ระนอง - ศูนย์พันธกิจประชาคมอาเซียน สำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกับสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย จัดประชุมการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า ครั้งที่ 2 เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
วันนี้ (10 ส.ค.) ที่โรงแรมทินิดี ระนอง ศูนย์พันธกิจประชาคมอาเซียน สำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกับสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย จัดประชุมการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า ครั้งที่ 2 เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน การประชุมดังกล่าวมี นายพีรยุทธ์ ประดิษฐ์กุล รองอธิบดีอัยการ สำนักงานต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมร่วมกับทางประเทศพม่าโดยมี พ.ต.ท.U TIN OO ผู้บังคับการตำรวจเกาะสอง เป็นหัวหน้าคณะ และมีผู้เข้าร่วมประชุมจากจังหวัดเกาะสอง สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า มีอัยการจังหวัดเกาะสอง นายอำเภอเกาะสอง หัวหน้า ป.ป.ส.ภาคตะนาวศรี หัวหน้าปราบปรามการค้ามนุษย์เกาะสอง และ ตม.เกาะสอง และหัวหน้าส่วนราชการประเทศพม่า จังหวัดเกาะสอง และมีผู้เชี่ยวชาญฝ่ายไทย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 ตรวจคนเข้าเมือง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนแยก พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แรงงานจังหวัด จัดหางานจังหวัด สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด ตลอดจนตัวแทนจากหน่วยงานความมั่นคง และหน่วยงานด้านสังคมเข้าร่วมการประชุมกว่า 50 คน
นายพีรยุทธิ์ ประดิษฐ์กุล รองอธิบดีอัยการ สำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า การประชุมโดยชี้ให้เห็นถึงความซับซ้อนของปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ปัญหาการค้ามนุษย์นั้นก็ยังคงต้องรอการแก้ไขอย่างเร่งด่วน และจริงจัง ดังนั้น จึงหวังว่าเวทีการประชุมสัมมนาในครั้งนี้จะช่วยสร้างและประสานความเข้าใจระหว่างหน่วยงาน อันจะนำไปสู่การบูรณาการในการทำงานเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายในการแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว และปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติเป็นภัยคุมคามแบบใหม่ที่เกิดขึ้น และมีผลกระทบเป็นวงกว้างในระดับสากล ซึ่งปัญหาดังกล่าวมีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ และความปลอดภัยของประชาชน โดยเฉพาะปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติในพื้นที่แนวชายแดนไทย-พม่า ที่ปัจจุบันมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น จึงมีความจำเป็นในการเสริมสร้างความเข้าใจ และประสานความร่วมมือระหว่างบุคลากรระดับผู้ปฏิบัติการทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องในการป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในพื้นที่ เพื่อให้การดำเนินงานตามแผนโครงการด้านการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนของสำนักงานอัยการสูงสุดบรรลุเป้าหมายในการเสริมสร้างความมั่นคง และต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติของประเทศในภูมิภาคอาเซียนตอนบน และเพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของสำนักงานอัยการสูงสุด