xs
xsm
sm
md
lg

กอ.รมน.ภ.4 ส่วนหน้า แถลงเหตุกลุ่มโจรบุกยิงถล่มชุด อส.ชคต.ยะลา เจ็บ 18 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ยะลา - โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงข่าวกรณีคนร้ายบุกยิงถล่มฐานปฏิบัติการ อส.ชุดคุ้มครองตำบล ที่ อ.ยะหา จ.ยะลา เผยที่ผ่านมาการข่าวพบความเคลื่อนไหวตัวบุคคล แต่ไม่พบการเคลื่อนไหวแบบกลุ่มก่อการร้าย ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการตรวจสอบความเสียหาย และรวบรวมวัตถุพยาน

วันนี้ (31 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายไม่ต่ำกว่า 20 คน ใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มจุดตรวจ อส.ชุดคุ้มครองตำบลบาโร๊ะ ที่หมู่8 บ.บาโร๊ะ ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา หลังเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มป้อม เป็นเหตุให้มี จนท.อส.ได้รับบาดเจ็บ 18 ราย เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.15 น. ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าล่าสุด ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 18 ราย โดยบาดเจ็บสาหัส 6 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ปัจจุบันอาการปลอดภัย และบาดเจ็บเล็กน้อย 12 ราย โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา 5 ราย และแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว 7 ราย ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ส่วนราชการพลเรือน ในการเข้ามามีส่วนร่วมดูแลความปลอดภัยพื้นที่ โดยมอบหมายให้ปลัดอำเภอ หรือกำนันเป็นหัวหน้าชุด จัดกำลังหลักจาก จนท.อส. และกำลังภาคประชาชนในพื้นที่ปฏิบัติงานภายใต้การควบคุมและกำกับดูแลของศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ โดยในห้วงที่ผ่านมา ชุดคุ้มครองตำบลได้ปฏิบัติงานด้วยความเข้มแข็ง สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชน และแบ่งเบาภาระในการดูแลพื้นที่ของเจ้าหน้าที่รัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวว่า “กรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงพยายามเข้าโจมตีฐานปฏิบัติการ โดยเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองตำบลได้ทำการยิงตอบโต้กับกลุ่มคนร้าย และถอนตัวเข้าที่มั่นสำรองพร้อมกับร้องขอกำลังเพิ่มเติมจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 เข้าทำการช่วยเหลือ และสามารถเข้าควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการตรวจสอบความเสียหาย และรวบรวมวัตถุพยาน และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเชื่อมโยงกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ และติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

“ทั้งนี้ ท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งกำชับให้หน่วยเร่งคลี่คลายสถานการณ์ ประชุมร่วม 3 ฝ่ายในพื้นที่ เพื่อสำรวจ และฟื้นฟูความเสียหายทดแทนกำลัง และสถาปนาความเข้มแข็งฐานปฏิบัติการให้กลับคืนมาโดยเร็ว นอกจากนี้ ให้ทุก ชคต.ทบทวนแผนเผชิญเหตุ และวางระบบการป้องกันฐานให้เข้มแข็ง เช่น ระบบแจ้งเตือนภัย ระบบแจ้งเตือนเหตุ และเครื่องกีดขวาง โดยจะยังคงมุ่งเน้นการผนึกกำลังภาคประชาชน และ ชคต. ให้เข้ามามีส่วนร่วมกับภาครัฐในการดูแลความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชนให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”

โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังกล่าวอีกว่า สำหรับอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ที่ถูกกลุ่มคนร้ายนำไปด้วยนั้นอยู่ในระหว่างตรวจสอบว่าเป็นจำนวนเท่าไหร่ แต่ในเบื้องต้น ได้รับรายงานว่า ประมาณ 6-7 กระบอก ประกอบด้วย อาวุธปืนลูกซอง อาวุธปืน AK102 และอาวุธปืนพกสั้น ซึ่งอยู่ในระหว่างการตรวจสอบจำนวนที่ถูกต้องอีกครั้ง

“ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการข่าวได้มีการแจ้งเตือนการพบความเคลื่อนไหวของตัวบุคคลที่เข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ แต่ไม่พบการเคลื่อนไหวเป็นกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งทางแม่ทัพภาค 4 ได้มีคำสั่งให้หน่วยปฏิบัติการในพื้นที่ไปวางระบบการข่าวภาคประชาชนให้มีความเข้มแข็ง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น” พ.อ.ปราโมทย์ กล่าว

 

กำลังโหลดความคิดเห็น