นราธิวาส - เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส เตือนสติอย่าเหมารวมเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดจนทำให้พระมรณภาพ ว่า คนมุสลิมไม่ดีทั้งหมด พร้อมแจงการปฏิบัติกิจสงฆ์ในช่วงพรรษานี้
วันนี้ (30 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงกรณีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหาร ชุดรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์ออกบิณฑบาต ในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต และพระสงฆ์มรณภาพว่า
“อาตมาก็พิจารณาดูแล้วมันเป็นเรื่องของคนชั่ว คนที่ไม่มีศาสนา ไม่มีคุณธรรมเลยทำสิ่งชั่วร้ายได้ ฆ่ากระทั่งพระ ชาวบ้าน ถ้าเป็นคนดีๆ เขาจะไม่ทำกัน ไม่ว่าศาสนาไหน หรือกระทั่งศาสนาอิสลาม เขาถือว่าเป็นบาป การเบียดเบียนคนอื่น ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องเข้าใจว่าไม่ใช่คนมุสลิมทั้งหมด มันเป็นเฉพาะคนเท่านั้นที่ไปทำชั่ว มันมีไม่กี่คน เราต้องแยกแยะให้ออก จะไปเหมาว่าเป็นคนมุสลิมทั้งหมดไม่ได้ เขาพยายามที่จะทำให้เกิดความแตกแยกทางศาสนา ซึ่งทางภาคใต้ในอดีตไม่เคยมีความแตกแยกเราอยู่ร่วมกันแบบฉันพี่น้องตลอดมา”
“เวลานี้เหตุการณ์ต่างๆ มันเริ่มดีขึ้น คนที่เคยกระทำความชั่วก็เริ่มมีจิตสำนึกเข้ามามอบตัวต่อทางการมากขึ้น และได้พยายามออกมามอบตัวเรื่อยๆ เพื่อกลับสู่บ้านสู่ครอบครัว ซึ่งบางคนหนีไปอยู่ต่างประเทศเสียนาน ทำให้ครอบครัวเกิดความเดือดร้อน พ่อแม่เป็นทุกข์ อาตมาคิดว่ากลับมามอบตัวเสียเถอะ แม้จะมีหมาย ป.วิ อาญา ก็ขอให้ว่าไปตามกฎหมาย ส่วนคนที่ไม่มีหมายก็ขอให้กลับมาอยู่บ้านอยู่กับครอบครัว สร้างฐานะครอบครัวให้มีความสุขความเจริญต่อไป” พระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส กล่าว
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การปฏิบัติกิจของพระสงฆ์ คือ การออกบิณฑบาตในช่วงพรรษาตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่จะถึงนี้ พระสงฆ์ทุกรูปก็ยังคงต้องถือปฏิบัติ ถึงแม้จะมีเหตุการณ์ร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นมาซ้ำซ้อนอีก โดยทางมติของคณะสงฆ์ที่ได้ร่วมประชุมกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และสำนักพระพุทธศาสนา ที่วัดทองดีประชาราม ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมาลงความเห็นว่า
ควรจะให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์ออกบิณฑบาตในแต่ละพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ เป็นผู้พิจารณาถึงความเหมาะสม โดยยึดหลักความปลอดภัย ซึ่งในบางพื้นที่ของแต่ละอำเภอ พระสงฆ์จะไม่ออกบิณฑบาต แต่จะรอยืนรับบาตรจากชาวบ้านที่บริเวณภายในวัด และบางพื้นที่อำเภอ พระสงฆ์จะออกเดินบิณฑบาตตามปกติ ในพื้นที่เซฟตี้โซนที่ผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยไม่มีการบังคับว่าพระสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ในวัดของพื้นที่ จ.นราธิวาส ห้ามออกบิณฑบาตโดยเด็ดขาดแต่อย่างใด
