โดย...ประสิทธิ์ชัย หนูนวล เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน
จากบทความที่เขียนลงในกรุงเทพธุรกิจ ลงท้ายว่าตัวเองเป็นสมาชิกสภาปฏิรูป ผมมีข้อสังเกตว่า คนแบบนี้ไปทำงานปฏิรูปก็คงต้องรออีก ๓ ชาติจึงจะปฏิรูปได้ ผมลองแจกแจงความคิดของ “มนูญ ศิริวรรณ” ที่เห็นว่าเป็นภัยต่อโลกให้ได้รับทราบดังนี้
๑.การเชียร์ถ่านหินแบบถนอมตัวเอง และเชียร์นิวเคลียร์ออกหน้า เป็นการสวนกระแสโลกที่นานาชาติออกมาเตือนถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่จะทำให้โลกถึงขั้นวิบัติจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทั่วโลกโดยเฉพาะสหประชาชาติได้ออกมาเตือนผู้นำทั้งโลกให้หยุดใช้พลังงานฟอสซิล ซึ่งได้รับการขานรับจากประเทศมหาอำนาจ และประเทศอื่นๆ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
วิธีคิดของคุณมนูญ มีแนวโน้มไปทางสนับสนุนการทำลายโลก ด้วยการเชียร์ให้เกิดการใช้พลังงานฟอสซิล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดภาวการณ์เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเป็นเหตุแห่งการทำลายสุขภาพ และระบบนิเวศที่สำคัญของโลก
๒.เมื่อคุณมนูญพูดถึงการกระจายความเสี่ยงเรื่องแหล่งเชื้อเพลิง ถือว่าเป็นหลักการที่ดี แต่พอเสนอรูปธรรมกลับนำเสนอถ่านหินให้เป็นแหล่งทางเลือกของเชื้อเพลิง ซึ่งก็วกเข้าสู่ความคิดที่เป็นภัยต่อโลก และมีวิธีคิดที่โน้มเอียงไปทางการผูกขาด เพราะถ่านหินมีเพียง ๑ หรือ ๒ บริษัทที่ผูกขาดการสัมปทานไว้แล้วที่จะนำมาใช้ในประเทศไทย
แทนที่จะเรียนรู้รูปธรรมที่ทั่วโลกใช้บนหลักการ “กระจายที่มาและกระจายผู้ผลิต” ด้วยการให้ประชาชนผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียน
๓.การพูดถึงประเทศเยอรมนี โดยคุณมนูญ เขียนด่าประชาชนว่า เสนอข้อมูลไม่ครบ ผมอุตส่าห์ดีใจว่าตัวคุณมนุญ เองจะเสนอข้อมูลครบทุกด้าน แต่ที่ไหนได้ เลือกเสนอมุมที่เป็นประโยชน์ต่อพ่อค้าถ่านหินอยู่ดี นี่ก็วกไปสู่ความคิดที่เป็นภัยต่อโลกอีกครั้ง
หลังจากนี้ ไม่ว่าภาคประชาชน หรือคุณมนูญ จะพูดถึงเยอรมนี เราพูดประเด็นเดียวกันได้ไหมว่า ประเทศนี้ และประเทศอื่นๆ ในโลกมีการวางแผนต่อการใช้นิวเคลียร์ และถ่านหินอย่างไร เราไม่ต้องเถียงกันหรอกว่ามันมีอยู่จริงหรือเปล่า นั่นเขาเลิกเถียงกันแล้วครับคุณมนูญ แต่ไปดูสิว่าประเทศเหล่านั้นเขามีแผนอย่างไรที่จะลดละเลิกโรงไฟฟ้าฟอสซิลให้ได้ในปีไหน นี่แหละคือ สาระของแผนพลังงานไฟฟ้า
๔.คุณมนุญ พูดถึงเรื่องการจัดทำรายงานอีไอเอ (EIA) ได้อย่างไร้เดียงสา ผมรู้สึกสงสารคุณมนุญ เป็นอย่างยิ่งเมื่ออ่านข้อเขียนประเด็นนี้ ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย หากจะเขียนบทความด่าคนอื่นก็ควรจะฉลาดกว่านี้หน่อยนะครับ
