจอย่างมาก เพราะเขาต้องอยู่กับความหวาดกลัวมาเป็นเวลานาน รับปากว่าจะช่วยเหลือครอบครัวของน้องเขาให้ถึงที่สุด