ตรัง - เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของจังหวัดตรัง หลังฝนตกหนักทั้งคืนทั้งวัน ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมถนน และสะพานในอำเภอสิเกา และอำเภอวังวิเศษ จนต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน
วันนี้ (7 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักตลอดทั้งคืนทั้งวันที่ผ่านมา ส่งผลกระทบให้มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยสูงขึ้น ทำให้บริเวณสะพานคลองสองแพรก กิโลเมตรที่ 23+017 หมู่ที่ 1 บ้านห้วยต่อ ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง มีน้ำท่วมบริเวณถนนสะพานระยะทางประมาณ 500 เมตร และมีน้ำเออขึ้นบริเวณช่วงกลางสะพานประมาณ 60 เซนติเมตร ทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาวิ่งผ่านได้ ขณะที่บ้านเรือนประชาชนบริเวณสะพานได้รับผลกระทบแล้วประมาณ 3 หลังคาเรือน
ล่าสุด ทหารจากค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง และเจ้าหน้าที่จากหน่วยกู้ภัยอำเภอสิเกา ได้เข้ามาอำนวยความสะดวกดูแลการสัญจรไปมาบริเวณดังกล่าวแล้ว เนื่องจากเส้นทางนี้สามารถสัญจรไปมาในพื้นที่จังหวัดกระบี่ได้ สำหรับพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำเอ้อล้นอยู่บ่อยครั้งหากเกิดภาวะฝนตกหนัก
นอกจากนี้ ในพื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลเขาวิเศษ อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง ก็ได้เกิดน้ำเอ่อล้นท่วมคลองบางพระ และไหลเข้าท่วมสวนยางพาราบริเวณใกล้เคียง ระดับน้ำสูงเลยราวสะพาน และไหลเชี่ยวกราก ทำให้ทั้งรถเล็ก และรถใหญ่ไม่สามารถวิ่งผ่านได้ โดยมี อปพร.ในพื้นที่พร้อมด้วยรถหน่วยกู้ภัยได้มาเฝ้าดูเพื่อสังเกตุการณ์ พร้อมติดตั้งป้ายระวังน้ำท่วมเพื่อให้ผู้สัญจรไปมาหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางนี้
ด้าน นายอำไพ แสงแก้ว อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ที่ 6 ตำบลวังมะปราง อำเภอวังวิเศษ กล่าวว่า จากฝนที่ตกหนักตลอดทั้งคืนทั้งวันทำให้ระดับน้ำในคลองบางพระสูงขึ้น จนท่วมสะพานระยะทางเกือบ 100 เมตร และหากฝนยังตกติดต่อกันปริมาณน้ำก็น่าจะสูงขึ้นกว่านี้ จึงฝากเตือนประชาชนให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางสายบางแป้น-เขาวิเศษ (หน้าเขา) แทน ขณะที่บ้านเกาะไทร หมู่ที่ 21 ตำบลเขาวิเศษ ต้นจามจุรีขนาดใหญ่ก็ได้ล้มทับเส้นทางจนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ทำให้รถติดยาวระยะทางประมาณ 500 เมตร ทั้ง 2 ฝั่งถนน
นายวินิต สุวรรณคล้า ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองคล้า กล่าวว่า สำหรับต้นจามจุรีขนาดใหญ่ที่ล้มปิดเส้นทางนี้ มีอายุประมาณ 70-80 ปี โดยถูกน้ำกัดเซาะดินจนต้นไม้แบกรับน้ำหนักไม่ไหว ประกอบกับเกิดลมพายุพัดแรง ส่งผลให้ต้นจามจุรีขนาดใหญ่ล้มขวางถนน ซึ่งมีรถจักรยานยนต์ของสาวโรงงานได้รับความเสียหาย จำนวน 1 คัน แต่โชคดีที่คนขับไม่ได้รับอันตราย ก่อนจะประสานไปยังเจ้าหน้าที่ของกรมทางหลวง ให้เข้ามาตัดต้นไม้ที่ล้มขวางทางจราจรเพื่อให้ประชาชนใช้เส้นทางสัญจรไปมาได้