การฆ่าตัดตอนที่พยายามกล่าวถึงข้อเสนอของเครือข่ายปกป้องอันดามันนั้น ผมอยากจะบอกคุณมนุญ ว่า รายงานฉบับนี้เขาทำเสร็จมาตั้งนานแล้ว ตอนนี้รายงานอยู่ในขั้นการพิจารณาของผู้ที่ถูกตั้งชื่อว่า “ชำนาญการ” ซึ่งผมไม่เคยเชื่อว่าชำนาญการ
หากคุณมนูญ จะมีหัวใจที่เป็นธรรมสักเศษเสี้ยว ลองหันไปดูว่ากระบวนการทำอีไอเอนั้นมันอัปยศปานใด ใช้กองกำลังทหาร ตำรวจมากีดกันประชาชนไม่ให้แสดงความเห็น แบบนี้แหละที่เขาเรียกว่าไม่เป็นประชาธิปไตย กรุณาเข้าใจใหม่นะครับคุณมนูญ อายุก็หลายสิบปีแล้ว น่าจะมีวิจารณญาณมากกว่าผม
๕.คุณมนูญ ตั้งคำถามว่า เราถือสิทธิอะไรที่มาตัดสินใจแทนคนทั้งประเทศว่า ไม่ให้สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน นี่ก็เป็นความคิดที่เป็นภัยต่อโลก เพราะไม่มีความคิดของการเคารพคนท้องถิ่น ซึ่งทั่วโลกให้ความสำคัญมากต่อประเด็นสิทธิมนุษยชน รัฐธรรมนูญก่อนการรัฐประหารพูดเรื่องนี้ชัดเจน แม้รัฐธรรมนูญชั่วคราวในตอนนี้ก็กล่าวเรื่องนี้ไว้
การยึดเอาความคิดของคนส่วนกลางยัดเยียดมาสู่คนท้องถิ่น นี่เป็นนิสัยของเผด็จการ บุคคลเช่นนี้ดำรงอยู่ที่ไหนก็จะสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนในท้องถิ่น
การที่บอกว่ามีแค่ ๒ หมู่บ้านที่คัดค้าน ผมอยากจะบอกคุณว่า นอกจากข้อมูลไม่ครบแล้ว การสรุปของคุณนั้นมืดบอด คนที่มีมุมการวิเคราะห์แบบนี้ไปอยู่ในสภาปฏิรูปได้อย่างไร ความมืดบอดทางปัญญานั้นอยู่ตรงข้ามต่อการปฏิรูปนะครับ มากระบี่สิครับ มาตอนนี้เลย มาเดินถามเลย คุณมนูญว่า คนกระบี่เขาคิดอย่างไร
๖.ข้อสุดท้ายได้ตั้งข้อสังเกตว่า การที่เครือข่ายฯ ตัดสินใจมากรุงเทพฯ นั้น เพราะไม่สามารถสร้างแรงจูงใจแก่คนในพื้นที่ได้ การมากรุงเทพฯ จะสร้างแนวร่วมได้เพิ่มขึ้น สร้างความสนใจต่อสื่อและรัฐบาลได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ยากที่จะให้ทำใจได้ว่า การประท้วง หรือการคัดค้านครั้งนี้จะไม่มีคนหรือทุนสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
ประการหลังสุดนี้ ผมคิดว่าไร้เดียงสากว่าทุกข้อที่ผ่านมา เมื่อสู้ด้วยเหตุผลไม่ได้ ก็มักจะกล่าวอ้างคนอยู่เบื้องหลัง คนอยู่เบื้องหลังพวกผมก็คือ ประชาชนผู้คัดค้าน และบรรดานักธุรกิจท่องเที่ยวที่ออกมาแสดงตัวต่อสาธารณะ พร้อมด้วยข้อเสนออยู่ทุกวี่วัน
ส่วนถ้าจะหมายความว่า มีผู้อยู่เบื้องหลังด้วยการแอบแฝงผลประโยชน์ ผมอยากจะบอก คุณมนูญ ว่า อย่าใช้สิ่งที่อยู่ในหัวของตัวเองมาอธิบายพฤติกรรมของคนอื่น
ถ้าคุณนับถือศาสนาพุทธ ผมอยากจะชวนแบบนี้นะครับ คุณมนูญ ในฐานะที่คุณชรากว่าผมหลายสิบปี คำสอนของพระพุทธองค์นั้นบอกให้เราดำรงตนอยู่ด้วยความไม่ประมาท ลาภ ยศ สรรเสริญ เป็นของจอมปลอม เงินตราที่หามาได้นั้นตามเราไปไม่ได้เลยสักบาท แม้กระทั่งเงินที่ใส่ปากตอนตาย ก็เอาไปไม่ได้เลย
หวังว่าคงจะมีสติมากขึ้นนะครับ