ชุมพร - 2 โจ๋ขับ จยย.กลับจากเที่ยวสถานบันเทิงกลางดึก ตกสะพานสูง 4 เมตร ที่กำลังอยู่ระหว่างก่อสร้าง คนขับกระแทกพื้นดับอนาถ ส่วนเพื่อนบาดเจ็บ
เมื่อเวลา 01.45 น. วันนี้ (4 ส.ค.) ร.ต.ท.ชัยยุทธิ์ เชียงสอน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุคนขับรถจักรยานยนต์ตกสะพานที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างเสียชีวิต บริเวณหมู่ 9 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร จึงไปตรวจสอบ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสายชลมูลนิธิชุมพร แพทย์เวรโรงยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
ที่เกิดเหตุห่างจากป้อมตำรวจสายตรวจแยกทางตัน ประมาณ 500 เมตร เป็นถนนอยู่ระหว่างการก่อสร้างใหม่ เป็นเส้นทางลัดจากตัวเมืองชุมพร ออกสู่ถนนเพชรเกษมในเขตพื้นที่อำเภอท่าแซะ จุดเกิดเหตุเป็นสะพานที่กำลังก่อสร้างข้ามทางระบายน้ำสูงประมาณ 4 เมตร ลักษณะคล้ายสะพานขาด เหลืออีกประมาณ 4 เมตร จะเชื่อมต่อกันกันทั้งสองฝั่ง ที่ใต้สะพานเทพื้นคอนกรีตเป็นช่องทางระบายน้ำ พบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีแดง ทะเบียน กษฉ 47 ชุมพร สภาพตกจากสะพานพังยับเยิน มีผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือด 1 ราย
ทราบเป็นคนขับคือ นายเอกชัย วัจนะเสนาะ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/49 หมู่ 9 ตำบลตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร สภาพศพนุ่งกางเกงยีนส์สีดำ เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีเขียวขี้ม้า นอนคว่ำหน้าคอ หักกะโหลกยุบมีแผลฉกรรจ์หลายแห่ง เลือดออกทางปากจมูก มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 1 คน ทราบชื่อคือ นายสุทธิพงษ์ ตติยะวิวัฒน์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161 ถนนประชาอุทิศ ตำบลท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร อยู่ในสภาพพูดจาวกวนสับสนไม่ค่อยรู้เรื่อง ส่วนบนถนนใกล้กับคอสะพานซึ่งเป็นช่วงเชื่อมต่อต่างระดับพบป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวตกอยู่เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายเอกชัย ผู้ตาย และนายสุทธิพงษ์ ผู้บาดเจ็บได้ขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง บริเวณสะพานคู่ขนานข้ามทางรถไฟในตัวเมืองชุมพร เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นถนนที่กำลังสร้างใหม่ และอยู่ระหว่างการก่อสร้างสะพานข้ามทางระบายน้ำ โดยปากทางเข้าก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร มีเพียงแสงไฟสลัวค่อนข้างมืด ไม่มีป้ายบอกห้ามผ่าน หรือแจ้งเตือนว่าสะพานกำลังก่อสร้าง มีเพียงป้ายเขียนข้อความว่า “โปรดระวังข้างหน้ามีรถบรรทุกเข้า-ออก” ริมทางทั้งสองข้างมีกรวยสีส้มวางกั้นไว้ ส่วนตรงกลางถนนเปิดให้รถวิ่งผ่านเข้าออกได้ ด้านในมีรถบรรทุกน้ำ 1 คัน และรถบดถนน 2 คัน จอดอยู่ริมถนนด้านซ้าย
เจ้าหน้าที่สันนิษฐาน ว่า นายเอกชัย ผู้ตายซึ่งเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ ส่วนนายสุทธิพงษ์ ผู้บาดเจ็บได้นั่งซ้อนท้าย ทั้งคู่มีอาการมึนเมาสุราเนื่องจากกลับจากเที่ยวสถานบันเทิง ได้ขับรถจักรยานยนต์มาถึงที่เกิดเหตุแล้วเกิดหลงเข้าไปในเส้นทางดังกล่าว เนื่องจากถนนค่อนข้างมืด มีไฟแสงส่องสว่างน้อย และไม่มีเครื่องปิดกั้นแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเป็นทางขาดอันตรายสะพานอยู่ระหว่างการก่อสร้าง จนทำให้รถจักรยานยนต์พุ่งตกลงไป เป็นเหตุให้นายเอกชัย เสียชีวิต ส่วนนายสุทธิพงษ์ นั่งซ้อนตกลงไปทับร่างของนายเอกชัย ทำให้บาดเจ็บเล็กน้อย
