ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ความคืบหน้าการสอบสวนคดีลอบวางระเบิดหน้าร้านครกทองคาราโอเกะ ในเขตเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ อ.สะเดา เมื่อคืนวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บ 3 คน เจ้าหน้าที่ยังไม่พบเบาะแสเพิ่มเติมของคนร้าย
วันนี้ (13 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน สภ.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ได้ทำการสอบพยานแวดล้อมไปแล้ว 30 ปาก ทั้งผู้เสียหาย เจ้าของบ้าน เจ้าของรถจักรยานยนต์ และญาติของผู้เสียชีวิต เพื่อนำมาประกอบคดีนี้ทั้งในส่วนของเบาะแสคนร้าย รวมทั้งการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบผลพวงของเหตุระเบิดทั้งหมด
ทั้งนี้ ในส่วนของเบาะแสคนร้ายจากการสอบสวนพยานทราบเพียงว่า เป็นผู้ชายสวมหมวกแก๊ปสีขาว สวมเสื้อยืดสีดำแดง กางขายาวสีดำ อายุประมาณ 25-30 ปี และน่าจะมีภูมิลำเนาอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากพูดภาษาไทยไม่ชัด แต่ยังไม่สามารถที่จะระบุถึงรูปพรรณสัณฐาน หรือใบหน้าที่จะชี้ชัดได้ว่าเป็นใคร ที่สำคัญจากการตรวจสอบภาพาจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับจุดเกิดเหตุรวมทั้งในเขตเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ ก็ไม่มีจุดไหนที่สามารถจับภาพคนร้ายได้เลย ทางฝ่ายสืบสวนจึงต้องไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่รอบนอกในช่วงเวลาทั้งก่อน และหลังเกิดเหตุเพื่อดูความเคลื่อนไหวของคนร้าย รวมถึงได้ประสานด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ และด่านพรมแดนสะเดา เพื่อช่วยตรวจสอบภาพบุคคลต้องสงสัยที่เดินทางออกนอกประเทศหลังเกิดเหตุด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้จะยังไม่สามารถที่จะชี้ชัดมือวางระเบิดได้ แต่แนวทางการสืบสวนเจ้าหน้าที่ยังมุ่งไปที่ผู้ต้องหากลุ่มเดิมที่ก่อเหตุลอบวางระเบิด 2 จุดใน อ.หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมปี 57 ที่ยังหลบหนีอีก 4 คน เพราะเชื่อว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องต่อระเบิดที่ปาดังเบซาร์