นราธิวาส - เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคุมเข้มพระบิณฑบาตหลังเกิดเหตุระเบิดที่ปัตตานี ด้าน ปชช.กล่าวควรคุมเข้มตลอดเวลามิใช่รอให้เกิดเรื่องถึงค่อยมาคุม
วันนี้ (26 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมาตรการคุมเข้มพระสงฆ์ออกบิณฑบาตจากพื้นที่ จ.นราธิวาส หลังเกิดเหตุร้ายขึ้นในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จนทำให้พระสงฆ์ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดจนมรณภาพ เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต และประชาชนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดในช่วงเช้าของวันที่ 25 ก.ค.58 ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด จากการตระเวนตรวจสอบมาตรการคุมเข้มของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อมิให้เหตุร้ายเกิดขึ้นซ้ำซ้อนขึ้นมาอีกนั้น โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่หนึ่งที่มีวัดอยู่เป็นจำนวนมากนั้น โดยในช่วงเช้าได้เดินทางไปสังเกตการณ์ที่บริเวณวัดเทพวิมล หรือวัดท่านเอียด พ.ท.พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก ผบ.ฉก.นราธิวาส 36 ได้จัดกำลังให้ จ.ส.อ.ศุภรัตน์ จันทร์เรือง นำเจ้าหน้าที่เจ้าทหาร จำนวน 1 ชุด ปฏิบัติการออกให้การรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์ที่ไม่ได้ออกบิณฑบาต ด้วยการจัดกำลังยืน รปภ.เข้มที่บริเวณประตูทางเข้าวัด และกระจายกำลังกันยืน รปภ.พระสงฆ์ ที่ยืนรอรับบาตรจากประชาชนที่เดินทางมาใส่บาตรถึงวัด เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น
ในส่วนของพระสงฆ์วัดต่างๆ ที่เดินออกบิณฑบาตตามปกตินั้น พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก ก็ได้มีการจัดพื้นที่เซฟตี้โซนเฉพาะ ให้พระสงฆ์เดินรับบาตรจากพี่น้องประชาชนตามเส้นทางที่กำหนด ซึ่งก่อนพระสงฆ์จะออกเดินบิณฑบาตนั้นก็ได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังกับฝ่ายปกครอง ในการเดินตรวจสอบความเรียบร้อย และสังเกตสิ่งผิดปกติตลอดเส้นทางที่พระสงฆ์เดินรับบาตร เมื่อปลอดภัยแล้วจึงได้ประสานให้พระสงฆ์เดินบิณฑบาตตามเส้นทาง โดยได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบว่าจุดใดบ้างที่พระสงฆ์จะเดินทางไปรับบาตร
โดย นางจันทร์ ขอสงวนนามสกุล เปิดเผยว่า การจัดระเบียบให้พระสงฆ์รับบิณฑบาตตามเส้นทางที่กำหนดก็ถือว่ามีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง ทั้งพระสงฆ์เอง และประชาชนที่ใส่บาตร แต่ต้องมีการปฏิบัติอย่างเข้มงวด และต่อเนื่อง มิใช่เมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้นในครั้งใด เจ้าหน้าที่ก็จะเข้มงวดขึ้นมาอีกครั้ง ถ้าเป็นเช่นนี้ถือว่าปัญหายังไม่จบแล้วพระสงฆ์กับชาวบ้านที่ใส่บาตรจะมั่นใจถึงความปลอดภัยได้อย่างไร