สุราษฎร์ธานี - สลดพิษรักแรงหึง หัวหน้า รปภ.ม.อ.เขตสุราษฎร์ธานี วัย 62 ตามตื๊อแม่หม้ายสาววัย 40 ปี ไม่สำเร็จ ใช้ปืนจ่อยิงดับคาหอพัก ก่อนฆ่าตัวตายตามหนีความผิด
วานนี้ (27 ก.ค.) พ.ต.ต.ชาคริต อินทรักษ์ พนักงานสอบสวน สภ.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายภายในห้องพัก หอพักหญิงแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.9 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง ติดกับป้อมยามประตู 3 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี (ม.อ.สุราษฎร์ธานี) จึงรายงานต่อผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.เชาวลิต เลี้ยงศุพงษ์ ผกก.สภ.ขุนทะเล และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง แพทย์เวรโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี
ที่เกิดเหตุเป็นหอพักหญิง 2 ชั้น โดยภายในห้องพักห้องที่ 3 ชั้น 1 พบศพชายหญิงนอนเสียชีวิตบริเวณหน้าประตูห้องน้ำ และพบปลอกกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 2 ปลอก โดยศพแรกเป็นหญิงทราบชื่อภายหลังคือ นางจรรยา เจียมเทศน์ อายุ 40 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 118/10 ม.7 ต.ศิลาฉาย อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นแม่บ้านของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี (ม.อ.สุราษฎร์) สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่บริเวณหน้าอกด้านซ้าย และที่ศีรษะเสียชีวิตคาที่ ใกล้กันพบศพชายทราบชื่อคือ นายบุญช่วย จิตตานนท์ อายุ 62 ปี เป็นหัวหน้า รปภ.มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี (ม.อ.สุราษฎร์ธานี) สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันเข้าที่บริเวณขมับขวาเสียชีวิตคาที่ ในที่เกิดเหตุพบอาปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก ปลอกกระสุนที่ยิงแล้ว จำนวน 2 ปลอก และปลอกกระสุนคาอยู่ในรังเพลิงอีก 1 ปลอก
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.10 น. มีนักศึกษาที่พักบนชั้น 2 หอพักเดียวกันได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด จากนั้นก็เงียบไปจนกระทั่ง นางธนันญา ขั่นห้อ อายุ 42 ปี พี่สาวนางจรรยา ผู้ตายเดินมาหาที่ห้องพักเพื่อชวนผู้ตายฝ่ายหญิงไปตีแบดมินตันออกกำลังกายด้วยกันตามปกติเหมือนทุกวัน แต่กลับมาพบน้องสาวถูกยิงเสียชีวิตแล้ว
ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าสาเหตุการตายของทั้งคู่น่าจะมาจากเหตุหึงหวง ของนายบุญช่วย ที่คอยตามจีบฝ่ายหญิงมาเป็นเวลานาน เนื่องจากผู้ตายฝ่ายหญิงเป็นแม่ม่าย และลูกติด 2 คน และใช้ชีวิตตามลำพังส่งเสียลูกเรียน โดยลูกอยู่กับญาติที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งฝ่ายหญิงในช่วงกลางวันทำงานเป็นแม่บ้านของ ม.อ.สุราษฎร์ธานี
โดยเมื่อวานนี้ผู้ตายได้เดินทางกลับมาห้องพักที่เกิดเหตุในเวลา 14.30 น. และคาดว่าฝ่ายชายได้ติดตามมาพูดคุย และเจรจาตกลงในเรื่องฝ่ายชายมาติดพัน แต่ฝ่ายหญิงไม่เล่นด้วย ฝ่ายชายจึงใช้อาวุธปืนที่เตรียมมาก่อเหตุดังกล่าว โดยเจตนาจ่อยิงฝ่ายหญิงถึง 2 นัด ก่อนจะฆ่าตัวตายตามหนีความผิดที่ก่อไว้
วานนี้ (27 ก.ค.) พ.ต.ต.ชาคริต อินทรักษ์ พนักงานสอบสวน สภ.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายภายในห้องพัก หอพักหญิงแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.9 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง ติดกับป้อมยามประตู 3 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี (ม.อ.สุราษฎร์ธานี) จึงรายงานต่อผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.เชาวลิต เลี้ยงศุพงษ์ ผกก.สภ.ขุนทะเล และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง แพทย์เวรโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี
ที่เกิดเหตุเป็นหอพักหญิง 2 ชั้น โดยภายในห้องพักห้องที่ 3 ชั้น 1 พบศพชายหญิงนอนเสียชีวิตบริเวณหน้าประตูห้องน้ำ และพบปลอกกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 2 ปลอก โดยศพแรกเป็นหญิงทราบชื่อภายหลังคือ นางจรรยา เจียมเทศน์ อายุ 40 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 118/10 ม.7 ต.ศิลาฉาย อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นแม่บ้านของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี (ม.อ.สุราษฎร์) สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่บริเวณหน้าอกด้านซ้าย และที่ศีรษะเสียชีวิตคาที่ ใกล้กันพบศพชายทราบชื่อคือ นายบุญช่วย จิตตานนท์ อายุ 62 ปี เป็นหัวหน้า รปภ.มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี (ม.อ.สุราษฎร์ธานี) สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันเข้าที่บริเวณขมับขวาเสียชีวิตคาที่ ในที่เกิดเหตุพบอาปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก ปลอกกระสุนที่ยิงแล้ว จำนวน 2 ปลอก และปลอกกระสุนคาอยู่ในรังเพลิงอีก 1 ปลอก
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.10 น. มีนักศึกษาที่พักบนชั้น 2 หอพักเดียวกันได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด จากนั้นก็เงียบไปจนกระทั่ง นางธนันญา ขั่นห้อ อายุ 42 ปี พี่สาวนางจรรยา ผู้ตายเดินมาหาที่ห้องพักเพื่อชวนผู้ตายฝ่ายหญิงไปตีแบดมินตันออกกำลังกายด้วยกันตามปกติเหมือนทุกวัน แต่กลับมาพบน้องสาวถูกยิงเสียชีวิตแล้ว
ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าสาเหตุการตายของทั้งคู่น่าจะมาจากเหตุหึงหวง ของนายบุญช่วย ที่คอยตามจีบฝ่ายหญิงมาเป็นเวลานาน เนื่องจากผู้ตายฝ่ายหญิงเป็นแม่ม่าย และลูกติด 2 คน และใช้ชีวิตตามลำพังส่งเสียลูกเรียน โดยลูกอยู่กับญาติที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งฝ่ายหญิงในช่วงกลางวันทำงานเป็นแม่บ้านของ ม.อ.สุราษฎร์ธานี
โดยเมื่อวานนี้ผู้ตายได้เดินทางกลับมาห้องพักที่เกิดเหตุในเวลา 14.30 น. และคาดว่าฝ่ายชายได้ติดตามมาพูดคุย และเจรจาตกลงในเรื่องฝ่ายชายมาติดพัน แต่ฝ่ายหญิงไม่เล่นด้วย ฝ่ายชายจึงใช้อาวุธปืนที่เตรียมมาก่อเหตุดังกล่าว โดยเจตนาจ่อยิงฝ่ายหญิงถึง 2 นัด ก่อนจะฆ่าตัวตายตามหนีความผิดที่ก่อไว้