เมื่อเวลา 01.45 น. วันนี้ (4 ส.ค.) ร.ต.ท.ชัยยุทธิ์ เชียงสอน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุคนขับรถจักรยานยนต์ตกสะพานที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างเสียชีวิต บริเวณหมู่ 9 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร จึงไปตรวจสอบ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสายชลมูลนิธิชุมพร แพทย์เวรโรงยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
ที่เกิดเหตุห่างจากป้อมตำรวจสายตรวจแยกทางตัน ประมาณ 500 เมตร เป็นถนนอยู่ระหว่างการก่อสร้างใหม่ เป็นเส้นทางลัดจากตัวเมืองชุมพร ออกสู่ถนนเพชรเกษมในเขตพื้นที่อำเภอท่าแซะ จุดเกิดเหตุเป็นสะพานที่กำลังก่อสร้างข้ามทางระบายน้ำสูงประมาณ 4 เมตร ลักษณะคล้ายสะพานขาด เหลืออีกประมาณ 4 เมตร จะเชื่อมต่อกันกันทั้งสองฝั่ง ที่ใต้สะพานเทพื้นคอนกรีตเป็นช่องทางระบายน้ำ พบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีแดง ทะเบียน กษฉ 47 ชุมพร สภาพตกจากสะพานพังยับเยิน มีผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือด 1 ราย
ทราบเป็นคนขับคือ นายเอกชัย วัจนะเสนาะ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/49 หมู่ 9 ตำบลตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร สภาพศพนุ่งกางเกงยีนส์สีดำ เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีเขียวขี้ม้า นอนคว่ำหน้าคอ หักกะโหลกยุบมีแผลฉกรรจ์หลายแห่ง เลือดออกทางปากจมูก มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 1 คน ทราบชื่อคือ นายสุทธิพงษ์ ตติยะวิวัฒน์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161 ถนนประชาอุทิศ ตำบลท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร อยู่ในสภาพพูดจาวกวนสับสนไม่ค่อยรู้เรื่อง ส่วนบนถนนใกล้กับคอสะพานซึ่งเป็นช่วงเชื่อมต่อต่างระดับพบป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวตกอยู่เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายเอกชัย ผู้ตาย และนายสุทธิพงษ์ ผู้บาดเจ็บได้ขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง บริเวณสะพานคู่ขนานข้ามทางรถไฟในตัวเมืองชุมพร เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นถนนที่กำลังสร้างใหม่ และอยู่ระหว่างการก่อสร้างสะพานข้ามทางระบายน้ำ โดยปากทางเข้าก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร มีเพียงแสงไฟสลัวค่อนข้างมืด ไม่มีป้ายบอกห้ามผ่าน หรือแจ้งเตือนว่าสะพานกำลังก่อสร้าง มีเพียงป้ายเขียนข้อความว่า “โปรดระวังข้างหน้ามีรถบรรทุกเข้า-ออก” ริมทางทั้งสองข้างมีกรวยสีส้มวางกั้นไว้ ส่วนตรงกลางถนนเปิดให้รถวิ่งผ่านเข้าออกได้ ด้านในมีรถบรรทุกน้ำ 1 คัน และรถบดถนน 2 คัน จอดอยู่ริมถนนด้านซ้าย
เจ้าหน้าที่สันนิษฐาน ว่า นายเอกชัย ผู้ตายซึ่งเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ ส่วนนายสุทธิพงษ์ ผู้บาดเจ็บได้นั่งซ้อนท้าย ทั้งคู่มีอาการมึนเมาสุราเนื่องจากกลับจากเที่ยวสถานบันเทิง ได้ขับรถจักรยานยนต์มาถึงที่เกิดเหตุแล้วเกิดหลงเข้าไปในเส้นทางดังกล่าว เนื่องจากถนนค่อนข้างมืด มีไฟแสงส่องสว่างน้อย และไม่มีเครื่องปิดกั้นแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเป็นทางขาดอันตรายสะพานอยู่ระหว่างการก่อสร้าง จนทำให้รถจักรยานยนต์พุ่งตกลงไป เป็นเหตุให้นายเอกชัย เสียชีวิต ส่วนนายสุทธิพงษ์ นั่งซ้อนตกลงไปทับร่างของนายเอกชัย ทำให้บาดเจ็บเล็กน้อย